สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 17, 2012, 09:46:33 am



หัวข้อ: 'กรุงเก่า' พบหลายวัด 'ทรงคุณค่า'...ถูกทิ้งร้างเสียหาย
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ พฤศจิกายน 17, 2012, 09:46:33 am


(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/167122.jpg)


'กรุงเก่า' พบหลายวัด 'ทรงคุณค่า'...ถูกทิ้งร้างเสียหาย

ยังพบอีกมาก วัดเก่าทรงคุณค่า ถูกทิ้งร้างเสียหาย ปล่อยให้ปรักหักพังมีหญ้าเถาวัลย์และต้นไม้นานาชนิดขึ้นปรกคลุมจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

วันนี้( 16 พ.ย.) รายงานว่าจากการค้นพบพระพุทธรูป เจดีย์ปางต่างๆเป็นโบราณสถานสำคัญเก่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา  ปัจจุบันถูกปล่อยให้ปรักหักพังมีหญ้าเถาวัลย์และต้นไม้นานาชนิดขึ้นปรกคลุมจนไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ได้มีชาวบ้านและกลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน ได้แจ้งเข้ามาว่า
    ในพื้นที่ ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    ยังมีวัดร้างเก่าแก่สภาพปัจจุบันถูกทิ้งร้างอยู่ในป่ามีต้นไม้และวัชพืชขึ้นปรกคลุม
    เช่นเดียวกับวัดโคกขมิ้นอีกหลายวัด ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ

    พบนายศักดา ขันธศักดิ์ อายุ 25 ปี อาชีพค้าขายในหมู่บ้าน ม.9 ต.สำเภาล่ม อ.พระนครศรีอยุธยา ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปสำรวจยังจุดแรกที่วัดตะเว็ดต้องเดินลัดเลาะตามแนวชายป่าเข้าไปกว่า200 เมตร จากถนนทางเข้าหมู่บ้าน จนพบว่า

    สภาพของวัดตะเว็ดที่หลงเหลืออยู่เป็นซากของฝาพนัง เชื่อว่าเป็นฝาพนังของโบสถ์ อยู่เพียงส่วนเดียว
    บนจั่วยังคงมีลวดลายจิตรกรรมปูนปั้นสวยงามมองให้เห็นอย่างชัดเจน
    รอบๆบริเวณมีซากของอิฐและฐานเจดีย์ที่วัชพืชขึ้นปกคลุม



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167122/0.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167122/1.jpg)


    เมื่อเดินลัดเลาะเข้าไปในป่าลึกเข้าไปอีกประมาณ 300 เมตร พบกับฐานเจดีย์วัดบันไดนาค
    สภาพของโบราณสถานเหลือเพียงแค่ฐานเจดีย์ ก่ออิฐเรียงซ้อนกันกว้างประมาณ  4 เมตร สูงประมาณ   10 เมตร
    รอบๆฐานเจดีย์มีร่องรอยการถูกเจาะจนเป็นโพรง เข้าไปในตัวเจดีย์ลักษณะคล้ายถ้ำ
    ยังพบว่ามีร่องรอยการขุดเจาะใหม่ด้วย ส่วนตัวองค์เจดีย์ยังคงมีร่องรอยของลวดลายปูนปั้นงดงาม มองเห็นอยู่บ้าง

    ถัดออกไปทางทิศตะวันออกเมื่อเดินลัดเลาะผ่านหมู่บ้านและเข้าไปในป่าลึกประมาณ 100 เมตร
    พบฐานพระปรางค์ขนาดใหญ่ อยู่บนเนินดินที่มีวัชพืชขึ้นปกคลุมทั้งองค์ รัศมีโดยรอบกว่า 80  เมตร สูงประมาณ 6 เมตร
    เมื่อปีนขึ้นไปสำรวจบนฐานพระปรางค์พบว่าเป็นโพรงลึกลงใต้ดิน
    พบชิ้นส่วนของพระพุทธรูปเนื้อทราย จำนวนหลายชิ้น ภายในโพรงยังพบว่ามีการขุดเจาะจำนวนหลายแห่ง



(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167122/2.jpg)

(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/photos/167122/3.jpg)


    นายศักดา เปิดเผยว่า มีอาชีพค้าขายอยู่ภายในหมู่บ้านได้กลุ่มอนุรักษ์เข้ามาสอบถามบ่อยครั้งถึงเรื่องราวของวัดต่างๆ ซึ่งตนไม่ทราบประวัติความเป็นมาเพียงแต่รู้ว่าจุดต่างๆเป็นวัด มีบางคนที่มาให้ตนพาไปบอกว่าอยากเข้ามาศึกษา ซึ่งไม่รู้ว่าเข้ามีจุดประสงค์เช่นไร ได้เคยพุดคุยกับ คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ปู่ยาตายายต่างมีความเห็นกันว่าอยากให้ทางกรมศิลปากร ได้เข้ามาบูรณะเปิดพื้นที่ให้โล่ง แล้วจะทำให้มองเห็นสภาพของเจดีย์และแนววัด

     เชื่อว่าโบราณสถานที่ถูกต้นหญ้าปกคลุมจะสวยงามมาก หากบูรณเสร็จจะเป็นจุดท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับชุมชนใน ต.สำเภาล่มเป็นอย่างมาก ชาวบ้านที่อยู่ในบริเวณนี้  พื้นที่พักอาศัย เป็นของกรมศิลปากรและสำนักงานพระพุทธศาสนา โดยมีสัญญาเช่ากันเกือบทุกบ้าน 
    ชาวบ้านส่วนใหญ่จะนับถือศาสนาอิสลาม จะไม่เข้ามาขุดเจาะเพื่อหาของมีค่าในโบราณสถาน
    เป็นเพราะถูกทิ้งร้างเป็นป่าทึบ ทำให้มองไม่เห็นได้ง่าย จึงเป็นที่ลับตาทำให้คนมาแอบขุดเจาะหาของมีค่าได้



http://www.youtube.com/watch?v=OTi3L_xu7lQ# (http://www.youtube.com/watch?v=OTi3L_xu7lQ#)
เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ย. 2012 โดย สุทธิพร กองสุทธิผล


    นายภัทรพงษ์  เก่าเงิน  นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักงานอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา  เปิดเผยว่ากลุ่มวัดต่างๆที่อยู่ใกล้กับวัดโคกขมิ้น  ในต.สำเภาล่ม  มีมากกว่า10 วัด  เช่นวัดแก้วฟ้า วัดตะเว็ด วัดบันไดนาค วัดโคกสูง วัดน้อยหน่า  เป็นต้น 
    การที่มีวัดอยู่ในกลุ่มเดียวติดกันหลายวัดแสดงให้เห็นว่า
    บริเวณแห่งนี้เป็นชุมชนขนาดใหญ่ จริงๆแล้วในกลุ่มนี้ยังมีโบสถ์คริสต์ และมัสยิด รวมอยู่ด้วย 
    บ่งบอกถึงว่าในสมัยก่อนทุกชาติศาสนา สามารถรวมกันอยู่ได้

    นอกจากนี้ยังมีชุมชนซึ่งเป็นชาวต่างประเทศ เช่นชุมชนหมู่บ้านโปรตุเกส  พื้นที่ที่มีวัดร้างตั้งอยู่ เป็นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมศิลปากร เพียงเข้าไปดูโบราณสถานที่อยู่ในวัด 
    ซึ่งทางกรมศิลปากรจะเข้าไปสำรวจแล้วคงจะต้องขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานเพื่อจัดสรรงบประมาณในการเข้าไปดูแล คงต้องใช้เวลาพอสมควร บางวัดสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนกลาง เรื่อยมาจนถึงสมัยกรุงศรีอยุธยา ตอนปลาย.



ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/167122 (http://www.dailynews.co.th/thailand/167122)


หัวข้อ: Re: 'กรุงเก่า' พบหลายวัด 'ทรงคุณค่า'...ถูกทิ้งร้างเสียหาย
เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ พฤศจิกายน 17, 2012, 10:10:54 am
พออ่านเรื่องนี้ แล้ว ทำให้ผมสะดุดใจ นึกถึง วัดท่าข่อย ( วัดท่าหอย ) ซึ่งเป็นวัดที่ เจ้าพระคุณสมเด็จหลวงปู่สุก เป็นเจ้าอาวาส ในสมัยนั้น น่าจะมีประวัติ หรือ การตามรอย เรื่องนี้กันบ้างนะครับ เมื่อไร ทีมงานลงสำรวจ ก็นำภาพมาให้ชมกันบ้างนะครับ

   ขอบคุณเนื้อหา สำหรับ เช้าวันเสาร์นี้มากครับ

    :c017: :25: