หัวข้อ: ทำไม พระพุทธรูป ต้องมียอดแหลม บนพระเศียร เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ สิงหาคม 08, 2010, 07:54:41 am เมือวาน อาจารย์ ที่สอนในมหาลัย ได้ถามว่า
ทำไม พระพุทธรูป ต้องมียอดแหลม บนพระเศียร สุดท้ายคำถามนี้ ก็เป็นการทำวิจัยเรื่อง คติธรรมศิลปะจากพระพุทธรูป แทน เกี่ยวกับ คติธรรม ของพระพุทธรูป มีใครพอจะแจกวิทยาทาน ส่วนนี้ให้ได้ บ้าง คร้า :c017: :25: สาธุ ขอให้ผู้ที่ช่วยตอบ นั้น มั่งมี ศรีสุข โชคดี ๆๆๆๆ ด้วยจ้า หัวข้อ: Re: ทำไม พระพุทธรูป ต้องมียอดแหลม บนพระเศียร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 08, 2010, 12:16:34 pm (http://www.kallayanatham.com/pic/india/metta/images/metta4.jpg) พระพุทธเมตตา อยู่ที่อินเดีย (http://www.madchima.org/forum/gallery/2_27_01_10_10_50_24.jpeg) (http://www.madchima.org/forum/gallery/2_18_03_10_5_56_31.jpeg) (http://www.madchima.org/forum/gallery/2_30_01_10_9_49_04.jpeg) พระพุทธรูปในอินเดียแต่เดิมจะไม่มีเปลวพระเกศ ในที่นี้ผมขอเรียกว่า เปลวพระเกศ (ศัพท์ที่ถูกต้องผมไม่ทราบ) หมายถึง ยอดแหลมคล้ายเปลวไฟ บนเศียรของพระพุทธรูป ในอินเดีย จะเป็นลักษณะเหมือนมวยผม ดั่งเช่น พระพุทธเมตตา(รูปแรก) และภาพวาดพระพุทธเจ้าก็จะออกมาแนวนี้ คือ บนพระเศียรจะเป็นมวยผม แต่พอมาปั้นในประเทศไทย กลับเป็นยอดแหลมคล้ายเปลวไฟ เรื่องนี้หลวงพ่อสนอง กตปุญโญ วัดสังฆทาน (ที่น้องหมวยไปทำบุญนั่นแหละ) ได้กล่าวไว้ว่า เป็นคติของคนปั้น ที่เปรียบแสงสว่างที่เกิดจากเปลวไฟ ที่อยู่บนยอดของเศียรพระพุทธรูปว่า เปรียบเสมือน ปัญญา พูดง่ายๆก็คือ แสงสว่างดุจดั่งปัญญา นั่นเอง ผมขอเสริมด้วย พุทธภาษิต ที่ว่า นัตถิ ปัญญาสมา อาภา "แสงสว่างเสมอด้วยปัญญา ไม่มี" (ไม่มีแสงสว่างใดในโลก เสมอด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา) ปัญญา โลกัสมิง ปัชโชโต "ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก" ขอให้งานวิจัยของน้องหมวยนีย์ได้เกรด A นะครับ :s_good: :s_good: :s_good: :49: ;) :25: หัวข้อ: Re: ทำไม พระพุทธรูป ต้องมียอดแหลม บนพระเศียร เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ สิงหาคม 08, 2010, 10:46:28 pm คติธรรม กับ สัญลักษณ์ของพระพุทธรูป สั้น ๆ นะ
1.เปลวปัญญา บนเศียร พระัพุทธรูป หมายถึง พระปััญญา่ธิคุณ ของพระพุทธเ้จ้า ที่แทงปัญหา 108 พันประการ ที่ทำสัญลักษณ์ เป็นเส้นผมก้นหอย :25: หัวข้อ: ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 10, 2010, 08:45:10 am ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป (http://www.dhammajak.net/gallery/albums/userpics/normal_buddha009.jpg) พระพุทธรูปเป็นตัวแทนของพระพุทธเจ้า ชาวพุทธให้ความเคารพศรัทธามากบางแห่งก็มีความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปแต่ละองค์นั้นมีตำนานเล่าขานกันมามากบ้างน้อยบ้างสุดแท้แต่ความ ศรัทธาของชาวบ้าน แต่สิ่งที่เหมือนกันของรูปเปรียบหรือตัวแทนของพระพุทธเจ้า นี้ที่สังเกตเห็นได้มีอยู่ด้วย กัน 3 ประการ คือ 1. พระเศียรแหลม มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลม ในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่ เป็นเช่นนี้เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรมพระเศียรที่ แหลม นั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้ชาวพุทธแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้อารมณ์ หากใช้ปัญญาคิดพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อนแล้ว จึงทำความผิดพลาด เกิดขึ้นน้อย หรือไม่เกิดขึ้นเลย 2. พระกรรณยาน หรือหูยาน เป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือมีจิตใจหนักแน่นมั่นคงนั่นเอง ไม่เชื่ออะไรง่ายๆแต่คิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในฐานที่เป็น ชาวพุทธก็ต้องเชื่อในกฎแห่งกรรม ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว บุคคลหว่านพืชเช่นใดย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าไม่มีอะไรทำให้ใครเป็นอะไรๆทั้งนั้น แต่ตัวเราเองนั่นแหละทำให้เราเป็นสุข เป็นทุกข์ คนเราจะดีจะชั่วจะเสื่อมจะเจริญไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอก หรือสิ่ง ศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับการทำ การพูด การคิด ของตนเอง นี้เป็นการเชื่อตามหลักของพระพุทธศาสนา 3. พระเนตรมองต่ำ พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ อย่างในพระ อุโบสถของวัดทั่วไป จะนั่งมองดูพระวรกาย ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี้เป็นปริศนาธรรม สอนให้มองตนเองพิจารณาตนเอง ตักเตือนแก้ไขตนเองไม่ใช่คอยจับผิดผู้อื่น ซึ่ง ตามปกติของคนแล้วมักจะมองเห็นความผิดพลาดของบุคคลอื่น แต่ลืมมองของตนเองทำ ให้สูญเสียเวลาและโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตนเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ ดีกว่าตัวเราเองจึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า อตฺตนา โจทยตฺตาน จงเตือนตนด้วยตนเอง จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนเตือนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย 3 ประการนั้นเป็นการสอนโดยใช้ปริศนาธรรมจากพระพุทธรูป เป็นสื่อการสอนใจตนเอง ดังนั้น ชาวพุทธเมื่อมีปัญหาอะไรแก้ไขไม่ได้คิดไม่ตกก็เข้าวัดเสียบ้าง นั่งประนมมือ ตรงหน้าพระพุทธรูป หรือถ้าที่บ้านมีพระพุทธรูป ก็นั่งประนมมือต่อหน้าพระพุทธรูป ที่บ้านนั่นแหละ ค่อยๆเพ่งพินิจที่พระพักตร์ของพระพุทธเจ้าก่อนที่จะกราบจะมอง เห็นพระเศียรแหลม สอนใจตนว่าอย่าแก้ปัญหาด้วยอารมณ์นะ ใจเย็นๆ ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อยๆ คิด ค่อยๆแก้ด้วยสติปัญญาที่เฉียบแหลม เหมือนพระพุทธเจ้าของเราที่พระองค์ใช้สติปัญญาในการแก้ไขปัญหา เห็นพระกรรณยานก็บอกตนเองว่า สุขุมเยือกเย็นมีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจตามอารมณ์หรือหุนหันพลันแล่นเดี๋ยวจะ ผิดพลาดได้ ต้องมีจิตใจหนักแน่นมั่นคง เชื่อในสิ่งที่มีเหตุผล เห็นสายพระเนตรที่มองต่ำก็บอกตนเองว่า มองตนเองบ้างนะอย่าไปมองคนอื่นมากนักเลยเดี๋ยวจะไม่สบายใจ และอาจมีปัญหาได้การมองตนเองบ่อยๆ จะได้พิจารณาตนเองปรับปรุงตนเองและแก้ไขตนเองให้ดีขึ้น จากนั้นก็ค่อยกราบ พระพุทธรูปด้วยสติปัญญาและจิตใจที่ชื่นบาน นี้เรียกว่า ยิ่งกราบยิ่งฉลาด สมกับเป็นผู้รู้ ผู้ตื่นผู้เบิกบานที่แท้จริง .. ที่มา http://share.psu.ac.th/blog/penthai/3773 (http://share.psu.ac.th/blog/penthai/3773) นำมาฝากครับ เจอบทความนี้ในขณะหาข้อมูลให้คุณฟ้าใส เป็นบุญของหมวยนีย์จริงๆ :25: หัวข้อ: Re: ทำไม พระพุทธรูป ต้องมียอดแหลม บนพระเศียร เริ่มหัวข้อโดย: หมวยจ้า ที่ สิงหาคม 10, 2010, 09:36:54 pm ขอบคุณ อนุโมทนา ทุกท่านกับคำตอบคะ
ช่วงนี้กำลังปั่นรายงาน อยู่คะ อ้างถึง เป็นบุญของหมวยนีย์จริงๆ ที่มีเพื่อน ๆ กัลยาณมิตร ที่ใจดีทุกท่าน :25: คำนับ หนึ่ง โชคดี ๆ :25: คำนับ สอง มีสุข ๆ :25: คำนับ สาม ยั่งยืน ๆ :25: คำนับ สี่ อย่าได้กลับมาเกิดอีกทุกคน นะ คร้า |