สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

มือถือเปิดศึกชิงมาร์เก็ตแชร์ตลาดกลางถึงล่างระอุ บิ๊กแบรนด์-เฮาส์แบรนด์สู้กันเต็มพิกัด "ไอ-โมบาย" ส่ง "ฟีเจอร์โฟน" ท้าชน "โนเกีย" ขณะที่สังเวียนสมาร์ทโฟนยักษ์ "ซัมซุง" ยังแรงจัดเก็บทุกเม็ดบนยันล่าง ดัน "กาแล็คซี่ พ็อกเกต" ราคาต่ำ 4 พันโกยแชร์ "บีบี-โมโตโรล่า" อั้นไม่อยู่ หั่นราคาลงอีก 3 พันบาท

เหมือน จะแรงแต่ไม่แรงจริง หลังยักษ์ "โนเกีย" เปิดตัวสมาร์ทฟีเจอร์ 3 รุ่นตระกูล Asha ทั้งรุ่น 311 ที่ราคา 3,800 บาท, รุ่น 305 และ 306 (ราคา 2,600-2,800 บาท) แม้ทั้งสเป็กและราคาจะโดนใจไม่น้อย

แต่กว่าสินค้าจะออกสู่ตลาดก็โดนคู่แข่งทั้งบิ๊กแบรนด์และเฮาส์แบรนด์ส่งสินค้าตัดหน้าชิงธงโกยยอดขายนำไปก่อนแล้ว

ไม่ ใช่แค่ในกลุ่มสินค้าสมาร์ทฟีเจอร์โฟน (เหนือกว่าฟีเจอร์โฟนแต่ไม่ถึงสมาร์ทโฟน) "สมาร์ทโฟน" หลายยี่ห้อทั้งหั่นราคารุ่นเดิมลง และส่งรุ่นใหม่ออกมาตัดหน้า

นาย ไพโรจน์ ถาวรสภานันท์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทีจีโฟน จำกัด กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ปัจจุบันผู้ที่ต้องการใช้โทรศัพท์มือถือที่เล่นอินเทอร์เน็ตและโซเชีย ลเน็ตเวิร์กได้ แต่มีกำลังซื้อไม่ถึง 4 พันบาท มีมาก คิดเป็นสัดส่วน 30% ของตลาดรวมทำให้ผู้ผลิตทั้งอินเตอร์แบรนด์ และเฮาส์แบรนด์ลงมาแข่งชิงส่วนแบ่งตลาด ปัจจุบันมีเพียงซัมซุง, โนเกีย และไอ-โมบาย แย่งชิงพื้นที่กัน คาดว่า ในไตรมาสสุดท้าย พื้นที่นี้จะแข่งขันกันรุนแรงขึ้นอีก เพราะมีแบรนด์อื่นลงมามากขึ้น เช่น แอลจี, หัวเว่ย เป็นต้น

"กลุ่มสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่ถึง 4 พัน อาจมีสัดส่วน 35% ได้ เพราะสเป็กเครื่องเมื่อเทียบกับราคามีการปรับตัวลดลงต่อเนื่องต่างจากเมื่อ ก่อนชัดเจน เช่น ซัมซุงปรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ รุ่น Galaxy Y

จาก 4,790 บาท เหลือ 4,490 บาท ยังไม่พอยังมีรุ่นเล็ก Galaxy Pocket ออกมาอีกที่ 3,990 บาท จากเดิมเคยตั้งราคาไว้ที่ 4,290 บาท เชื่อว่าแบรนด์อื่นเหนื่อยขึ้น รวมถึงเฮาส์แบรนด์ก็คงต้องปรับตัวมาก โนเกียมีมือถือกึ่งสมาร์ทโฟนยังลำบาก เมื่อแอนดรอยด์ขยับราคาลงมา"


ด้าน นายสมชัย สิทธิชัยศรีชาติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสไอเอส ดิสทริบิวชั่น (เอไอเอส) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ถ้าพูดถึงโทรศัพท์มือถือ ใคร ๆ ต้องคิดถึงสมาร์ทโฟนเป็นอันดับแรก เพราะปัจจัยเรื่องราคาที่ปรับลดลงมามาก เมื่อตลาดมีความต้องการแต่ละแบรนด์จึงเข้ามาแสวงหาโอกาสในการขาย ซึ่งแบรนด์ซัมซุงถือเป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เพราะมีสินค้าครอบคลุมแทบทุกกลุ่มตั้งแต่

ระดับล่างถึงบน ราคาเริ่มต้นที่ 3 พันกว่าบาทถึง 2 หมื่นกว่าบาท ทั้งกลุ่มสินค้าระดับราคาถูกยังมีให้เลือกหลากหลายรุ่นอีกปัจจัยที่แบรนด์ ต่าง ๆ หันมายังตลาดสมาร์ทโฟนมากขึ้น เพราะมีกำไรมากกว่าฟีเจอร์โฟน แต่โอกาสที่ราคาสมาร์ทโฟนจะมีราคาต่ำกว่า 3 พันบาท คงไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอุปกรณ์ภายในที่จำเป็นต้องมี เช่น GPS ยังมีราคาสูงอยู่

ล่า สุดสมาร์ทโฟนดัง "แบล็คเบอร์รี่" ยังมีการปรับราคาสินค้าลงถึง 3 พันบาท เช่น รุ่นโบลด์ 9790 จาก 15,900 บาท เหลือที่ 12,900 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ปรับราคารุ่นยอดฮิต เคิร์ฟ รุ่น 8520 เหลือ 4,990 บาท

เมื่อมีการเปิดตัวเคิร์ฟรุ่นใหม่ 9220 ออกสู่ตลาด เช่นกันกับโมโตโรล่าได้ปรับราคา Motorola Razr เหลือ 12,900 บาท

"การ ปรับราคาสินค้ามีปัจจัยหลัก ๆ 2 อย่างคือ รุ่นที่มีราคาต่ำกว่าของหมด ก็ต้องปรับราคารุ่นสูงกว่าลงมา หรือกำลังจะมีสินค้ารุ่นใหม่ออกสู่ตลาด เช่น โมโตโรล่าจะมีรุ่นใหม่ออกมาเร็ว ๆ นี้ ก็ต้องปรับรุ่นเดิมลงเพื่อเร่งระบายสินค้า หรือที่ริม (รีเสิร์ช อิน โมชั่น) ลดราคารุ่นโบลด์ลง เพราะรุ่นต่ำกว่านี้ของหมด"

นายสมชัย กล่าวต่อว่า แนวโน้มราคาสมาร์ทโฟนที่มีการปรับลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สินค้าในกลุ่มราคา 3-5 พันบาท กินพื้นที่ตลาดมากถึง 50-60% ในตลาดโทรศัพท์มือถือโดยรวม

นายสุรินทร์ อมรชัชวาลกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย อินฟินีตี้ จำกัด เจ้าของเฮาส์แบรนด์ "อาม่า" และดีแท็ค ช็อปกว่า 10 แห่ง กล่าวว่า ในดีแทค ช็อป เน้นขายสมาร์ทโฟนระดับบน เช่น ไอโฟน และซัมซุง กาแล็คซี่ เอส เป็นต้น แต่สินค้าราคา 4-5 พันบาท ก็ทำยอดขายได้ดี เช่น ซัมซุง Galaxy Y ทั้งฟีเจอร์โฟนราคานี้หายไปจากตลาด ผู้ใช้จึงเปลี่ยนมาซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้น เหลือกลุ่มเล็ก ๆ

เช่น ผู้สูงอายุหรือคนที่ต้องการโทร.และรับสาย คาดว่าปลายปีราคาอาจลงมาต่ำกว่านี้ เหลือเฉลี่ย 3 พันบาทกลาง ส่วนฟีเจอร์โฟนเหลือต่ำกว่าพันบาท


ฝั่งเฮาส์แบรนด์ดัง "ไอ-โมบาย" เพิ่งเปิดตัวสมาร์ทฟีเจอร์รุ่นใหม่ โดยนายฑิตพล จันทร์อุไร ผู้จัดการฝ่ายอำนวยการผลิตภัณฑ์ บมจ.สามารถ ไอ-โมบาย กล่าวว่า ตลาดฟีเจอร์โฟนยังแข่งกันดุเดือด โดยเฉพาะกับกลุ่ม "สมาร์ทฟีเจอร์" ปัจจุบันเริ่มเห็นสินค้าของอินเตอร์แบรนด์บุกตลาดกลุ่มนี้มากขึ้น แต่ตนมองว่า "คอนเทนต์" เป็นจุดขายที่สร้างความต่างได้ ล่าสุดเปิดตัวเครื่องรุ่นใหม่ โดยร่วมมือกับ "อาร์สยาม"

สร้างคอน เทนต์เพลงลูกทุ่งผูกไปกับโทรศัพท์รุ่น "Idea 3" ราคา 2,390 บาท เพื่อให้ลูกค้าดาวน์โหลดเพลงลูกทุ่ง เป็นต้น เพราะกลุ่มลูกค้าหลักไอ-โมบายอยู่ต่างจังหวัดชอบฟังเพลงลูกทุ่ง คาดว่ารุ่นนี้จะทำยอดขายได้ถึง 5 หมื่นเครื่อง

"สมาร์ทฟีเจอร์ราคา ไม่ควรเกิน 2,500 มีฟังก์ชั่นต่าง ๆ ครบ แต่ภาพรวมปีนี้เราจะโฟกัสไปที่สมาร์ทโฟน จะมีสินค้าเพิ่มอีก 10 รุ่น จากที่มีอยู่แล้ว 7 รุ่น"

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า ทั้งหัวเว่ยและแซดทีอีได้ปรับราคาสมาร์ทโฟนลงเช่นกัน ได้แก่ รุ่น Ideos X1 ของหัวเว่ย เหลือเพียง 2,990 บาท และ ZTE รุ่น Racer 2 เหลือ 2,690 บาทเท่านั้น


ที่มา http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1340218636&grpid=02&catid=06&subcatid=0600 (http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1340218636&grpid=02&catid=06&subcatid=0600)
ขอบคุณภาพจาก http://hitech.sanook.com/,http://www.bloggang.com/,http://img149.imageshack.us/ (http://hitech.sanook.com/,http://www.bloggang.com/,http://img149.imageshack.us/)