หัวข้อ: รักร้อยก็ทุกข์ ๑๐๐..,รักเก้าสิบก็ทุกข์ ๙๐..,รัก..... เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 02, 2012, 11:04:30 am (http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/7/75/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2.jpg) เสฐียรพงษ์ วรรณปก : รักร้อยทุกข์ร้อย มติชน 30/09/2555รักร้อยทุกข์ร้อย คอลัมน์ รื่นร่ม รมเยศ โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก นางวิสาขาเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ผู้สนใจพระพุทธศาสนา เพราะเธอเป็น "มหาอุบาสิกา" (แปลว่า อุบาสิกาผู้ใหญ่ ไม่ใช่อุบาสิกาของมหานะฮะ) ที่ใจบุญสุนทาน มีอุปการคุณต่อพระพุทธศาสนามาก คู่กับ "มหาอุบาสก" ชื่อ อนาถบิณฑิกเศรษฐีนั่นแล นางเป็นลูกสาวเศรษฐีแคว้นอังคะ ได้ฟังพระธรรมจากพระพุทธเจ้าได้บรรลุโสดาปัตติผลตั้งแต่อายุ 7 ขวบ แต่งงานกับปุณณวัฒนกุมาร ลูกชายมิคารเศรษฐี แล้วย้ายมาอยู่กับสามีที่เมืองสาวัตถี ตระกูลสามีของนางเป็น "มิจฉาทิฐิ" คำนี้เป็นศัพท์เฉพาะ หมายถึงตระกูลที่ไม่นับถือพระพุทธศาสนา พวกเขานับถือเดียรถีย์ (ศัพท์เฉพาะอีกเหมือนกัน แปลว่า พวกที่เป็นนักบวชลัทธิอื่นนอกจากพระพุทธศาสนา เช่น พวกปริพาชก พวกอเจลก (ชีเปลือย) เป็นต้น) วันหนึ่ง ขณะนางวิสาขาปรนนิบัติพัดวีพ่อสามีซึ่งกำลังรับประทานอาหารอยู่ พระภิกษุรูปหนึ่งถือบาตรมายืนรออยู่หน้าบ้าน (ธรรมเนียมโบราณพระมาบิณฑบาตจะมายืนรอที่หน้าบ้าน ถ้าเราจะใส่บาตรก็ออกไปใส่ ถ้าไม่ใส่ก็นิมนต์ให้ท่านไปโปรดที่อื่น) เศรษฐีแกล้งทำเป็นไม่เห็นพระ นางวิสาขาจึงเลี่ยงมาพูดกับพระท่านเบาๆ พอที่พ่อสามีได้ยินว่า "นิมนต์โปรดข้างหน้าเถิด คุณพ่อดิฉันกำลังกินของเก่า" เท่านั้นแหละครับ เสี่ยร้อยล้านพันล้านโมโหโกรธาเป็นการใหญ่ หาว่าลูกสะใภ้กำแหงบังอาจด่าพ่อสามีว่า "กินขี้" (กินของเก่า) (http://www.madchima.net/forum/gallery/11_14_02_13_8_17_02.jpeg) เรื่องถึงต้องขึ้นโรงขึ้นศาล นางวิสาขาแก้ว่า นางมิได้หมิ่นประมาทพ่อสามีดังที่เข้าใจ ที่นางพูดว่าพ่อสามีนาง "กินของเก่า" นั้น นางหมายความว่า พ่อสามีนางได้เกิดมาเป็นเศรษฐีมีความสุขสบายในชาตินี้ เพราะเศรษฐีได้สร้างสมบุญไว้แต่ชาติปางก่อนไว้มาก มาชาตินี้จึงมั่งมีศรีสุข แต่ท่านก็ไม่ได้ทำบุญทำทานอันจักเป็นปัจจัยในภายภาคหน้าเลย เท่ากับเสวยผลของบุญเก่าอย่างเดียว นางจึงพ้นผิด และพ่อสามีก็เข้าใจนาง ต่อมาไม่นาน นางก็สามารถชักจูงพ่อสามีให้หันมานับถือพุทธได้สำเร็จ ทีนี้ไม่ว่านางวิสาขาจะพูดจะทำอะไร เศรษฐีเห็นดีเห็นงามด้วยทุกอย่าง จนใครๆ เรียกนางวิสาขาอีกนามหนึ่งว่า "มิคารมาตา" (แม่ของมิคารเศรษฐี) ว่ากันว่า นางวิสาขาเป็น "เบญจกัลยาณี" (ผู้งามพร้อมห้าอย่าง) หาผู้เสมอเหมือนมิได้ เป็นสาวสองพันปี ไม่รู้จักแก่ มีลูกเต็มบ้าน มีหลานเต็มเมือง ไปไหนมาไหนกับพวกลูกๆ หลานๆ มองไม่ออกว่าคนไหนคือนางวิสาขา เพราะล้วนเอ๊าะๆ เหมือนๆ กัน ว่าถึงขนาดนั้น จริงเท็จยังไง ผมเกิดไม่ทันไม่สามารถยืนยันได้ (แม้จะมีผู้นั่งลำดับญาณให้ผมว่าชาติก่อนเคยเป็นพระอรหันต์ยสเถระ หลวงพี่ผมเป็นพระสารีบุตร ทันเห็นนางวิสาขา ผมก็ไม่บ้าจี้ด้วยดอก) พระอริยบุคคลระดับต้นๆ อย่างนางวิสาขาก็มีความทุกข์โศกเสียใจได้ เพราะกิเลสเพียงเบาบางบางส่วนเท่านั้น ยังไม่หมดโดยสิ้นเชิง วันหนึ่งนางลงไปแช่น้ำจนเปียกโชก เข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ณ พระเชตวันวิหาร พลางสะอึกสะอื้นกราบทูลว่า "หลานรักคนหนึ่งของหม่อมฉันตายเสียแล้ว" "วิสาขา คนเมืองนี้ตายวันละเท่าไร" พระพุทธองค์ตรัสถาม "ไม่แน่พระเจ้าข้า บางวันตายถึงร้อย บางวันก็ไม่ถึง แต่ที่แน่ก็คือ มีคนตายทุกวัน" "วิสาขาเธออยากมีบุตรหลานมากเท่าใด" ทรงเปลี่ยนเรื่องถาม "ถ้าเป็นไปได้ อยากมีมากมายเท่าจำนวนคนเมืองสาวัตถี พระเจ้าข้า" "ถ้าเช่นนั้น เธอมิต้องลงอาบน้ำ มีผ้าเปียก ผมเปียกไปตลอดหรือ เธอมิต้องเศร้าโศกเสียใจหาเวลาสร่างมิได้หรือ" (http://www.dmc.tv/images/00-iimage/katin13.jpg) พระพุทธองค์ทรงหมายความว่า ถ้าลูกหลานตายคนหนึ่ง นางวิสาขาต้องลงไปแช่น้ำชำระล้างมลทินในงานอวมงคลทุกครั้งตามธรรมเนียม นางมิต้องลงแช่น้ำทุกวันหรือ เพราะบุตรหลานจะต้อง "เรียงคิว" กันตายไม่เว้นแต่ละวัน ความเศร้าโศกวิปโยคก็จะไม่มีวันสร่างซา ท้ายที่สุดนางก็ได้คิดหักห้ามความโศกไว้ได้ พระพุทธดำรัสท่อนสุดท้าย เป็นดุจหนึ่งโอสถทิพย์ชโลมใจนาง (หรือทุกคนที่ต้องเศร้าโศกเพราะรักวิปโยค) พระพุทธวจนะมีดังนี้ครับ "วิสาขาเอย ผู้ที่มีรักร้อยก็ทุกข์ร้อย รักเก้าสิบก็ทุกข์เก้าสิบ ไม่มีรักก็ไม่มีทุกข์ ไม่มีความเศร้าหมองจิต ไม่มีความคับแค้นแห่งจิต" บางคนมีรักไม่ถึงร้อย แค่สองคนเท่านั้นก็ทุกข์แทบตาย เพราะทั้ง "น้อย" และ "หลวง" ต่างก็ไม่มีใครยอมใคร ที่มา http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349011745&grpid=&catid=19&subcatid=1904 (http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1349011745&grpid=&catid=19&subcatid=1904) ขอบคุณภาพจาก http://upload.wikimedia.org/,http://s2.dmiinter.com/,http://www.dmc.tv/ (http://upload.wikimedia.org/,http://s2.dmiinter.com/,http://www.dmc.tv/) หัวข้อ: Re: รักร้อยก็ทุกข์ ๑๐๐..,รักเก้าสิบก็ทุกข์ ๙๐..,รัก..... เริ่มหัวข้อโดย: montra ที่ ตุลาคม 04, 2012, 12:16:48 am "วิสาขาเอย ผู้ที่มีรักร้อยก็ทุกข์ร้อย รักเก้าสิบก็ทุกข์เก้าสิบ
ไม่มีรักก็ไม่มีทุกข์ ไม่มีความเศร้าหมองจิต ไม่มีความคับแค้นแห่งจิต" อนุโมทนา ครับ ข้อความเตือนจิต สะกิดใจ ขัดเกลาธรรมให้เห็นธรรมนั้น ต้องมี สติ เป็นที่ตั้งครับ :25: :49: หัวข้อ: Re: รักร้อยก็ทุกข์ ๑๐๐..,รักเก้าสิบก็ทุกข์ ๙๐..,รัก..... เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กุมภาพันธ์ 14, 2013, 08:12:17 am http://www.youtube.com/watch?v=nePp_lN-M40# (http://www.youtube.com/watch?v=nePp_lN-M40#)
อัปโหลดเมื่อ 14 ต.ค. 2007 โดย pruerzz31 |