สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 09:26:09 am



หัวข้อ: กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร.?
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 09:26:09 am

(http://www.thairath.co.th/media/content/2012/11/01/303027/hr1667/630.jpg)

กินเจ-มังสวิรัติ ต่างกันอย่างไร.?

สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านไทยรัฐออนไลน์ที่รัก (และคิดถึง) แหม! ครั้งนี้มีความคิดถึงเพิ่มมาฝากกันอีกนิดหนึ่งนะคะ เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ผ่านไปเมื่อปลายเดือนที่แล้วกับเทศกาลถือศีลกินเจ มีคุณผู้อ่านท่านใดกินเจบ้างคะ ว่าไปแล้วก็รู้สึกดีนะคะ ปีนี้หันไปทางไหนก็เห็นคนกินเจเยอะขึ้นทุกปี

อย่างรอบตัวคุณครูลิลลี่เองก็รู้สึกได้เลยว่ามีเพี่อนๆ พี่ๆ น้องๆ หันมากินเจกันมากขึ้น สันนิษฐานว่าแต่ละคนอยากหาสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง และการกินเจก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่นอกจากจะไม่เป็นการเบียดเบียนชีวิตสัตว์โลกแล้ว ก็ยังมีผลดีกับสุขภาพด้วยนั่นเองค่ะ

พูดถึงคำว่า “กินเจ” คุณครูลิลลี่ในฐานะคุณครูภาษาไทยก็ขอเอาความรู้ของคำๆ นี้มาฝากกันไว้เสียหน่อย แน่นอนค่ะ
    คำว่า “เจ” ไม่ใช่ เจ เจตริน ไม่ใช่ เจ มณฑล แน่ๆ แต่คำๆ นี้เป็นคำภาษาจีนค่ะ
    คำว่า เจ ในภาษาจีนทางพุทธศาสนานิกายมหายาน มีความหมายเดียวกับคำว่า อุโบสถศีล หรือการถือศีล 8

    ดังนั้นการกินเจ ในจุดเริ่มต้นก็คือ การรับประทานอาหารก่อนเที่ยงวัน เหมือนกับที่ชาวพุทธในประเทศไทยที่ถืออุโบสถศีล หรือรักษาศีล 8 ไม่รับประทานอาหารหลังจากเที่ยงวันไปแล้วนั่นเองค่ะ

    แต่เนื่องจากการถืออุโบสถศีลของชาวพุทธนิกายมหายานมีการไม่กินเนื้อสัตว์ร่วมด้วย
    จึงนิยมนำการไม่กินเนื้อสัตว์ไปรวมกันเข้ากับคำว่ากินเจ กลายเป็นการถือศีลกินเจมาจนปัจจุบันนี้
    แต่ก็มีการปรับเปลี่ยนเรื่องของระยะเวลาในการกินเจให้เหมาะสม กลายเป็นรับประทานได้ทั้งวันนั่นเองค่ะ


(http://www.takolia.com/wp-content/uploads/2012/09/Lose-weight-by-eating-vegetarian.1.jpg)
   
    ส่วนที่มีผู้สงสัยว่า แล้วการกินเจ กับการกินแบบมังสวิรัติ เหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรนั้น   
    ก็ต้องขออนุญาตเล่าให้ฟังว่า ทั้งอาหารเจและอาหารมังสวิรัติเป็นอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์เหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกันในรายละเอียดดังนี้ คือ

    อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงขึ้นโดยไม่มีเนื้อสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ (เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง น้ำปลา เจลาติน คอลลาเจน) และไม่ปรุงด้วยผักฉุนทั้ง 5 ชนิด ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิด อาทิ ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และใบยาสูบ
    เพราะผักเหล่านี้ทำอันตรายต่ออวัยวะในร่างกาย
       - กระเทียมให้โทษต่อหัวใจ
       - หอมให้โทษต่อไต
       - หลักเกียวให้โทษต่อม้าม
       - กุยช่ายให้โทษต่อตับ และ
       - ใบยาสูบให้โทษต่อปอด

    วัตถุดิบที่เป็นหลักในการประกอบอาหารเจ คือ แป้ง เต้าหู้  ซีอิ๊ว ถั่วเหลือง ถั่วต่างๆ และผักนานาชนิด ยกเว้นผักที่กล่าวมาแล้ว
    นอกจากนั้นผู้กินเจอย่างเคร่งครัด แม้กระทั่งน้ำมันพืชที่ใช้ต้องบริสุทธิ์ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์
    จะไม่ใช้น้ำมันพืชสูตรผสม เช่น น้ำมันรำข้าวปนน้ำมันถั่วเหลือง
    รวมไปถึงภาชนะที่ใส่อาหารเจก็ต้องเตรียมไว้เป็นพิเศษ ไม่ใช้ปะปนกับภาชนะที่ใส่เนื้อสัตว์ด้วยค่ะ

 มากันที่อาหารมังสวิรัติกันบ้าง (อันนี้ที่บ้านพุฒมณฑาของคุณครูลิลลี่ก็เสิร์ฟด้วยเมนูนี้ตลอดค่ะ เพราะเราถือว่าได้มาปฏิบัติธรรมหาสิ่งที่ดีให้ชีวิตแล้ว ก็ส่งเสริมให้มีการงดเว้นเนื้อสัตว์ร่วมด้วย ถือเป็นการทำบุญทำทานให้กับชีวิตของสัตว์โลกไปพร้อมๆ กันนั่นเองค่ะ)
    มาต่อกันที่คำว่ามังสวิรัติกันต่อค่ะ คำๆ นี้ถ้าจำไม่ผิดคุณครูเคยให้ความรู้กันไปแล้วว่า โดยรูปศัพท์คำๆ นี้ หมายถึงการงดเว้นเนื้อสัตว์
    โดยแยกตามรายละเอียดได้ว่า มังส คือ เนื้อสัตว์ ส่วนวิรัติ คือ การงดเว้น
    เพราะฉะนั้นการรับประทานมังสวิรัติ ก็คือ การรับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์นั่นเองค่ะ


(http://images.thaiza.com/34/34_20071126153435..jpg)
   
    แล้วต่างกันอย่างไรกับการกินเจ ก็ต้องบอกว่าการกินเจ เข้มข้นกว่า เคร่งครัดกว่า
    เพราะอย่างมังสวิรัติ ยังคงสามารถบริโภค ไข่ และนม ได้ด้วย
    แต่ถ้าเป็นการกินเจ จะกินไข่และนมไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นผลผลิตจากสัตว์ค่ะ

    โดยสรุปก็คือ อาหารมังสวิรัติงดเนื้อสัตว์เหมือนกับอาหารเจ รวมทั้งเครื่องปรุงรสที่ทำมาจากสัตว์ เช่น กะปิ น้ำปลา แต่ต่างกับอาหารเจตรงที่ไม่ห้ามบริโภคกระเทียม หัวหอม ต้นกุยช่าย หรือผักที่มีกลิ่นแรงตลอดจนเครื่องเทศที่เผ็ดร้อน และอาหารมังสวิรัติสามารถบริโภคได้ทั้งปี  ไม่มีเทศกาลหรือมีวันกำหนดตายตัวเหมือนกับการรับประทานอาหารเจ 

    ซึ่งจะเป็นเจหรือมังสวิรัติ คุณครูลิลลี่เชื่อว่าสิ่งที่ดีที่ได้จากการรับประทานก็คือ
    จะทำให้ร่างกายมีสุขภาพแข็งแรง เพราะได้งดเนื้อสัตว์ซึ่งมีไขมันและสารอื่นๆ มากมาย
    นอกจากนั้นยังมีประโยชน์ต่อจิตใจ เพราะไม่เบียดเบียนชีวิตสัตว์ทั้งหลายด้วยค่ะ

    สำหรับคนที่กินเจผ่านไปก็ต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ
    ส่วนท่านที่ยังไม่เคยกินเจหรือไม่เคยงดเว้นเนื้อสัตว์ คุณครูว่าลองดูสักวัน หรือสักมื้อสิคะ
    นอกจากสุขภาพที่ดีแล้ว ก็จะเป็นกุศลที่ดีให้กับชีวิตของเราด้วยค่ะ สวัสดีค่ะ

คุณครูลิลลี่
socialcam : krulilly
twitter : krulilly
instagram : krulilly
facebook : ครูลิลลี่
youtube : ครูลิลลี่

 
ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/303027 (http://www.thairath.co.th/content/edu/303027)
http://www.takolia.com/,http://images.thaiza.com/ (http://www.takolia.com/,http://images.thaiza.com/)