หัวข้อ: อนุรักษ์ "มรดกทางธรรม" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ตุลาคม 20, 2012, 07:41:46 pm (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/10/15/298692/hr1667/630.jpg) อนุรักษ์ "มรดกทางธรรม" สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ห้องสมุดพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ฉลอง 100 พรรษา “สมเด็จพระสังฆราช” ถาวรวัตถุอันเป็นมงคล ซึ่งสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กำลังเตรียมการเพื่อจัดสร้างเป็นพระกุศลเฉลิมพระเกียรติในวาระมหามงคล เนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก จะทรงเจริญพระชนมายุ 100 พรรษา ในปี 2556 (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/10/15/298692/o4/420.jpg) โดยมีเป้าหมายต้องการพัฒนาให้เป็นห้องสมุดทางพระพุทธศาสนาที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะมีหนังสือทางพระพุทธศาสนาแล้ว ยังจะมีผลงานการวิจัยเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา สื่อมัลติมีเดียต่างๆ ที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมทั้งจะเป็นสถานที่ที่ใช้จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาด้วย และที่สำคัญห้องสมุดพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย จะถือว่าเป็นห้องสมุดแห่งเดียวของประเทศ ไทยที่จะมีการรวบรวมข้อมูลที่ เป็นมรดกทางธรรมของ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ไว้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น ลายพระหัตถ์ หนังสือพระนิพนธ์หนังสือ วิชาการส่วนพระองค์ พระสุรเสียงที่พระองค์ทรงเทศน์ในงานต่างๆ ที่มีการบันทึกไว้รวม ไปถึงพระรูปที่หาชมได้ยากของ พระองค์ด้วย (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/10/15/298692/o2/420.jpg) พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช บอกว่า การดำเนินการจัดตั้งห้องสมุดพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย เป็นจุดมุ่งหมายที่วางไว้ จากการดำเนินการภายใต้ โครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมส่วนพระองค์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก โดยการอนุรักษ์มรดกทางธรรมของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ และถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการจัดตั้งห้องสมุดพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ซึ่งจะดำเนินการรวบรวมมรดกทางธรรมต่างๆของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ตั้งแต่เดือน ต.ค.นี้ จากนั้นจะนำสิ่งต่างๆ ที่รวบ รวมได้มาจัดทำเป็นสำเนาดิจิตอล เพื่อให้คงอยู่ในสภาพที่ดี และมีอายุยืนยาว เพื่อที่พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังจะได้สามารถศึกษามรดกทางธรรมของพระองค์ได้ โดยมีกำหนด การจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย.2556 พร้อมกันนี้ยังได้ประสานไปยัง มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยรังสิต และ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เพื่อขอความร่วมมือในการดำเนินการตามโครงการดังกล่าวด้วย “ตั้งใจที่จะรวบรวมทุกเหตุการณ์ที่ พระองค์เสด็จไปยังสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งหากประชาชนหรือหน่วยงานใดๆ มีการบันทึกไว้ ไม่ว่าจะในรูปแบบใดก็ตาม สามารถ แจ้งมาได้ที่สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เพื่อที่จะนำมาจัดทำเป็นสำเนาดิจิตอลเก็บรักษาไว้ และต้องการรวบรวมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเบื้องต้นกำหนดไว้ว่าจะมีการทำสำเนาดิจิตอลลายพระหัตถ์ 1,000 ฉบับ สำเนาหนังสือพระนิพนธ์ 100 เล่ม สำเนาดิจิตอลหนังสือวิชาการส่วนพระองค์ 50 เล่ม สำเนาดิจิตอลเทปพระสุรเสียง 500 ม้วน และสำเนาพระรูป 6,000 รูป” พระราชรัตนมงคล ฉายภาพให้เห็นถึงเป้าหมายที่วางไว้ของการรวบรวมมรดกทางธรรมทั้งหมดของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/10/15/298692/o3/420.jpg) นอกเหนือจากการรวบรวมข้อมูลต่างๆและบันทึกไว้ในรูปแบบของสำเนาดิจิตอลแล้ว ทางสำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช ยังเตรียมที่จะพัฒนาข้อมูลต่างๆ ที่รวบรวมได้ครั้งนี้ไปจัดทำเป็นแอพพลิเคชั่น เพื่อให้สามารถดาวน์โหลดลงในโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตได้ด้วย พระครูสังฆสิทธิกร หัวหน้าฝ่ายศาสนวิเทศ สำนักเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช บอกว่า ทางมหาวิทยาลัยรังสิต จะเข้ามาช่วยในการนำข้อมูลต่างๆ ที่ได้จากโครงการอนุรักษ์ทรัพยากรทางธรรมส่วนพระองค์ในสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ไปพัฒนาเป็นแอพพลิเคชั่น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนสามารถศึกษามรดกทางธรรมของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตาม เพราะพระพุทธศาสนานับเป็นการศึกษาตลอดชีวิต แม้จะ อายุเท่าใดก็สามารถที่จะศึกษาหลักคำสอนทางพระพุทธศาสนาได้ ทีมข่าว ศาสนา ในฐานะพุทธศาสนิกชนขอร่วมอนุโมทนาบุญกับการดำเนินการจัดสร้าง ห้องสมุดพระพุทธศาสนาแห่งประเทศ ไทย ในครั้งนีี้ ซึ่งนับเป็นแนวทางในการอนุรักษ์ข้อมูลทางพระพุทธศาสนาที่ดีอีกแนวทางหนึ่ง โดยเฉพาะข้อมูลที่เกี่ยวกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ ซึ่งถือเป็นประมุขของคณะสงฆ์ไทย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนรุ่นหลังได้ศึกษา เนื่องจากที่ผ่านมาคงต้องยอมรับว่าข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระสังฆราชในยุคก่อนๆ ไม่ค่อยได้มีการเก็บรวบรวมไว้อย่างชัดเจน ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากเทคโนโลยีในสมัยก่อนที่ยังไม่ทันสมัยพอที่จะสามารถเก็บรักษาเอกสารต่างๆ ได้ดีพอ จึงทำให้เกิดการชำรุด เสียหายไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่า เสียดายอย่างยิ่ง (http://www.thairath.co.th/media/content/2012/10/15/298692/o5/420.jpg) แต่ ณ วันนี้ เมื่อระบบเทคโนโลยีในการเก็บรักษาเอกสารต่างๆ มีการพัฒนาขึ้นอย่างมาก ทำให้สามารถเก็บรักษาเอกสารได้ยาวนานขึ้น เราจึงเห็นด้วยว่าน่าจะเป็นนิมิต หมายที่ดีที่จะนำเทคโนโลยีในปัจจุบันมาประยุกต์ใช้กับการเก็บรักษาข้อมูลทางพระพุทธศาสนาเพื่อให้คงอยู่ได้ยืนยาวและถาวร เพราะผลที่สุดย่อมจะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อพุทธศาสนิกชนรุ่นลูกรุ่นหลาน ต้องการที่จะศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ เพราะทุกคำสอนซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังราชฯ ประมุขของคณะสงฆ์ไทย ได้ร้อยเรียงจากพระธรรมคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อถ่ายทอดสู่พุทธศาสนิกชน ล้วนเป็น “มรดกทางธรรม” ที่คู่ควรในการเก็บรักษาไว้ตราบนานเท่านาน..... ขอบคุณภาพข่าวจาก http://www.thairath.co.th/content/edu/298692 (http://www.thairath.co.th/content/edu/298692) |