สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 01:29:40 pm



หัวข้อ: 'มุทิตาจิต' คือ อะไร.? เกี่ยวข้องอย่างไรกับ..'อรติ'
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กรกฎาคม 09, 2012, 01:29:40 pm
(http://www.khaosod.co.th/view_resizing_images.php?filename=news-photo/khaosod/2012/07/you02090755p1.jpg&width=360&height=360)


มุทิตาจิต คือ อะไร.? เกี่ยวข้องอย่างไรกับ..'อรติ'
(รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com)


   ศูนย์บริการความรู้เพื่อสังคม มหาวิทยา ลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มีคำตอบเรื่อง 'มุทิตาจิต' ว่า   
   'มุทิตา' หมายถึง ความเป็นผู้มีใจชื่นชมยินดีในเมื่อผู้อื่นได้ดี หรือได้รับความสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง
   เป็นอาการที่เกิดขึ้นในใจเองโดยมิได้บังคับ เกิดขึ้นเพราะจิตใจปราศจากความอิจฉาริษยา เกิดขึ้นเพราะเป็นผู้มีปกติยอมรับในผลสำเร็จหรือความดีของคนอื่น เพราะฉะนั้นจึงเรียกเป็นคำเต็มได้ว่ามุทิตาจิต

คุณธรรมข้อนี้มิใช่ว่าจะเกิดขึ้นง่ายๆ หรือเกิดขึ้นแก่ทุกคนไม่ เพราะปกติธรรมดาคนทั่วไปมักจะไม่ค่อยยอมรับในความดีของผู้อื่น มักจะไม่ค่อยชื่นชอบนักหากผู้อื่นได้ดีเกินหน้า โดยเฉพาะในคนที่ไม่ชอบหน้ากันอยู่แล้วมุทิตาจิตจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย

ดังนั้น คนที่ทำให้จิตเกิดมุทิตาได้จึงเป็นบุคคลพิเศษที่ยกระดับจิตใจให้สูงกว่า คนธรรมดาสามัญได้แล้ว เป็นคนเปิดใจกว้าง ยอมรับความดีของผู้อื่นและพร้อมเสมอที่จะแสดงความชื่นชมยินดีด้วยเมื่อผู้อื่น ได้ดี ผู้ทำได้ดังนี้

    ท่านว่าเป็นผู้ยกระดับจิตใจถึงขั้นระดับเป็น พระพรหมทีเดียว เพราะมุทิตาจิตนั้นเป็น 'พรหมธรรม' หรือ 'พรหมวิหารธรรม' ข้อหนึ่ง ซึ่งเป็นธรรมของผู้เป็นพรหมของผู้ใหญ่ผู้ประเสริฐแล้ว จึงกล่าวได้ว่ามุทิตานี้เกิดได้ยากนัก ยากหนา ที่เกิดได้ง่ายๆ เพราะเขาฝึกไว้ดีแล้วต่างหาก



(http://www.news.rmutt.ac.th/wp-content/uploads/2010/12/DSC_00161.jpg)

     
     การแสดงออกซึ่งมุทิตาจิตนั้น มิใช่หมายเพียงการนำสักการะไปถวาย
     การนำกระเช้าดอกไม้ไปให้ การเลี้ยงกันหรือการกล่าว อวยพรกันเท่านั้น

     เพราะการแสดงเช่นนั้นเป็นเพียงจุดหมาย ที่ให้รู้ว่ามีมุทิตา แท้ที่จริงมุทิตาจะต้องเริ่มต้นเกิดที่จิตใจก่อน เมื่อจิตใจเกิดมุทิตาแล้วก็เป็นอันใช้ได้

     ส่วนจะแสดงต่อด้วยการกระทำ หรือด้วยคำพูดก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
     แม้หากว่าจะแสดงกันอย่างนั้น แต่ก็ทำไปด้วยความจำเป็นตามมารยาทสังคม แบบเสียไม่ได้ หรือถูกบังคับให้ทำโดยที่โจทย์มิได้ยินดีด้วยเลย
     การแสดงออกเช่นนั้นก็หาจัดว่าเป็นการแสดงมุทิตาจิตไม่ เพราะใจไม่ได้เกิดมุทิตาด้วยเลย

     อีกประการหนึ่งเล่า จิตใจที่จะเปี่ยมด้วยมุทิตาจะต้องกำจัดอารมณ์ในใจอันหนึ่ง คือ 'อรติ' ให้ได้เด็ดขาดด้วย
     อรติ คือ ความไม่พอใจ เพราะเกิดความอิจฉาริษยา เกิดความไม่ยินดี
     อรตินี้เป็นศัตรูต่อมุทิตาโดยตรง ต้องกำจัดให้ได้เด็ดขาด จึงจะเป็นมุทิตาจิตที่บริสุทธิ์
     ดังนั้น จึงกล่าวว่า มุทิตาจิตเป็นจิตระดับสูงถึงขั้น เป็นจิตของพระพรหม

    แท้จริง อรติ ความไม่พอใจ ความอิจฉาริษยา เป็นกิเลสบังใจบังปัญญาและบังความรู้สึกผิดชอบชั่วดี   
    บังความควรไม่ควรไว้หมด ทำให้คนมองไม่เห็นความดีของใคร ชมใครไม่เป็น สรรเสริญใครไม่ได้ ทำให้คนมองกันในแง่ดีไม่ได้ ซ้ำยังกระตุ้นให้คนคิดทำลายล้างความดีของผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา เห็นใครดีเกินหน้าไม่ได้จะต้องคิดทำลายล้าง ลบหลู่ความดีของผู้อื่นให้หมดเสียร่ำไป
    ดังพระท่านว่า 'อรติ โลกนาสิกา ความริษยาเป็นตัวทำลายโลก'



(http://www.thaiendocrine.org/main_th/sites/default/files/uploads/1/IMG_2804.JPG)


   วิธีกำจัดอรติ ก็คือ ต้องสร้างมุทิตาจิตให้เกิดขึ้นแทนที่ โดยการค่อยๆ มองหาความดีของคนอื่น
   แม้จะมีเพียงน้อยนิดก็ยังดี หาให้พบกลบความไม่ดีของเขาเสียอย่าไปพูดถึง
   แล้วหัดชมคนอื่นเป็นเสียบ้าง เอาส่วนดีแม้น้อยนิดที่พบนั่นแหละมาชมกัน

   แม้ตอนแรกๆ จะฝืนใจชมบ้างก็พยายามทำ นานเข้าจะเกิดความเคยชินและชมได้มากๆ เมื่อชมเป็นแล้วก็แสดงความยินดีในความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ของผู้อื่น เริ่มต้นจากคนในครอบครัวก่อนก็ได้ ยินดีต่อน้องๆ ที่สอบได้ ยินดีต่อพี่ๆ ที่ได้งานทำ ขยายวงกว้างออกไปจนถึงเพื่อนๆ ต่อไปถึงผู้ร่วมงาน ไม่นานมุทิตาจะเกิดเต็มจิต ความหงุดหงิดงุ่นง่านเพราะเกิดความรู้สึกอิจฉาริษยาจะหมดไป

  มุทิตาจิตเป็นยาวิเศษที่ทำให้คนเรายิ้มแย้มเข้าหากัน คบกันโดยสนิทใจ เป็นโซ่ทองที่คล้องใจกันไว้ได้นานเท่านาน


ขอบคุณข้อมุลและภพาจาก http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakE1TURjMU5RPT0=&sectionid=TURNeE1RPT0=&day=TWpBeE1pMHdOeTB3T1E9PQ== (http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakE1TURjMU5RPT0=&sectionid=TURNeE1RPT0=&day=TWpBeE1pMHdOeTB3T1E9PQ==)
http://www.thaiendocrine.org/ (http://www.news.rmutt.ac.th/.[url=http://www.thaiendocrine.org/)]http://www.news.rmutt.ac.th/.http://www.thaiendocrine.org/ (http://www.thaiendocrine.org/)[/url]


หัวข้อ: Re: 'มุทิตาจิต' คือ อะไร.? เกี่ยวข้องอย่างไรกับ..'อรติ'
เริ่มหัวข้อโดย: นัยนา ที่ กรกฎาคม 10, 2012, 09:29:34 am
มุทิตา หมายถึงการทำใจให้อ่อนโยน

รติ หมายถึงความยินดี

อรติ หมายถึงไม่ยินดี

     ดังนั้น มุทิตา นั้นมีจากเจตนาเป้นที่เป็นความอ่อนโยนภายนอก
     และ กายมุทิตา จิตตมุทิตา เกี่ยวกับกรรมฐานเป็นภายใน

     รติ ความยินดี ในธรรมคะ เป็นที่น่าชื่นชม คะ
 
   คำนี้มักจะได้ยินพระสงฆ์ พูดกันเช่นไป ร่วมงานมุทิตาพระ ( รูปนั้นรูปนี้ )เป็นต้นคะ
   ที่จริงก็ไม่ค่อยจะเข้าใจกับคำนี้ที่ใช้ ทั้งที่การไปร่วมงาน ก็แค่ นอบน้อม และ ยินดี ( แสดงความดีใจ ) ก็เท่านั้นเองคะ

(http://www.dhammadelivery.com/images/gallery/1069/big-28327.jpg)