สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 11, 2012, 09:29:31 pm



หัวข้อ: บุญใหญ่แผ่นดินแม่..ศรัทธาไทยสู่เนปาล
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 11, 2012, 09:29:31 pm
(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/hr1667/630.jpg)

บุญใหญ่แผ่นดินแม่..ศรัทธาไทยสู่เนปาล

“ลุมพินีแห่งศรัทธา พุทธบูชาถวายพ่อ–แม่ของแผ่นดิน”
งานบุญใหญ่ข้ามประเทศ ที่แสดงพลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ ที่น่าภาคภูมิใจสำหรับพุทธศาสนิกชนไทย

บุญใหญ่นี้มีที่มาที่ไปเริ่มมาตั้งแต่ปี 2554... “โครงการบูรณ-ปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในวโรกาสมหามงคล 84 พรรษามหาราชา และ 80 พรรษามหาราชินี

ดำเนินโครงการโดยคณะกรรมการกองทุนลุมพินีสถาน โดยมี สมเด็จพระพุทฒาจารย์ (เกี่ยว อุปเสโณ) เป็นประธานที่ปรึกษาโครงการฝ่ายสงฆ์ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เป็นประธานที่ปรึกษาโครงการฝ่ายฆราวาส และ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ เป็นประธานคณะกรรมการดำเนินงานโครงการ


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/o3/420.jpg)

นับตั้งแต่ได้รับอนุญาตจากกองทุนพัฒนาลุมพินี รัฐบาลเนปาล ตลอดจนคณะกรรมการมรดกโลก ให้บูรณปฏิสังขรณ์...วางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2554 เป็นเรื่องน่าภาคภูมิใจสำหรับคนไทยว่า การบูรณะครั้งนี้ ถือเป็นการบูรณะครั้งที่ 3 ในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่พุทธปรินิพพาน ครั้งแรกโดยพระเจ้าอโศกมหาราช ครั้งที่สองโดย ฯพณฯ อูถั่น เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ

ผ่านมาถึงวันนี้  “โครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล เหลือเพียงเฟสสุดท้าย เฟสที่ 3

ก่อสร้างถนนเข้าสู่สวนอันศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Garden) บริเวณจุดที่พระพุทธเจ้าประสูติ ความยาว 1 กิโลเมตร พร้อมทางเดิน 2 ข้าง รวมทั้งจัดสร้างลานประดิษฐาน “พระพุทธเจ้าน้อย” อาคารอเนกประสงค์ ห้องพยาบาลฉุกเฉินพร้อมห้องน้ำ เพื่อบริการแก่พุทธศาสนิกชน ที่เดินทางมาสักการะสถานที่ประสูติจากทั่วโลก

คุณหญิงสุดารัตน์ บอกว่า เรายังต้องเดินหน้าต่อ เพื่อให้พลังศรัทธาที่ยิ่งใหญ่สำเร็จลุล่วง เสร็จสมบูรณ์ วันนี้โครงการลุมพินีแห่งศรัทธา พุทธบูชาถวายพ่อ-แม่ของแผ่นดินยืนยันความสำเร็จไปแล้วกว่าครึ่งทาง

ย้อนนึกถึงธรรมะของ พระราชรัตนรังษี (วีรยุทธ์ วีรยุทฺโธ)

พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย เจ้าอาวาสวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล ที่บอกว่า สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในโลกที่เกี่ยวกับพุทธศาสนามี 4 แห่ง ที่ประสูติ ตรัสรู้ แสดงปฐมเทศนา และนิพพาน...สี่แห่งนี้พระพุทธเจ้าตรัสว่า ใครได้ทำให้สังเวคธรรมเกิดขึ้น จะมีความห้าวหาญ มีกำลังเพียงพอแก่การไม่ตกนรก สถานที่สี่แห่งนี้เสมือนที่นัดพบที่พระพุทธเจ้านัดว่ามีพลังที่สุด


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/o4/420.jpg)

“ชาวโลกทั้งหลายที่เป็นชาวพุทธนับเป็นพันๆล้านทั่วโลกมีความหมายปองที่จะมาที่ทั้งสี่แห่งนี้ มาไหว้พระแล้วก็ไป แต่ที่ลุมพินีเคยรุ่งเรืองเมื่อครั้งพระพุทธเจ้า เป็นป่าใหญ่ แล้วก็ทรุดโทรม...ที่สำคัญในบรรดาที่ทั้งสี่แห่ง ถ้าไม่มีที่เกิด...ทั้งสามแห่งก็ไม่มี”

“แผ่นดินแม่” ที่ประสูติพระพุทธเจ้า พระราชรัตนรังษี บอกว่า แผ่นดินนี้เป็นแผ่นดินที่พระพุทธเจ้าประสูติ บุคคลที่ให้กำเนิดคือพระนางสิริมหามายา พระนางเป็นพุทธมารดา เสด็จมาที่นี่แล้วให้การเกิด อยู่ได้เพียง 7 วันก็เสด็จทิวงคต

แผ่นดินนี้จึงเป็นแผ่นดินที่พระพุทธเจ้าทรงเลือกเองว่าเป็นแผ่นดินที่ควรจะรองรับฝ่าพระบาท...ฉะนั้นที่ตรงนี้จึงมีคำว่าแม่ เป็นคำที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

ใครมาถึงที่ตรงนี้ก็มักมีความระลึกถึงสิ่ง 3 สิ่งที่เกี่ยวข้องกันกับการเกิด นั่นก็คือ การเกิดของเรา, การเกิดของบุคคลที่ท่านให้เราเกิดคือพ่อแม่ และการเกิดของบุคคลที่เราให้เขาเกิด ลูกเต้าเหล่ากอของเรา

ลุมพินีจึงมีพลังมากที่สุดเกี่ยวข้องกับการเกิด คนที่มาทำบุญที่นี่หรืออยากจะทำบุญที่นี่ ทำได้ 4 ทางทำกับพระที่บ้าน ใครมีแม่อยู่ที่บ้านก็ช่วยดูแลแม่ตัวเอง บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นแม่ของลูก...ก็ดูแลเขาดีๆ นั่นคือการทำบุญอย่างที่หนึ่ง


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/o5/420.jpg)

ถัดมา...ทำบุญให้แม่ของประเทศ ทำคุณงามความดีให้กับประเทศไทย และสุดท้ายทำบุญให้กับแม่ของโลกกับพระนางสิริมหามายาในสถานที่ประสูติพระพุทธเจ้า

เทศกาลวันแม่นี้ แม่จะชวนลูกหรือลูกจะชวนแม่เป็นสะพานบุญสู่แผ่นดินแม่ร่วมกันและฟังเสวนาธรรม ระหว่างวันที่ 9–16 สิงหาคม 2555 ได้ที่ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิล์ด (ฝั่งอิเซตัน)

สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกมาร่วมงาน ติดต่อร่วมบุญใหญ่ได้ที่ สำนักงานกองทุนโครงการบูรณปฏิสังขรณ์สถานที่ประสูติขององค์สมเด็จพระสัม– มาสัมพุทธเจ้า ณ ลุมพินีสถาน ประเทศเนปาล ในเวลาราชการ โทรศัพท์ 0-2971-7575 โทรสาร 0-2971-6777 เว็บไซต์ www.lumbi (http://www.lumbi) nidevelopment.org, www.sudarat.com (http://www.sudarat.com)

“เราทุกคนสามารถรวบรวมปัจจัยวันละบาท สองบาท พูดง่ายๆ ว่าใครจะทำบุญที่นี่ ขอให้คิดว่าเงินที่เราส่งค่าขนมให้ลูก เก็บไว้วันละเท่านั้นแหละ หรือ...สมัยเราเล็กๆ แม่เราให้เงินไปเรียนหนังสือวันละเท่าไหร่ก็เก็บวันละเท่านั้น รวบรวมไว้ รอดูประกาศว่า...จะส่งเงินอย่างไร ก็เอาเงินส่วนนั้นมาทำบุญ”

หรือไม่อย่างนั้น ถ้ามีคนรู้จักสักคนเดินทางมาอินเดีย ก็ฝากมาทำบุญที่นี่ หรือถ้าบุญกุศลมาถึงเรา มีปัจจัย หน้าที่พร้อม เราก็เดินทางมาเอง มาถวายเอง ทำบุญเอง


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/o6/420.jpg)


“ถ้าเกิดมีกำลังมากกว่านี้ ก็สามารถบอกคนที่รู้จัก เป็นสะพานบุญทอดต่อไป รวบรวมศรัทธาเพื่อจะฟื้นฟูลุมพินีวัน เป็นการให้ของขวัญวันเกิดกับตัวเราเองว่า ชาตินี้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ชาติหน้าไม่แน่ หากชาติหน้าเกิดใหม่ ขอให้เกิดในแผ่นดินดีๆ ในบิดามารดาดีๆ เกิดในชีวิตที่ดีๆ”

เราได้ร่วมกันสร้างเครดิตให้กับประเทศ เสมือนหนึ่งเป็นหน้าที่เป็นตัวแทนของประเทศ มาประกาศความเป็นหน้าเป็นตาของประเทศไทยโดยใช้ศาสนา นี่จึงเรียกว่า... “เรามาเพื่อจะเป็นผู้ให้ ทำอะไรแล้วมันเบา”

ตรงกันข้าม... “ถ้าเรามาเพื่อเอา จะเอาอย่างโน้น จะเอาอย่างนี้ อย่างนี้ผิดหวังตั้งแต่คิด ประเทศนี้ไม่มีอะไรที่เราเอาได้เลย นอกจากที่จะเป็นส่วนของการปฏิบัติแล้วเพื่อให้เราจึงจะได้รับผลประโยชน์”

ศรัทธาเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญ เราทำงานที่ใดก็ตามแต่ เราต้องมีศรัทธา ศรัทธาคือความเชื่อ

เชื่อในอะไร...หนึ่งเชื่อในพระพุทธเจ้าซึ่งเป็นบุคคลต้นแบบ พระองค์เป็นบุคคลต้นแบบให้เราปฏิบัติ หน้าที่การงานได้สมบูรณ์ทั้งทางโลก ทางธรรม เรามีความศรัทธาบุคคลต้นแบบคือมนุษย์ต้นแบบก่อน


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/o7/420.jpg)

สอง...มีความศรัทธาต่อตัวเราเอง มีความเชื่อมั่นต่อตัวเราเอง เชื่อว่าเราเป็นชาวพุทธ เราต้องทำงานเพื่อที่จะได้ประกาศถึงความเป็นผู้มีศาสนาแล้วมีศักยภาพ พระพุทธเจ้าสอนอยู่นี่เอง...อยู่ที่ลุมพินีวัน พระองค์เกิดมาจากท้องแม่ พระองค์ตรัสว่า... “เราเป็นผู้เลิศที่สุด เราประเสริฐที่สุด เราเจริญที่สุด”

คำว่า “เรา” พระองค์ตรัสแทนมนุษย์ทั้งหลายว่ามนุษย์นี่แหละเป็นผู้ประเสริฐที่สุด ไม่มีใครจะประเสริฐเกินกว่ามนุษย์ เทวดาทั้งหลายในโลกหล้าจะไม่สามารถลิขิตชีวิตมนุษย์ที่มีคุณธรรมเต็มได้เลย ที่ตรงนี้จึงมีความศรัทธาต่อตัวเราเองว่า ทุกอย่างสำเร็จด้วยมือเรา

และสาม...เรามีศรัทธาต่อกฎแห่งกรรมว่าเราทำงานมากได้มาก...ทำน้อยได้น้อย ทำบุญได้บุญ ทำบาปได้บาป ทำดีได้ดี...ทำชั่วได้ชั่ว


(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/08/10/282626/o8/420.jpg)

พระราชรัตนรังษี พระธรรมทูตสายประเทศอินเดีย ทิ้งท้ายว่า สิ่งเหล่านี้เราต้องมีความเชื่ออย่างมั่นคง ฉะนั้นบุคคลใดมีความศรัทธาแล้วทำงาน มันกระปรี้กระเปร่า มีความสุข ทำงานไม่หนัก ทำงานไม่มีเงื่อนไข...

“คนที่ศรัทธาต่องานสิ่งใด คนที่ศรัทธาต่อใครมักจะทำสิ่งใดๆ ไม่มีเงื่อนไขกับงานนั้น สิ่งนั้น และผู้นั้น...ศรัทธาที่ว่านี้จึงเป็นศรัทธาที่จับต้องได้ พิสูจน์ได้”



ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/282626 (http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/282626)