สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => IT สาระประโยชน์ชาวธรรม => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 26, 2012, 07:02:57 pm



หัวข้อ: ไอซีทีรุก IPv6 สนองนโยบายรัฐ ตั้งรับ 3 จี-LTE
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มิถุนายน 26, 2012, 07:02:57 pm
(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/06/26/271292/hr1667/630.jpg)


ไอซีทีรุก IPv6 สนองนโยบายรัฐ ตั้งรับ 3 จี-LTE

ไอซีที ผลักดันเปลี่ยนถ่ายเครือข่ายอินเทอร์เน็ตจาก IPv4 สู่ IPv6 หวังเป็นโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาโครงข่ายการสื่อสารยุคใหม่ รองรับระบบงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ ขานรับนโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ ฟรีไวไฟ แจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1 3จี แอลทีอี และ IPTV...

เมื่อวันที่ 26 มิ.ย. 2555 นางจีราวรรณ บุญเพิ่ม ปลัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) กล่าวว่า ปัจจุบันอินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่ยังคงทำงานอยู่บน IPv4 ซึ่งกำลังประสบปัญหาที่สำคัญยิ่งคือ หมายเลขอินเทอร์เน็ต หรือที่เราเรียกว่า หมายเลข IP (Internet Protocol) กำลังจะหมดลงในเวลาอันใกล้นี้

     การหมดลงของหมายเลข IP ทำให้การขยายตัวและการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นปัญหา
     ซึ่งไม่ใช่เฉพาะอินเทอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการใช้งานเทคโนโลยีการสื่อสารอื่น
     เช่น โทรศัพท์ 3จี แอลทีอี หรือ 4จี ในอนาคต จะเป็นปัญหาด้วย

ดังนั้น การเปลี่ยนถ่ายจากเครือข่าย IPv4 สู่เครือข่าย IPv6 จะช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนหมายเลข IP ได้ เนื่องจาก IPv6 มีจำนวนหมายเลข IP มากมายมหาศาล นอกจากนี้ ยังเป็นการปรับปรุงความสามารถด้านต่างๆ อีกหลายประการ ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพและความปลอดภัย สามารถรองรับระบบแอพพลิเคชั่น ใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งน่าจะเพียงพอต่อการใช้งานอีกนาน 40 ถึง 50 ปีข้างหน้า

ปลัดไอซีที กล่าวต่อว่า การเปลี่ยนสู่ IPv6 นั้น การวางแผนเพื่อการปรับเปลี่ยนการใช้งาน ถือเป็นสิ่งจำเป็นและสำคัญต่อการขยายตัวอย่างมั่นคงของเครือข่ายอินเทอร์เน็ตและต่อวงการไอซีทีของโลก

(http://www.marinerthai.com/Pic-News2/2007-09-07-011.jpg)

กระทรวงจึงร่วมกับสมาคมไอพีวี 6 ประเทศไทย และผู้ให้บริการด้านอินเทอร์เน็ตและการสื่อสารโทรคมนาคมในประเทศ ตั้งคณะทำงานส่งเสริมนโยบาย IPv6 เพื่อร่วมกันดำเนินการจัดทำนโยบาย แผนงาน และกิจกรรมเพื่อส่งเสริมและเร่งรัดการดำเนินการในการรองรับการเปลี่ยนถ่ายเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จาก IPv4 สู่ IPv6 อย่างต่อเนื่อง

โดยในปีที่แล้ว กระทรวงได้ประกาศที่จะดำเนินการให้เครือข่ายและบริการภาครัฐสามารถรองรับการใช้งาน IPv6 ได้ภายในปี 2558 ซึ่งช่วงแรกจะเน้นภาครัฐเป็นผู้นำในการให้บริการผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต IPv6

สำหรับในปีนี้ ทั่วทั้งโลกพร้อมใจกันให้บริการผ่านเครือข่าย IPv6 ภายใต้ชื่อ World IPv6 Launch โดยทั้ง Google Facebook Yahoo และผู้ให้บริการรายอื่นๆ รวมถึงผู้ค้าอุปกรณ์ และองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วโลกได้เริ่มให้บริการผ่านเครือข่าย IPv6 ตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 2555 เป็นต้นมา

ส่วนกระทรวงไอซีทีได้ร่วมกับสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ สรอ. ให้การสนับสนุนทางด้านเทคนิคแก่หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐ ในการปรับปรุงระบบการให้บริการให้สามารถใช้งานผ่านเครือข่าย IPv6 ได้ โดยเทคนิคที่ใช้เป็น Dual Stack และ Reverse Proxy เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับการให้บริการผ่านเครือข่าย IPv4 แต่ช่วยให้สามารถบริการผ่านเครือข่าย IPv6 ได้อีกทางหนึ่ง


(http://1.bp.blogspot.com/-q-Vkc3_qREE/T8zEzq_C9jI/AAAAAAAAAAM/1s4pAAnH-TI/s1600/3G.jpg)

ดังนั้น เพื่อทำการตรวจสอบและทดสอบว่าการใช้งานร่วมกันระหว่าง IPv4 และ IPv6 จะมีผลกระทบ หรือปัญหาใดบ้าง เมื่อต้องรองรับข้อมูลอินเทอร์เน็ตพร้อมกันทั้งโลก กระทรวงจึงจัดประชุมสัมมนา ในหัวข้อ Thailand IPv6 Conference Day 2012 ขึ้น

เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาในภาครัฐและภาคธุรกิจ ได้รับทราบตัวอย่างการพัฒนาและปรับปรุงเครือข่ายเพื่อรองรับการใช้งาน IPv6 จากองค์กรบริษัทเอกชนชั้นนำ รวมทั้งได้พบปะและแลกเปลี่ยนความรู้ ข้อคิดเห็นซึ่งกันและกัน อันจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างหน่วยงานได้

   “การก้าวเข้าสู่ IPv6 จะเป็นส่วนประกอบที่สำคัญด้านโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาโครงข่ายการสื่อสารยุคใหม่ กล่าวคือ เป็นการกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีให้มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง ทันต่อเทคโนโลยี และมีความมั่นคงปลอดภัย
    ตลอดจนสามารถรองรับกับระบบงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ นโยบายบรอดแบนด์แห่งชาติ นโยบายฟรีไวไฟ และนโยบายแจกแท็บเล็ตเด็ก ป.1 รวมถึงเตรียมพร้อมให้กับบริการใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นทั้ง 3 จี แอลทีอี และ IPTV เป็นต้น”
นางจีราวรรณ กล่าว.



ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/tech/271292 (http://www.thairath.co.th/content/tech/271292)
http://www.marinerthai.com/,http://1.bp.blogspot.com/ (http://www.marinerthai.com/,http://1.bp.blogspot.com/)