หัวข้อ: โครงการ "หอพระประวัติ" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 22, 2012, 08:49:00 am (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/778/9778/images/1163222826.jpg) โครงการหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก พระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก สมเด็จพระญาณสังวร (สุวฺฑฒโน)(สุวัฑฒนมหาเถระ เจริญ คชวัตร) สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก มีพระนามเดิมว่า เจริญ นามสกุล คชวัตร ประสูติที่ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อวันศุกร์ ขึ้น ๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีฉลู ตรงกับวันที่ ๓ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๔๕๖ พระชนกชื่อ นายน้อย คชวัตร พระชนนีชื่อ นางกิมน้อย คชวัตร มีน้องชาย ๒ คน คือ นายจำเนียร คชวัตร และนายสมุทร คชวัตร (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/778/9778/images/P1030888.jpg) การศึกษา บรรพชา และอุปสมบท เมื่ออายุได้ ๔ ขวบ ทรงไดรับการศึกษาเบื้องต้น ณ โรงเรียนประชาบาล วัดเทวสังฆาราม ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จนจบชั้นประถม ๕ เทียบขั้นมัธยม ๒ ปี ๒๔๕๖ ทรงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อพระชนมายุ ๑๔ พรรษา ณ วัดเทวสังฆาราม ต่อมาเข้าศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ณ วัดบวรนิเวศวิหาร โดยสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ทรงเป็นพะรอุปัชฌาย์ พระเทพเมธี เป็นพะรกรรมวาจาจารย์ และได้ประทับศึกษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร จนกระทั่งสอบได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค เมื่อปี ๒๔๘๔ ทรงได้รับปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสถาบันการศึกษาหลายแห่ง อาทิ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยนเรศวร มหาวิทยาลัยมหาสารคาม ฯลฯ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/778/9778/images/P1030897.jpg) สมณศักดิ์ พ.ศ. ๒๔๘๙ เป็นเลขานุการในพระองค์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ พ.ศ. ๒๔๙๐ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะสามัญที่พระโสภณคณาภรณ์ พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชในราชทินนามเดิม พ.ศ. ๒๔๙๘ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพในราชทินนามเดิม พ.ศ. ๒๔๙๙ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นธรรมที่พระธรรมวราภรณ์ พ.ศ. ๒๕๐๔ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเจ้าคณะรองที่พระศาสนโสภณ พ.ศ. ๒๕๑๕ ได้รับพระราชทานสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะที่สมเด็จพระญาณสังวร พ.ศ. ๒๕๓๒ วันศุกร์ที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๓๒ ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาขึ้นดำรงตำแหน่ง สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เป็นลำดับที่ ๑๙ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/778/9778/images/P1030886.jpg) พระศาสนกิจสำคัญ ปี ๒๔๙๙ เป็นพระอภิบาล (พระพี่เลี้ยง) ของพระภิกษุพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ สยามินทราธิราชบรมนาถบพิตร ในระหว่างทรงผนวชเป็นพระภิกษุและเสด็จประทับ ณ วัดบวรนิเวศวิหาร ปี ๒๕๒๑ เป็นพระราชกรรมวาจาจารย์ ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ์ฯ สยามมกุฏราชกุมาร ที่ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเป็นพระอาจารย์ถวายการอบรมพระธรรมวินัย ณ วัดบวรนิเวศวิหาร - ก่อตั้งมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาแห่งแรกของไทย คือ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย - เป็นพระมหาเถระไทยรูปแรก ที่ดำเนินงานพระธรรมทูตในต่างประเทศอย่างเป็นรูปธรรม - ทรงรอบรู้ภาษาต่างประเทศ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษเป็นอย่างดี - ทรงนิพนธ์หนังสือพระพุทธศาสนาจำนวนมาก ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษกว่า ๑๐๐ เรื่อง - ทรงสร้างวัด โรงเรียน และโรงพยาบาล หลายแห่ง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/778/9778/images/P1030906.jpg) ชีวิตแบบอย่าง คุณธรรมโดดเด่น อดทน เอาชนะอุปสรรคท่ามกลางความอ่อนแอ ใฝ่รู้ แสวงหาความรู้อยู่เสมอทั้งไทยและอังกฤษ กตัญญู สนองคุณต่อผู้มีพระคุณ ถ่อมตน สงบเสงี่ยม สำรวม ระวัง ตรัสน้อย คารวธรรม เคารพต่อผู้ที่ควรเคารพ ปฏิปทาแบบอย่างของพระสงฆ์ ๑. ความเป็นผู้ทรงปริยัติและไม่ทิ้งการปฏิบัติ ๒. ความเป็นผู้สำรวมระวังในพระวินัย ๓. ความเป็นผู้มักน้อยสันโดษ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/778/9778/images/P1030899.jpg) วัตถุประสงค์ในการก่อสร้างหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ๑. เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวโรกาสที่พระองค์ทรงมีพระชันษาครบ ๙๖ ปี ๒. เพื่อเฉลิมพระเกียรติที่มีพระชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี ๓. เป็นศูนย์กลางเผยแพร่พระประวัติ เครื่องอัฐบริขาร พระราชกรณียกิจสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ๔. เพื่อเป็นศูนย์รวมจิตใจของพุทธศานิกชน ๕. เป็นสถานที่พักผ่อนและแห่งท่องเที่ยวโดยทั่วไป สถานที่ก่อสร้าง ณ วัดเทวสังฆาราม ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สถานที่ทรงศึกษาเมื่อครั้งทรงพระเยาว์ และทรงผนวช บรรพชา อุปสมบท “หอพระประวัติ” จะเป็นอาคารทรงไทยยอดเจดีย์ ปลียอดบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ บริเวณรอบอาคารประกอบด้วย อาคารปฏิบัติธรรม ศาลาราย ร้านจำหน่ายสินค้าที่ระลึก งบประมาณดำเนินการ ๑๔๐ ล้านบาท กำหนดแล้วเสร็จ ๓ ตุลาคม ๒๕๕๔ ประชาชนทั่วประเทศสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างหอพระประวัติได้ที่... ธนาคารกรุงไทย ชื่อบัญชี “ทุนสร้างหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวรฯ” บัญชีเลขที่ 713-0-37194-3 หรือที่เสมียนตราจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 034-514 243 คลังจังหวัดกาญจนบุรี โทร. 034-511 142, 034-512 991 เชิญฟังบทเพลง "เทิดพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราช" โดย คุณอ๋อ ณธนา หลงบางพลี และคุณปาน ธนพร แวกประยูร (http://www.dungtrin.com/Prasangkaracha.html) ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=507512 (http://www.oknation.net/blog/print.php?id=507512) โพสต์โดย forgive หัวข้อ: Re: โครงการ "หอพระประวัติ" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 22, 2012, 08:57:49 am (http://www.manager.co.th/asp-bin/Image.aspx?ID=2348581) อาคารหอพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชฯ..ใกล้แล้วเสร็จ 9 สิงหาคม 2555 10:19 น. นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตามที่จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับคณะสงฆ์จังหวัด และทุกภาคส่วนในจังหวัดกาญจนบุรี ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างอาคารหอพระประวัติสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระองค์ท่าน ที่มีชาติภูมิเป็นชาวจังหวัดกาญจนบุรี และในโอกาสที่ทรงเจริญพระชันษาครบ 8 รอบ 96 พรรษา โดยได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2552 ใช้งบประมาณ 140 ล้านบาท เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ทางพระพุทธศาสนา การศึกษา อบรม การปฏิบัติกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา และสถานที่พักผ่อนแก่ประชาชนทั่วไป โดยขณะนี้ตัวอาคารได้ก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว คงเหลือการตกแต่งภายใน ซึ่งกำหนดให้แล้วเสร็จก่อนวันคล้ายวันประสูติครบรอบ 99 ปีของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วันที่ 3 ตุลาคม 2555 อาคารหลังนี้ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 38 ไร่ บริเวณพื้นที่ที่ติดกับวัดเทวสังฆาราม (วัดเหนือ) และวัดถาวรวราราม (วัดญวน) อยู่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รูปแบบการก่อสร้างประกอบด้วย การจัดอาคารพื้นที่หอพระประวัติฯ อาคารปฏิบัติธรรม ร้านค้าจำหน่ายของที่ระลึก และท่าเทียบเรือ ภายในอาคารหอพระประวัติ ฯ เป็นอาคาร 4 ชั้น พร้อมศาลาราย 4 ทิศ มีซุ้มประตูเข้า-ออกทั้ง 4 ด้าน ยอดด้านบนสุดมีลักษณะเป็นรูปฉัตรประจำพระองค์ 3 ชั้น ด้านบนสุดของยอดฉัตรจะเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพื้นที่ชั้นล่างสุดเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ใช้จัดกิจกรรม และแสดงสิ่งของเครื่องใช้ส่วนพระองค์ ส่วนบริเวณอาคารตรงกลางเป็นบันไดเวียนขึ้นชั้นต่อไป และจะมีลิฟท์แก้วสำหรับให้คนพิการสามารถขึ้น-ลงได้อย่างสะดวก ขอบคุณภาพข่าวจาก Dhamma and Life - Manager Online - ข่าวสารบ้านเรา (http://www.manager.co.th/dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9550000096162) board.palungjit.com/f36/อาคารหอพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชฯใกล้แล้วเสร็จ-353364.html (http://board.palungjit.com/f36/อาคารหอพระประวัติสมเด็จพระสังฆราชฯใกล้แล้วเสร็จ-353364.html) หัวข้อ: Re: โครงการ "หอพระประวัติ" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 22, 2012, 09:02:50 am (http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/156587.jpg) สร้างหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวรฯ..คืบ วันศุกร์ที่ 21 กันยายน 2555 เวลา 18:51 น. วันนี้ (21 ก.ย.) ที่หอพระประวัติ สมเด็จพระญานสังวร สมเด็จพระสังฆราชสกลมหาสังฆปรินายก วัดเทวสังฆาราม(วัดเหนือ) ต.บ้านเหนือ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี สมเด็จพระวันรัต ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร พร้อมด้วยคณะสงฆ์ เดินทางตรวจเยี่ยมและรับฟังความคืบหน้าในการก่อสร้างหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก โดยมี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผวจ.กาญจนบุรี ต้อนรับ พร้อมผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรี โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/156587/0.jpg) สำหรับความคืบหน้าการก่อสร้างก่อสร้างหอพระประวัติฯ ขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วเสร็จระยะที่ 1 ประกอบด้วย อาคารหอพระประวัติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำ และงานก่อสร้างท่าเทียบเรือ ส่วนที่ยังต้องดำเนินการต่อในระยะที่ 2 คือ การปรับปรุงภูมิทัศน์ ทั้งภายในอาคาร และภายนอกอาคาร การปรับภูมิทัศน์ภายนอกได้จัดซื้อจัดจ้างและทำสัญญาแล้ว สำหรับการปรับภูมิทัศน์ภายใน อยู่ในระหว่างดำเนินการ ได้ออกแบบ คำนวณและประมาณการงบประมาณแล้ว จะเร่งให้แล้วเสร็จภายในปีนี้. ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.dailynews.co.th/thailand/156587 (http://www.dailynews.co.th/thailand/156587) |