หัวข้อ: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวันที่พระสารีบุตรปรินิพพาน เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ พฤศจิกายน 22, 2012, 09:53:46 am ไม่เพียงแต่เป็นวันลอยกระทง ! แต่ยังเป็นวันอะไร ใครรู้มั่ง ?
ในวันนี้ เป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่ง ศิยษ์กรรมฐาน ควรรู้ ใครรู้ก็ช่วยกันอธิบายกันไปก่อน นะจ๊ะ ! หรือจะลองค้นหาคำตอบกัน ใบ้ให้นิดนึง เป็นพระอาจารย์ ของพระอาจารย์ ของพระ ... ... ...! [/color][/size]หัวข้อ: Re: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! เริ่มหัวข้อโดย: เสริมสุข ที่ พฤศจิกายน 22, 2012, 10:28:08 am :smiley_confused1: :smiley_confused1: :smiley_confused1:
หัวข้อ: Re: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! เริ่มหัวข้อโดย: sunee ที่ พฤศจิกายน 22, 2012, 12:25:51 pm อะไร คือ อะไร ไม่เข้าใจ ท่าน ธรรมะปุจฉา คะ ว่าเกี่ยวข้องอย่างไรกับกรรมฐานคะ
:smiley_confused1: :49: หัวข้อ: Re: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! เริ่มหัวข้อโดย: pinmanee ที่ พฤศจิกายน 22, 2012, 12:52:39 pm (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/425/2425/images/Prakhao1.jpg)
ปริศนาธรรม สำคัญ กับเรื่องราว ที่รอการเฉลยจากท่าน ธรรมะปุจฉา :58: หัวข้อ: Re: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤศจิกายน 23, 2012, 12:23:59 pm ถ้าเฉลยแล้ว....ต้องทําให้ใครเดือดร้อนหรือเปล่า......หรือต้องไปพาดพิงถึงใครหรือเปล่า..........ออกแนวฤทธิ์หรือเปล่า........
ถ้าไม่ได้ไปพาดพิงถึงใคร ....หรือให้ใครต้องเดือดร้อน ก็ควรเฉลย หัวข้อ: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! (คำใบ้้้) เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ พฤศจิกายน 23, 2012, 12:25:53 pm คำใบ้เพิ่ม " เยธัมมา " (ในสมัยโบราณ ถือเป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา)
(http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/knowledge/picture/0061-1.gif) เครดิตรูปภาพ : http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=61 (http://www.pharmacy.mahidol.ac.th/thai/knowledgeinfo.php?id=61) จุดประสงค์ของการถามคำถามนี้ ๑. เพื่อให้เกิดการศึกษาค้นคว้า ๒. เพื่อศึกษาปฏิปทาแนวทางในการปฏิบัติ ๓. เพื่อตระหนักถึงความสำคัญของวันนี้ ๔. เพื่อให้สมดังคำที่เรากล่าวว่า "สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ" ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์ ว่าเป็นที่พึ่งที่ระลึก หัวข้อ: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวันที่พระสารีบุตรปรินิพพาน เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ พฤศจิกายน 25, 2012, 04:24:48 pm เฉลยเลย แล้วกัน
เฉลย : เป็นวันที่พระสารีบุตรนิพพาน ถาม : เกี่ยวกับกรรมฐานมัชฌิมาอย่างไร ? ตอบ : พระสารีบุตร เป็นพระอาจารย์ของพระราหุล ซึ่งเป็นต้นของกรรมฐานมัชฌิมาแบบลำดับ โดยได้เป็นพระอุปัชฌาย์ บรรพชาพระราหุล ตามพระดำรัสสั่งของพระพุทธองค์ ถาม : มีปฏิปทาอะไรที่สามารถนำมาเป็นแบบอย่างในการปฏิบัติ ? ตอบ : คุณสมบัติของนักการทูต คือเป็นผู้ประกอบด้วยองค์คุณ ๘ ประการ ได้แก่ ๑. รู้จักรับฟัง ๒. รู้จักกระทำให้ผู้อื่นรับฟัง ๓. เล่าเรียนดี ๔. ทรงจำได้ดี ๕. เป็นผู้รู้ดี ๖. กระทำให้ผู้อื่นรู้ ๗. ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ และไม่เป็นประโยชน์ ๘. ไม่ก่อการทะเลาะวิวาท (มีปฏิภาณดี) เรื่องความอดทน จะขอยกมาหนึ่งตัวอย่าง เพื่อให้เป็นแบบปฏิบัติแก่ผู้ที่เป็นบุตรทั้งหลาย คือ ความดีของพระสารีบุตร น่าอัศจรรย์แท้ เมื่อโยมมารดาของท่าน ด่าว่าท่าน ท่านก็ไม่มีความโกรธเลยแม้แต่น้อยนิด เรื่องความเป็นผู้มีความกตัญญูกตเวที นับตั้งแต่ท่านได้ฟังธรรมจากพระอัสสชิ ได้ธรรมจักษุ และได้บวชพระแล้ว พอรู้ข่าวว่าพระอัสสชิเถราจารย์อยู่ในทิศใด ก่อนนอนท่านจะไหว้ไปทางทิศนั้น และนอนหันศีรษะไปทางทิศนั้น คุณความดีนี้แม้พระราหุลผู้เป็นศิษย์ก็ได้ปฏิบัติสืบทอด เช่นเดียวกัน คือ เมื่อทราบว่า พระสารีบุตร องค์อุปัชฌาย์อยู่ทางทิศไหน ท่านจะบรรทม หันพระเศียรไปทางทิศนั้นเสมอ ๆ ก่อนที่พระสารีบุตรจะนิพพาน ได้เกิดสลดใจ ด้วยนึกถึงโยมแม่ว่า " โยมแม่ของเรา ได้เป็นแม่ของพระอรหันต์ถึง ๗ องค์ แต่ว่าโยมแม่ยังไม่ได้เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ยังเป็นมิจฉาทิฏฐิ " คือความเห็นผิด เพราะฉะนั้น เราจะไปช่วยเปลื้องโยมแม่ให้ออกจากมิจฉาทิฏฐิ แล้วเราจะปรินิพพานในห้องที่เราเกิด จึงได้เข้าไปเฝ้าองค์พระศาสดาเพื่อทูลลานิพพาน ในช่วงหนึ่งได้กล่าว กับพระพุทธองค์ว่า " ถ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ทรงพอพระทัยสิ่งใดสิ่งหนึ่ง อันมีในกาย วาจาของข้าพระองค์ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระกรุณาอดโทษแก่ข้าพระองค์ด้วยเถิด " พระสารีบุตรเดินทางมาจนถึงที่บ้าน ฝ่ายนางสารีพราหมณีมารดาของพระสารีบุตร ก็คิดขึ้นด้วยความฉงนสนเท่ว่า " บัดนี้ลูกชายของเราคงเบื่อการบวช และคงประสงค์จะสึกกระมัง " ในขณะที่พระสารีบุตรนอนพัก เพราะการอาพาธอยู่ในห้องนั้น ได้มีเหล่า เทวดา พรหม ได้เวียนกันมาเพื่อจะพยาบาล นางสารีพราหมณีอยู่ด้านนอกแอบเห็น พอได้โอกาส จึงเข้าไปหา และถาม " อุปติสสะ ดูก่อนพ่อ พวกที่เข้ามาหาลูกนั้นเป็นใครเล่า " เมื่อได้ทราบว่าเป็น บรรดาเหล่าเทพ พรหม มากัน ก็ตกใจ " ลูกเป็นใหญ่กว่าเทพ พรหม เหล่านั้นหรือ " นางพราหมณีถามด้วยความแปลกใจที่คาดการณ์ไม่ถึง ลำดับนั้น ปีติความอิ่มเอิบใจ บังเกิดแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของนางพราหมณี และคิดเทียบเคียงว่า "ลูกของเรา ยังมีอนุภาพถึงเพียงนี้ แต่พระบรมครูของลูกชายของเราจักมีอนุภาพสักเพียงไหน" พระสารีบุตรจึงเริ่มแสดงธรรม นางสารีได้ฟังธรรมจบแล้ว ได้สำเร็จเป็นพระโสดาบัน พระสารีบุตรคิดว่า "บัดนี้เราได้ตอบแทนค่าข้าวป้อน และค่าน้ำนมของโยมแม่ได้สมมโนรถแล้ว" เมื่อแสงอรุโณทัยปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า ท่านพระสารีบุตรก็ดับขันปรินิพพานพอดี ซึ่งวันนั้นตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ และในขณะนั้น พื้นแผ่นดินอันใหญ่นี้ ก็เกิดอาการไหวบันลือลั่น ประดุจว่าจะทรุดทำลายไป ฝ่ายนางสารีอุบาสิกา ผู้เป็นโยมแม่ของพระสารีบุตร ได้ลุกขึ้นด้วยคิดว่า "ลูกเราไม่กล่าวสิ่งใดอีกหรือ แล้วไปคลำดูที่หลังเท้าของพระเถระ ก็ทราบว่าปรินิพพานแล้ว จึงเปล่งเสียงร้องไห้ดังลั่นออกมา ผด้วยความเป็นแม่ ที่รักลูก) และได้หมอบลงในสถานที่ใกล้เท้าของพระเถระ ร้องไห้รำพันอยู่จนกระทั่งเวลาสว่าง โดยกล่าวถึงพระสารีบุตรเถระว่า "ลูกเอ๋ย เมื่อก่อนแม่ไม่รู้จักความดีของลูก พอมาบัดนี้ แม่ไม่มีโอกาสที่จะนิมนต์ให้พระภิกษุหลายร้อยหลายพันหลายแสนองค์ ซึ่งมีลูกเป็นต้น มานั่งฉันอาหารที่บ้านนี้เสียแล้ว แม่ไม่มีโอกาสที่จะให้ลูกได้นุ่งห่มสบงจีวรได้อีกแล้ว แม่ไม่มีโอกาสที่จะสร้างวิหารตั้งร้อยตั้งพันหลังเสียแล้ว" พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสกับพระอานนท์ ดูก่อนอานนท์ ต้นไม้ใหญ่ ๆ ที่มีแก่นแข็งแรง ก็ต้องแตกหักผุพังไปฉันใด สารีบุตรซึ่งเป็นเหมือนกับต้นไม้ใหญ่ โดยเป็นที่พึ่งพาของพระภิกษุสงฆ์เป็นจำนวนมาก ก็ต้องปรินิพพานไป ฉันนั้น หัวข้อ: Re: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ พฤศจิกายน 25, 2012, 04:38:51 pm ขออนุโมทนาสาธุ
หัวข้อ: Re: ไม่เพียงแต่เป็น "วันลอยกระทง" แต่ยังเป็นวัน ... ! เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ พฤศจิกายน 25, 2012, 05:27:19 pm เมื่อแสงอรุโณทัยปรากฏขึ้นที่ขอบฟ้า ท่านพระสารีบุตรก็ดับขันปรินิพพานพอดี ซึ่งวันนั้นตรงกับวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ และในขณะนั้น พื้นแผ่นดินอันใหญ่นี้ ก็เกิดอาการไหวบันลือลั่น ประดุจว่าจะทรุดทำลายไป (http://t2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSKfe4UAP8VaqgtD-kKPq-qltHViYZBRmk0f10kqi2eyWcU0ZVxq33HGmtJqA) เอกบรมมัชฌิมาจารย์ กิ่งก้านไม้เขื่องต้น บังเงา ล้มโค่นเป็นถ่านเผา ซากไหม้ พุทธดำรัสยื้อเอา สารีบุตร นี้นา ปรินิพพานไซร้ ลั่นฟ้าอาดูร. ธรรมธวัช.! http://www.dhammakaya.org/forum/index.php?topic=301.0 |