หัวข้อ: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: translate ที่ กันยายน 01, 2010, 10:23:48 pm จากข้อความใน มหาราหุโลวาทสูตร ที่ผมฟังบ่อย ๆ ในตอนเช้า
มีข้อความว่า " เธอจงเจริญ อนิจจสัญญา เมื่อนั้น เธอจักละ อัสมิมานะ ได้ " คำถาม ก็คือว่า ผมไม่เข้าใจคำว่า อัสมิมานะ ครับ ผมเข้าใจ เพียงว่า อาจจะเป็นความหยิ่ง ยะโส หรือป่าวครับ ที่นี้ ถ้าอธิบายความหมายแล้ว ถ้าผมเข้าใจแบบที่ผมเข้าใจนั้น อนิจจสัญญา จะละ อัสสมิมานะได้อย่างไรครับ ความเข้าใจของผม อนิจจสัญญา คือ ความจำว่านี้ไม่เที่ยง ไม่เที่ยง รบกวนเวลาอันมีค่าของเพื่อน สมาชิก สนับสนุนความเข้าใจผมด้วยครับ อนุโมทนา ขอบคุณ สาธุ ล่วงหน้าครับ :c017: หัวข้อ: Re: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 01, 2010, 10:58:15 pm ธรรมนี้ ต้องให้เครดิตกับ อาจารย์สายทอง
http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=227.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=227.0) สาระเบื้องต้น ในมหาราหุโรวาทสูตร http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=708.0 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=708.0) ลองไปอ่านลิงค์ข้างบนก่อนนะครับ "มานะ" อยู่ในสังโยชน์ ๕ ข้อสุดท้าย พระอรหันตผลเท่านั้น ที่จะละได้ ขอให้ได้โสดาบันปัตติผล ก่อนนะครับ ค่อยคิดเรื่องละ "มานะ" ผมบอกได้แค่ตื้นๆเท่านี้แหละครับ หากพูดตรงไป ต้องขอโทษด้วย ขอให้ธรรมคุ้มครอง :25: หัวข้อ: Re: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กันยายน 02, 2010, 06:42:53 am อัสสมิมานะ คือ ความสำัคัญว่ามีอัตตาตัวตน คะ
๙๐๐] ความสำคัญว่ามีอัตตาตัวตน เป็นไฉน ความสำคัญในรูป ว่าเป็นตัวเรา ความพอใจในรูปว่าเป็นตัวเรา ความเข้าใจในรูปว่าเป็นตัวเรา ความสำคัญในเวทนาว่าตัวเรา ฯลฯ ความสำคัญในสัญญาว่าเป็นตัวเรา ฯลฯ ความสำคัญในสังขารว่าเป็นตัวเรา ฯลฯ ความสำคัญในวิญญาณว่าเป็นตัวเรา ความพอใจในวิญญาณว่าเป็นตัวเรา ความเข้าใจในวิญญาณว่าเป็นตัวเรา ความถือตัว กิริยาที่ถือตัว สภาพที่ถือตัว การยกตน การเทิดตน การเชิดชูตนดุจธง ความยกตนขึ้น ความที่จิตต้องการเป็นดุจธง อันใด มีลักษณะเช่นว่านี้ นี้เรียกว่า ความสำคัญว่า มีอัตตา ตัวตน :25: :25: หัวข้อ: Re: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: รักหนอ ที่ กันยายน 02, 2010, 06:47:20 am ธรรมเป็นเครื่องถอนอัสมิมานะในปัจจุบัน
ภิกษุ ท.! นี้เป็นสิ่งที่หวังได้ สำหรับภิกษุผู้มีมิตรดี (กลฺยาณมิตฺต) มีสหายดี (กลฺยาณสหาย) มีพวกพ้องดี (กลฺยาณสมฺปวงฺก) คือ จักเป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมารยาทและโคจร มีปกติเห็น เป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาในสิกขาบททั้งหลาย อยู่ ; ภิ กษุ ท .! นี้ เป็ น สิ่ งที่ ห วังได้ สํ าห รับ ภิ กษุ ผู้ มี มิ ต รดี มี ส ห ายดี มี พวกพ้องดี; กล่าวคือ กถาเป็นเครื่องขูดเกลาอย่างยิ่ง เป็นธรรมเครื่องสบาย แก่การเปิดโล่งแห่งจิต ได้แก่อัป ปิจฉกถา (เรื่องป รารถนาน้อย) สันตุฏ ฐิกถา (เรื่องสันโดษ) ปวิเวกกถา (เรื่องความสงัด) อสังสัคคกถา (เรื่องไม่คลุกคลี) วิริยา- รัมภกถา (เรื่องมีความเพียร) สีลกถา (เรื่องศีล) สมาธิกถา (เรื่องสมาธิ) ปัญ ญ า- กถา (เรื่องปัญญา) วิมุตติกถา (เรื่องวิมุตติ) วิมุตติญาณทัสสนกถา (เรื่องวิมุตติญาณ- ทัสสนะ), เธอ จักเป็นผู้ได้โดยง่าย ได้โดยไม่ยาก ไม่ลำบาก ซึ่งกถาเช่นนี้ ; ภิ กษุ ท .! นี้ เป็ น สิ่ งที่ ห วังได้ สํ าห รับ ภิ กษุ ผู้ มี มิ ต รดี มี ส ห ายดี มี พวกพ้องดี ; กล่าวคือ จักเป็นผู้มีความเพียรอันปรารภแล้ว เพื่อการละซึ่งอกุศล- ธรรมทั้งหลาย เพื่อการถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย มีกำ ลัง (จิต) มีความ บากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรมทั้งหลาย ภิ กษุ ท .! นี้ เป็ น สิ่ งที่ ห วังได้ สํ าห รับ ภิ กษุ ผู้ มี มิ ต รดี มี ส ห ายดี มี พวกพ้องดี ; กล่าวคือ จักเป็นผู้มีปัญ ญ า ประกอบด้วยปัญ ญ าเครื่องให้รู้ซึ่ง ความเกิดและความดับ (อุทยตฺถคามินี) อันเป็นปัญญาที่เป็นอริยะ เป็นเครื่อง เจาะแทงกิเลส ให้ถึงซึ่งสิ้นทุกข์โดยชอบ. ภิกษุ ท.! ภิกษุ ผู้ตั้งอยู่ในธรรมห้าประการ เหล่านี้แล้ว พึ ง เจริญธรรม ๔ ประการให้ยิ่งขึ้นไป คือ :- เจริญ อสุภะ เพื่อ ละ ราคะ ; เจริญ เมตตา เพื่อ ละ พยาบาท ; เจริญ อานาปานสติ เพื่อ ตัดเสียซึ่งวิตก ; เจริญ อนิจจสัญญา เพื่อ ถอน อัสมิมานะ. ภิกษุ ท.! เมื่อภิกษุมีอนิจจสัญญา, อนัตตสัญญา ย่อมตั้งมั่น ; ผู้มีอนัตตสัญญา ย่อมถึงการถอนเสียได้ซึ่งอัสมิมานะ คือ นิพพาน ในทิฏฐธรรม เทียว. - นวก. อํ. ๒๓/๓๖๕/๒๐๕ (http://www.kapook.com/msn/upload/backgrounds/htmlfiles/kapook-16451-3197.jpg) หัวข้อ: Re: อัสมิมานะ คือ อะไร ครับ มีความหมายอย่างไร เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ กันยายน 02, 2010, 01:04:58 pm พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๒ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๔
อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต อีกประการหนึ่ง ภิกษุในธรรมวินัยนี้ พึงกล่าวอย่างนี้ว่า อัสมิมานะ ของ ข้าพเจ้าหมดไปแล้ว และข้าพเจ้าย่อมไม่ตามเห็นว่านี้เป็นเรา ก็แต่ว่าลูกศรคือ ความสงสัยเคลือบแคลงยังครอบงำจิตของข้าพเจ้าอยู่ เธออันภิกษุทั้งหลายพึงว่ากล่าวตักเตือนว่า ท่านผู้มีอายุอย่าได้กล่าวอย่างนี้ อย่าได้กล่าวตู่พระผู้มีพระภาคเพราะการกล่าวตู่พระผู้มีพระภาคไม่ดี เพราะพระผู้มีพระภาคไม่พึงตรัสอย่างนี้ ดูกรอาวุโส ข้อนั้นมิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือ เมื่อ อัสมิมานะ ของภิกษุหมดไปแล้ว และเมื่อภิกษุไม่ตามเห็นอยู่ว่า นี้เป็นเรา ก็แต่ว่า ลูกศรคือความสงสัยเคลือบแคลง จักครอบงำจิตของเธออยู่ เพราะฉะนั้น ข้อนั้นจึงไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ เพราะ อรหัตมัคที่ถอนอัสมิมานะได้แล้วนี้ เป็นเครื่องสลัดออกซึ่งลูกศรคือความสงสัย เคลือบแคลง ดูกรภิกษุทั้งหลาย ธาตุเป็นเครื่องสลัดออก ๖ ประการนี้แล ฯ ที่มา http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=6886&Z=6940&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=22&A=6886&Z=6940&pagebreak=0) ยกมาแสดง เพื่อยืนยันว่า อรหันต์เท่านั้น ที่ละอัสมิมานะได้ :25: |