หัวข้อ: กองทุน "สาธยายพระไตรปิฎก"...อานิสงส์นี้ยิ่งใหญ่นัก เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ สิงหาคม 29, 2012, 12:36:00 pm (http://www.dhammajak.net/forums/download/file.php?id=53048&sid=7c5bb40d3d60268a2841cc175901f386) การสาธยายพระไตรปิฎก เปรียบเสมือนได้เข้าเฝ้า ต่อหน้าพระพักตร์ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าตรัสกับพระอานนท์ว่า “ ธรรมและวินัยที่ตถาคตตรัสไว้ดีแล้วธรรมเหล่านั้นจะเป็นศาสดาของพวกเธอ” พระไตรปิฎกภาษาบาลี ๒๕๓๘ เล่มที่๑๐ ข้อ๑๔๑ ภาษาไทย ๒๕๑๔ ข้อ๑๔๑ รศ.๑๑๒(พ.ศ.๒๔๓๖)พระไตปิฎกซึ่งมีคุณค่าสูงยิ่ง ชุดหายากพิมพ์ครั้งแรกของโลก สมัยรัชกาลที่ ๕ ส่งไปทั่วโลก ๒๖๐ สถาบันด้วยอานิสงส์ เราสามารถคงความเป็นเอกราชหลุดพ้นจากอำนาจยึดครองอธิปไตยจากจักรวรรดินิยมตะวันตกในเวลานั้นได้ (http://www.spm18.go.th/UserFiles/Image/Resize%20of%20IMG_7187.JPG) ความเป็นมาของกองทุนสาธยายพระไตรปิฎก กองทุนสาธยายพระไตรปิฎก ถูกจัดตั้งโดย พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ ได้เอาแบบมาจากการสาธยายพระไตรปิฎกที่พุทธคยา ประเทศอินเดีย ถูกจัดขึ้นครั้งแรกในไทยเมื่อปี ๒๕๔๙ ครั้งนั้นได้รับพระราชทานเทียนจากในหลวง ครั้งที่สำคัญที่ผ่านมาคือ การสาธยายพระไตรปิฎกเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ ๒ เมษายน ๒๕๕๕ และที่สำคัญอีกที่คือ การสาธยายพระไตรปิฎก ฉลองพุทธชยันตี เนื่องในวโรการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯมีพระชนมายุ ๘๕ พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตฯ ๘๐ พรรษา สมเด็จพระบรมโอสาธิราชฯ ๖๐ พรรษาและสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ๕๘ พรรษา ฉลองพุทธชยันชตี ที่สนามหลวง ในวันที่ ๒๙-๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๕ สิ่งที่เป็นที่ปราบปลื้มของพสกนิกรชาวไทยก็คือ สมเด็จพระราชินีฯและสมเด็จพระเทพฯได้ร่วมสาธยายพระไตรปิฎกในครั้งนี้ด้วย ในปัจจุบันได้มีผู้ใจบุญบริจาคที่ดิน ที่อำเภอไทรน้อย นนทบุรี ให้พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ เพื่อจัดสร้างอาคารถาวร เพื่อการสาธยายพระไตรปิฎก แต่การโอนที่ดินต้องเสียภาษีเป็นล้าน การจัดสร้างสิ่งปลูกสร้างต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก จึงขอเชิญผู้มีจิตศรัทธาจะร่วมบุญ สามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารทหารไทย สาขาบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ชื่อบัญชี : กองทุนสาธยายพระไตรปิฎก เลขที่บัญชี : 113-2-13961-7 ติดต่อสอบถามได้ที่ พระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ ผศ.ดร.D.Litt www.narongsak.org (http://www.narongsak.org) โทร. ๐๘๙-๙๖๓-๔๕๐๕ หรืออีเมล์ narongsak@narongsak.org (http://www.spm18.go.th/UserFiles/Image/Resize%20of%20IMG_7164.JPG) อานิสงส์การสาธยายพระไตรปิฎก ๑.พระไตรปิฎกเป็นตาวิเศษอันยิ่งบุคคลใดสาธยายพระไตรปิฎกแล้ว สามารถที่จะรู้ได้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ทำให้เป็นสัมมาทิฎฐิ นำไปสู่ความสำเร็จและเข้าถึงความเป็นอริยบุคคล คือตั้งแต่โสดาบัน สกทาคามี อนาคามีและอรหันต์เข้าสู่นิพพาน ๒.พระไตรปิฎกเป็นหูที่วิเศษอันยิ่งฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สอนให้บุคคลนั้นดำรงชีวิตด้วยความถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฎฐิ อย่างน้อยไม่ทำบาปทำแต่กุศล ได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นมงคล การพูดก็ดี สุขภาพจิตก็ดี มีจิตใจที่ผ่องใส เมื่อจิตใจผ่องใสความคิดก็ดีความจำก็ดีขึ้นมีสติไม่ทำให้เกิดอกุศลหน้าตาผ่องใสเป็นต้น ๓.พระไตรปิฎกเป็นจมูกที่วิเศษอันยิ่ง กลิ่นหอมที่ว่าหอมแม้จะลอยตามลมไปได้ ๑,๐๐๐ โยชน์ แต่ไม่สามารถที่จะทวนลมได้ แต่กลิ่นของความดี กุศลนั้นสามารถจะทวนลมและกระจายออกไปได้ทุกทิศ จะเป็นมีจมูกที่ได้กลิ่นของกุศลที่กระจอนไปทุกทิศ และไม่หลงติดอยู่กับกลิ่นหอมอย่างอื่น ๔.พระไตรปิฎกเป็นลิ้นที่วิเศษอันยิ่ง ลิ้นคนเราแม้จะจำรสต่าง ๆ ได้ ไม่ช้าก็ลืมมีความสุขชั่วคราวทำให้คนขาดสติ แต่ลิ้นที่ลิ้มรสของพระธรรมนั้น ไม่มีความอิ่มในรสของพระธรรม เมื่อคนเราได้รับลิ้มรสของพระธรรมแล้ว จะทำให้ร่างกายผ่องใสทั้งภายในและภายนอกและจะช่วยรักษาโรคได้ทุกชนิด ๕.พระไตรปิฎกเป็นกายที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายแล้วทำให้มีสภาพที่ผ่องใสทั้งภายในและภายนอก มีกายที่เบาไม่เชื่องช้าเลือดลมในตัวเราที่เรียกว่าธาตุ๔นั้นก็สมบูรณ์ทำให้มีอายุยิ่งยืนนานสามารถหายจากโรคที่เกิดแต่กรรมได้ ๖.พระไตรปิฎก เป็นใจที่วิเศษอันยิ่ง ใจดี ใจผ่องใส ใจเป็นหัวหน้า เมื่อใจเบิกบาน จิตใจเป็นกุศลก็สามารถเข้าถึงความเป็น โสดาบันสกทาคามีอนาคามีและพระอรหันต์ในที่สุด (http://www.spm18.go.th/UserFiles/Image/Resize%20of%20IMG_7169.JPG) ๗.พระไตรปิฎกเป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษอันยิ่ง สามารถที่จะสอนให้เรารู้ว่าอะไรเป็นกุศลอะไรเป็นอกุศล เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสอนให้เรานำเอาหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติอันเป็นทางที่มีความสำเร็จในชีวิตนำทางไปเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน ๘.พระไตรปิฎก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษอันยิ่ง พ่อแม่ไม่ได้หวังค่าตอบแทนจากลูกฉันใด พระไตรปิฎกเป็นผู้ที่สอนให้เรารู้ทุกอย่างที่เรายังไม่เคยรู้ นำทางให้เราเข้าถึงความเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ แล้วแต่ทางดำเนินชีวิตอันทำให้ถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน ๙.พระไตรปิฎกเป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายก็จะมีแต่มิตรนำทางไปสู่ที่ดีนำชีวิตไปสู่ความสุขทั้งตัวเอง ครอบครัวและสังคมที่ดีนำทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ ๑๐.สมัยพระพุทธเจ้าชื่อว่ากัสสปะ พระสงฆ์สาธยายอภิธรรมในถ้ำ ค้างคาว ๕๐๐ ตัวได้ฟังเมื่อถึงคราวตายแล้วไปจุติที่ชั้นดาวดึงส์ชาติสุดท้ายมาเกิดเป็นลูกศิษย์พระสารีบุตรและเป็นอรหันต์เป็นที่สุด ๑๑.การสาธยายพระไตรปิฎกที่ว่า “กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยได้ จงจำไว้ กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมมีผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น ไม่มีพรหมเทพองค์ใดจะช่วยลบล้างกรรมนั้นได้ เธอจงช่วยตนเอง ด้วยการสวดมนต์ ภาวนาแผ่เมตตาผลแห่งบุญอันเป็นกรรมปัจจุบันจะช่วยเธอได้”ตอนหนึ่งที่กล่าวกับนางโรหิณี ๑๒.การสาธยายหรือการสวดมนต์ ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตของตนและประโยชน์แก่จิตอื่น และสามารถที่จะทำให้ผู้ที่สวดมนต์สาธยายมีความสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้ มหากุศลบุญที่ยิ่งใหญ่อันพึงจะเกิดขึ้นในครั้งนี้ ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก board.palungjit.com/f45/สาธยายพระไตรปิฎกตลอดปี-ฉลองพุทธชยันตี-336670.html (http://board.palungjit.com/f45/สาธยายพระไตรปิฎกตลอดปี-ฉลองพุทธชยันตี-336670.html) http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3272 (http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3272) http://www.spm18.go.th/index1.php?name=news&file=readnews&id=564 (http://www.spm18.go.th/index1.php?name=news&file=readnews&id=564) http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=10&t=42763&view=unread (http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=10&t=42763&view=unread) หัวข้อ: Re: กองทุน "สาธยายพระไตรปิฎก"...อานิสงส์นี้ยิ่งใหญ่นัก เริ่มหัวข้อโดย: mitdee ที่ สิงหาคม 29, 2012, 01:19:55 pm อนุโมทนา กับข่าวสารงานบุญครั้งนี้ ครับ คงจะมีโอกาสได้ไปร่วมงานสาธยายพระไตรปิฏกบ้างสักครั้ง
:25: :25: :25: |