หัวข้อ: กฐินหลวง กฐินราษฎร์ กฐินโจร..ต่างกันอย่างไร.? เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 04, 2012, 09:44:47 am (http://www.komchadluek.net/media/img/size_photo_slide/2012/11/01/a5d67c7achhhgc6c9cb65.jpg) กฐินหลวง-กฐินราษฎร์-กฐินโจร : คำวัดโดยพระธรรมกิตติวงศ์ "การทอดกฐิน" บุญประเพณีเป็นของพุทธศาสนิกชนไทยมีมาช้านาน สันนิษฐานว่าเริ่มมีมาแต่แรกที่รับพระพุทธศาสนาเถรวาทเข้ามาในดินแดนประเทศไทย ซึ่งอาจมีปฏิบัติประเพณีนี้มาตั้งแต่สมัยทวาราวดี แต่มาปรากฏหลักฐานชัดเจนว่า ชาวไทยได้ถือปฏิบัติในการบำเพ็ญกุศลในเทศกาลกฐินในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยมีทั้งพิธีหลวงและพิธีราษฎร์ มีกำหนดระยะเวลาถวายเพียง ๑ เดือน คือตั้งแต่วันแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ไปจนถึงวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ (วันลอยกระทง) ระยะเวลานี้เรียกว่า กฐินกาล คือระยะเวลา ทอดกฐิน หรือ เทศกาลทอดกฐิน ในปัจจุบันถวายผ้ากฐินในแง่การสนับสนุนผ้าไตรจีวร เพื่อใช้ในสังฆกรรมสำคัญของคณะสงฆ์ได้ถูกลดความสำคัญลงไป แต่กลับให้ความสำคัญกับบริวารของกฐินทานแทน เช่น เงิน หรือวัตถุสิ่งของ เพื่อนำสิ่งเหล่านี้มาพัฒนาถาวรวัตถุและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ซึ่งจัดเป็นสังฆทานอย่างหนึ่งเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ทั้งพระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.๙ ราชบัณฑิต) เจ้าอาวาสวัดราชโอสาราม ได้อธิบายความหมายของคำว่า "กฐิน" เป็นภาษาพระธรรมวินัย เป็นชื่อเรียกผ้าพิเศษที่พระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้อยูจำพรรษาครบ ๓ เดือน แล้วรับมานุ่งห่มได้ ทั้งนี้หากแปลตามศัพท์ว่า ไม้สะดึง คือ กรอบไม้หรือไม้แบบสำหรับขึงผ้าที่จะเย็บจีวร ผ้าที่เย็บสำเร็จจากกฐิน หรือไม้สะดึงแบบนีเรียกว่า ผ้ากฐิน (http://job.haii.or.th/wiki84new/images/5/5a/%E0%B8%96%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%9C%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%81%E0%B8%90%E0%B8%B4%E0%B8%99.jpg) กฐินหลวง คือ กฐินที่ทอดถวายแก่สงฆ์จำพรรษาในวัดหลวงที่กำหนดไว้ ๑๖ วัด แบ่งเป็น ๒ ประเภท คือ ๑.พระเจ้าแผ่นดินเสด็จพระราชดำเนินไปทรงถวายด้วยพระองค์เอง เรียกว่า กฐินหลวง หรือ กฐิน เสด็จพระราชดำเนิน และ ๒.พระเจ้าแผ่นดินพระราชทานให้พระบรมวงศานุวงศ์ หน่วยงานราชการ หรือ ประชาชนที่กราบบังคมทูลของพระราชทานไปทอดที่วัดหลวงแทนพระองค์ เรียกว่า กฐินพระราชทาน กฐินราษฎร์ คืออ กฐินที่ราษฎร์ หรือชาวบ้านทั่วๆ ไปจัดการทอดกันเองที่วัดราษฎร์ เช่น วัดในหมู่บ้าน อาจมีเจ้าภาพเพียงคนเดียว เรียกว่า "เจ้าภาพกฐิน" ก็ได้ หรืออาจรวมกันเป็นหมู่คณะร่วมกันที่เรียกว่า "กฐินสามัคคี" ก็ได้ แม้การทอดจุลกฐินก็นับเป็นกฐินสามัคคีเช่นกัน ส่วนใหญ่ทำเป็นเงานใหญ่ เอิกเกริก ถือว่าเป็นบุญใหญ่ ได้อานิสงส์มาก เช่น ทำบุญฉลองก่อนนำไปทอดบ้าง เวลานำไปวัดบ้างก็แห่ไปทางน้ำ บ้างก็ไปทางบก บ้างก็ขึ้นหลังช้างหลังม้า รวมทั้งใส่รถแล้วแห่แหนกันไป ทำให้ดูเป็นงานบุญที่ยิ่งใหญ่และสำคัญ (http://www.bloggang.com/data/yo-sa/picture/1314347188.jpg) ส่วนกฐินโจรนั้น เป็นสำนวนพูด หมายถึงกฐินที่ไปทอดโดยไม่ได้จองล่วงหน้า ไปทอดแบบจู่โจม เรียกว่า "กฐินจร" ก็มี ทั้งนี้ในการทอดกฐินทั่วๆ ไป มีธรรมเนียมว่าต้องจองกฐินล่วงหน้า การที่จัดเครื่องกฐินพร้อมสรรพแล้วนำไปทอดที่วัดยังไม่มีผู้จองกฐินทันทีทันใดแบบจู่โจม หรือบอกกะทันหันแบบตั้งตัวไม่ทันเหมือนโจรบุกขึ้นบ้าน จึงเรียกว่า "กฐินโจร" หรือ "กฐินจร" เพราะเป็นกฐินที่จรมาโดยไม่มีการนัดหมาย กฐินโจร คำนี้อาจเกิดจากการล้อคำที่ว่า "กฐินโจล" ซึ่งแปลว่า ผ้ากฐิน เพราะมีเสียงคล้ายกัน จึงขอยืมมาล้อในกรณีที่มีการทอดกฐินแบบจู่โจม ขอบคุณบทความและภาพจาก www.komchadluek.net/detail/20121102/143778/กฐินหลวงกฐินราษฎร์กฐินโจร:คำวัด.html#.UJXSyGfvolh (http://www.komchadluek.net/detail/20121102/143778/กฐินหลวงกฐินราษฎร์กฐินโจร:คำวัด.html#.UJXSyGfvolh) http://job.haii.or.th/,http://www.bloggang.com/ (http://job.haii.or.th/,http://www.bloggang.com/) |