สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: แก้ว ที่ กันยายน 06, 2012, 09:16:39 am



หัวข้อ: เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน
เริ่มหัวข้อโดย: แก้ว ที่ กันยายน 06, 2012, 09:16:39 am
เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน

  ที่ตั้งคำถามอย่างนี้ ก็เพราะอยากให้ท่านได้ สติกับการสวดมนต์ บทต่าง ๆ

 อยากให้ท่านทั้งหลาย ตั้งคำถาม และ ตอบกันว่า แท้จริง เราสวดมนต์กันเพื่ออะไร ?

  :49: :coffee2:


หัวข้อ: Re: เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2012, 11:11:33 am
(http://board.palungjit.com/attachment.php?attachmentid=1902780&stc=1&d=1329308668)


อานิสงส์การสวดมนต์
บทความ โดยพระมหาณรงค์ศักดิ์ ฐิติญาโณ

   
    กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบัน กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว
    ย่อมมีผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น ไม่มีพรหมเทพองค์ใดจะช่วยลบล้างกรรมนั้นได้
    เจ้าจงช่วยเหลือตนเองด้วยการสวดมนต์ภาวนาแผ่เมตตา ผลแห่งบุญอันเป็นกรรมปัจจุบันจะช่วยตนเอง
การสวดมนต์หรือการสาธยายมนต์นี้ ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตของตน และประโยชน์แก่จิตอื่น

    ประโยชน์แก่จิตตน คือ ทำให้เกิดความสงบ ความเป็นสมาธิและปัญญาทางจิตของผู้สวด

    ประโยชน์แก่จิตอื่น คือ ผู้ได้ยินเสียงสวดก็จะพลอยได้เกิดความรู้เกิดปัญญา มีจิตใจที่สงบลึกซึ้งตามไปด้วย และผู้ที่สวดก็จะเกิดบุญกุศลโดยการให้ทานทางเสียง เพราะว่าเหล่าพรหมเทวดาทั้งหลายที่มาฟังก็คุ้มครองภัยอันตรายให้แก่ผู้ที่สวดมนต์ และที่สำคัญที่สุดของการสวดมนต์ก็คือ สามารถที่จะทำให้ผู้ที่สวดสาธยายมีความสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้

    ที่กล่าวมาเช่นนี้ ก็มีหลักฐานที่ปรากฏอยู่ในพระธรรมคำสอนที่กล่าวได้ว่า โอกาสที่จะบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้นั้นมี ๕ โอกาสด้วยกัน คือ
        ๑.เมื่อฟังธรรม
        ๒.เมื่อแสดงธรรม
        ๓.เมื่อสาธยายธรรมหรือการสวดมนต์
        ๔.เมื่อตรึกตรองธรรมหรือเพ่งธรรมอยู่ในขณะนั้น
        ๕.เมื่อเจริญวิปัสสนาญาณ

    การสวดมนต์ในตอนเช้าและในตอนเย็นเป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันมาตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว โดยอาศัยการเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ของพุทธบริษัททั้งหลาย ที่มีการแบ่งออกเป็น ๒ เวลานั่น คือ
       - ในเวลาเช้าก็เพื่อที่จะฟังธรรม
       - ตอนเย็นก็เพื่อจะเป็นการชำระล้างจิตใจที่มีความเศร้าหมองให้หมดไป เพื่อสำเร็จมรรคผลนิพาน

     และการสวดมนต์ที่ดีพร้อมนั้นก็ต้องประกอบด้วยองค์ ๓ คือ
          ๑. กาย ต้องมีความสงบเรียบร้อยและมีอาการที่สำรวม
          ๒. วาจา ต้องมีความพร้อมวาจาที่เป็นกุศลธรรมที่เกิดมาจากจิต
          ๓. ใจ ต้องมีความเคารพนอบน้อมต่อพระรัตนตรัย



ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3272 (http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=3272)
http://board.palungjit.com/ (http://board.palungjit.com/)


หัวข้อ: Re: เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2012, 11:20:19 am

(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/07/06/273962/hr1667/630.jpg)

อานิสงส์การสาธยายพระไตรปิฎก

๑.พระไตรปิฎกเป็นตาวิเศษอันยิ่งบุคคลใดสาธยายพระไตรปิฎกแล้ว สามารถที่จะรู้ได้ว่าสิ่งใดควรทำ สิ่งใดไม่ควรทำ ทำให้เป็นสัมมาทิฎฐิ นำไปสู่ความสำเร็จและเข้าถึงความเป็นอริยบุคคล คือตั้งแต่โสดาบัน สกทาคามี อนาคามีและอรหันต์เข้าสู่นิพพาน

๒.พระไตรปิฎกเป็นหูที่วิเศษอันยิ่งฟังธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สอนให้บุคคลนั้นดำรงชีวิตด้วยความถูกต้อง ที่เป็นสัมมาทิฎฐิ อย่างน้อยไม่ทำบาปทำแต่กุศล ได้ฟังแต่สิ่งที่เป็นมงคล การพูดก็ดี สุขภาพจิตก็ดี มีจิตใจที่ผ่องใส เมื่อจิตใจผ่องใสความคิดก็ดีความจำก็ดีขึ้นมีสติไม่ทำให้เกิดอกุศลหน้าตาผ่องใสเป็นต้น

๓.พระไตรปิฎกเป็นจมูกที่วิเศษอันยิ่ง กลิ่นหอมที่ว่าหอมแม้จะลอยตามลมไปได้ ๑,๐๐๐ โยชน์ แต่ไม่สามารถที่จะทวนลมได้ แต่กลิ่นของความดี กุศลนั้นสามารถจะทวนลมและกระจายออกไปได้ทุกทิศ จะเป็นมีจมูกที่ได้กลิ่นของกุศลที่กระจอนไปทุกทิศ และไม่หลงติดอยู่กับกลิ่นหอมอย่างอื่น

๔.พระไตรปิฎกเป็นลิ้นที่วิเศษอันยิ่ง ลิ้นคนเราแม้จะจำรสต่าง ๆ ได้ ไม่ช้าก็ลืมมีความสุขชั่วคราวทำให้คนขาดสติ แต่ลิ้นที่ลิ้มรสของพระธรรมนั้น ไม่มีความอิ่มในรสของพระธรรม เมื่อคนเราได้รับลิ้มรสของพระธรรมแล้ว จะทำให้ร่างกายผ่องใสทั้งภายในและภายนอกและจะช่วยรักษาโรคได้ทุกชนิด

๕.พระไตรปิฎกเป็นกายที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายแล้วทำให้มีสภาพที่ผ่องใสทั้งภายในและภายนอก มีกายที่เบาไม่เชื่องช้าเลือดลมในตัวเราที่เรียกว่าธาตุ๔นั้นก็สมบูรณ์ทำให้มีอายุยิ่งยืนนานสามารถหายจากโรคที่เกิดแต่กรรมได้

๖.พระไตรปิฎก เป็นใจที่วิเศษอันยิ่ง ใจดี ใจผ่องใส ใจเป็นหัวหน้า เมื่อใจเบิกบาน จิตใจเป็นกุศลก็สามารถเข้าถึงความเป็น โสดาบันสกทาคามีอนาคามีและพระอรหันต์ในที่สุด



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/6450.jpg)


๗.พระไตรปิฎกเป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษอันยิ่ง สามารถที่จะสอนให้เรารู้ว่าอะไรเป็นกุศลอะไรเป็นอกุศล เมื่อรู้อย่างนี้แล้วสอนให้เรานำเอาหลักธรรมไปประพฤติปฏิบัติอันเป็นทางที่มีความสำเร็จในชีวิตนำทางไปเพื่อเข้าถึงพระนิพพาน

๘.พระไตรปิฎก เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษอันยิ่ง พ่อแม่ไม่ได้หวังค่าตอบแทนจากลูกฉันใด พระไตรปิฎกเป็นผู้ที่สอนให้เรารู้ทุกอย่างที่เรายังไม่เคยรู้ นำทางให้เราเข้าถึงความเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่ แล้วแต่ทางดำเนินชีวิตอันทำให้ถึงจุดหมายปลายทางคือพระนิพพาน

๙.พระไตรปิฎกเป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษอันยิ่ง เมื่อบุคคลได้สาธยายก็จะมีแต่มิตรนำทางไปสู่ที่ดีนำชีวิตไปสู่ความสุขทั้งตัวเอง ครอบครัวและสังคมที่ดีนำทางไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองทั้งในทุกสถานในกาลทุกเมื่อ

๑๐.สมัยพระพุทธเจ้าชื่อว่ากัสสปะ พระสงฆ์สาธยายอภิธรรมในถ้ำ ค้างคาว ๕๐๐ ตัวได้ฟังเมื่อถึงคราวตายแล้วไปจุติที่ชั้นดาวดึงส์ชาติสุดท้ายมาเกิดเป็นลูกศิษย์พระสารีบุตรและเป็นอรหันต์เป็นที่สุด

๑๑.การสาธยายพระไตรปิฎกที่ว่า “กรรมเก่าไม่มีใครลบล้างได้ กรรมปัจจุบันจะช่วยได้ จงจำไว้ กรรมที่ทำด้วยเจตนาไม่ว่าดีหรือชั่ว ย่อมมีผลต่อผู้กระทำทั้งสิ้น ไม่มีพรหมเทพองค์ใดจะช่วยลบล้างกรรมนั้นได้ เธอจงช่วยตนเอง ด้วยการสวดมนต์ ภาวนาแผ่เมตตาผลแห่งบุญอันเป็นกรรมปัจจุบันจะช่วยเธอได้”ตอนหนึ่งที่กล่าวกับนางโรหิณี

๑๒.การสาธยายหรือการสวดมนต์ ย่อมจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่จิตของตนและประโยชน์แก่จิตอื่น และสามารถที่จะทำให้ผู้ที่สวดมนต์สาธยายมีความสำเร็จเป็นพระอรหันต์ได้

    มหากุศลบุญที่ยิ่งใหญ่อันพึงจะเกิดขึ้นในครั้งนี้



ที่มา กองทุน "สาธยายพระไตรปิฎก"...อานิสงส์นี้ยิ่งใหญ่นัก
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8633.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8633.0)
ขอบคุณภาพจาก http://www.dailynews.co.th/,http://www.thairath.co.th/ (http://www.dailynews.co.th/,http://www.thairath.co.th/)


หัวข้อ: Re: เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 09, 2012, 11:24:56 am
เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน

  ที่ตั้งคำถามอย่างนี้ ก็เพราะอยากให้ท่านได้ สติกับการสวดมนต์ บทต่าง ๆ

 อยากให้ท่านทั้งหลาย ตั้งคำถาม และ ตอบกันว่า แท้จริง เราสวดมนต์กันเพื่ออะไร ?

  :49: :coffee2:

    
    แนะนำกระทู้
    กองทุน "สาธยายพระไตรปิฎก"...อานิสงส์นี้ยิ่งใหญ่นัก
    http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8633.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=8633.0)
   
    จุดประสงค์ของการสวดมนต์ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไป
    แต่อานิสงส์ของการสวดมนต์หรือสาธยายธรรมมีอยู่
    ใครใคร่ได้รับอานิสงส์อันใด ก็ควรขวนขวายแสวงหาเอาตามอัธยาศัย

     :25:


หัวข้อ: Re: เราสวดมนต์ เพื่ออะไร ? เพื่อโชค ความสบายใจ หรืออ้อนวอน
เริ่มหัวข้อโดย: Admax ที่ กันยายน 09, 2012, 12:37:27 pm
สาธุครับท่าน nathaponson เป็นประโยชน์อย่างมาก

ขอเสริมนิดนึงนะครับ โดยส่วนตัวผมแล้ว การสวดมนต์ผมไม่ได้ขออานิสงใดๆ แต่ที่ผมสวดมนต์นั้นเพราะด้วยเหตุผลดังนี้ครับ

1. เคารพ บูชา สรรเสริญ คุณอันเป็นเอนกอนันต์ อันหาที่เปรียบมิได้ของ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ พ่อ-แม่-บุพการีทั้งหลาย ครูอุปัชฌาย์ อาจารย์ทั้งหลาย
2. เรียนรู้คำสอนในบทสวดมนตืนั้นๆ เช่น พระสูตร พระปริตร หรือ อื่นๆ จะมีคำสอนอยู่ในนั้นซึ่งเป้นแนวทางการปฏิบัติธรรมกัมมัฏฐานทั้ง เบื้องต้น ท่ามกลาง และ ที่สุด (ดังนั้นเมื่ออ่านบทสวดมนต์ใด ควรเรียนรู้ในคำแปลด้วย)

ผมสวดมนต์ด้วยเหตุผล 2 ปนะการดังนี้แล