สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

เรื่องทั่วไป => ส่งจิตออกนอก (นั่งเล่นคุยกัน) => ข้อความที่เริ่มโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 20, 2012, 09:42:29 am



หัวข้อ: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ ธันวาคม 20, 2012, 09:42:29 am
(http://www.dailynews.co.th/sites/default/files/imagecache/620x245/cover/15853.jpg)


ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)

วันนี้ตรงกับวันพุธที่ 7 มีนาคม 2555 อันเป็นวันมาฆบูชาในปีที่ 2600 ที่พระบรมศาสดาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้ นับเป็นวันสำคัญยิ่งอีกวาระหนึ่ง ผมจึงขอหยุดนำเสนอเรื่องพระคุณ ธ รักษาไว้สัก 2 ตอน เพื่อมานำเสนอเรื่องตามรอยพระอริยสงฆ์ในตอนนี้ และตอนหน้า

ผมโชคดีที่มีโอกาสได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อวิริยังค์ สิรินฺธโร หรือพระธรรมมงคลญาณ พระอาจารย์ใหญ่สายวิปัสสนาในปัจจุบัน

ที่ว่าโชคดีก็เพราะได้มีโอกาสศึกษาประวัติชีวิตของท่าน และได้คติดี ๆ หลายประการมาใช้ในชีวิตของเราต่อไปประการหนึ่ง ทั้งยังได้ศึกษาและปฏิบัติตามคำสอนของท่านโดยเฉพาะในหลักสูตรครูสมาธิอีกประการหนึ่ง

พระอาจารย์หลวงพ่อมีประวัติที่น่าสนใจหลายประการ ใครสนใจควรไปหาหนังสือ “อัตชีวประวัติพระเทพเจติยาจารย์ (วิริยังค์ สิรินฺธโร)” ซึ่งพิมพ์มาแล้ว 4 ครั้ง มาอ่านก็จะได้ทั้งธรรมะและความบันเทิงควบคู่ไป เพราะพระอาจารย์หลวงพ่อเขียนเล่าประวัติชีวิตของท่านอย่างสนุกสนาน อ่านเพลินจนวางไม่ลง

พระอาจารย์เกิดเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2463 ปัจจุบันท่านมีอายุ 92 ปี และบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อ 22 พฤษภาคม 2478 ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุเมื่อ 20 พฤษภาคม 2484 ถ้านับพรรษาก็ได้ 71 พรรษา แต่ถ้านับแต่บวชเณรก็ได้ 77 พรรษา

หลวงพ่อวิริยังค์เป็นศิษย์ของท่านพระอาจารย์กงมา จิรปุญโญ และต่อมาได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระอริยสงฆ์อาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนาธุระของภาคอีสาน ได้รับเมตตาและความไว้วางใจจากพระอาจารย์มั่นให้เป็นพระอุปัฏฐากของพระอาจารย์มั่นเมื่ออายุ 22 ปี ในปี 2484 จนกระทั่งพระอาจารย์มั่นมรณภาพ เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2492

พระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์จึงนับเป็นศิษย์เอกของพระอาจารย์หลวงปู่มั่นเหมือน ๆ กับพระอริยสงฆ์อื่น ๆ อีกหลายรูป อาทิ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) พระอาจารย์หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี (พระราชนิโรธรังสี) หลวงปู่ชา สุภัทโท (พระโพธิญาณเถระ) หลวงปู่แหวน สุจิณโณ ฯลฯ

 
(http://www.dhammada.net/wp-content/uploads/2011/05/ATT00001.jpg)

สำหรับผม การศึกษาประวัติของพระอาจารย์หลวงพ่อวิริยังค์ ทำให้ผมได้คติหลายอย่างที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ โดยเฉพาะวัตรปฏิบัติซึ่งแสดงธรรมะที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อยึดถือมาตลอดชีวิต
 
ธรรมะข้อแรกที่ผมได้จากการศึกษาประวัติท่านคือ “สัจจะ” ซึ่งท่านตั้งจิตอธิษฐานเมื่อครั้งเป็นเด็กและเป็นอัมพาตว่า ถ้าใครมารักษาให้หาย ท่านก็ จะอุทิศชีวิตนี้ให้พระพุทธศาสนา เมื่อชีผ้าขาวรักษาท่านหาย ท่านก็รักษาสัจจะมาจนทุกวันนี้

“วิริยะ” หรือความเพียรเหมือนชื่อของท่านก็เป็นธรรมะอีกข้อที่ผมได้จากอัตชีวประวัติท่าน ผมไม่เคยนึกว่าคนเราจะสามารถ ไม่นอนได้ถึง 3 ปี แต่พระอาจารย์หลวงพ่อก็ตั้งสัจจะอธิษฐานเอาชีวิตเข้าแลก เหมือนที่พระพุทธองค์ทรงตั้งสัตยาธิษฐานก่อนตรัสรู้ ที่ท่านทำได้ก็เพราะ “ศรัทธา” ที่มีต่อพระพุทธองค์ และพระศาสนานั้นเอง

“เมตตา” เป็นธรรมะอีกข้อหนึ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อปฏิบัติมานาน ใครได้เคยเข้าใกล้ท่านก็จะรู้สึกได้ถึง “พลังความเย็นใจ เย็นกาย” ที่ได้ใกล้ชิดท่าน และด้วยเมตตานี่เองที่ทำให้ท่านทำงานหนักเพื่อช่วยชาวโลกทั้งหลายตามพระพุทโธบาย เมื่อ 2600 ปีที่แล้ว

    “จรถ ภิกฺขเว จาริกัง พหุชนะ หิตายะ พหุชนะ สุขายะ โลกานุกัมปายะ”
    คือ พระอาจารย์ทำงานเพื่อประโยชน์และความสุขของคนทั้งปวงนั้นเอง

“จักขุมา” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า “vision” ซึ่งแปลว่า วิสัยทัศน์ ที่พระอาจารย์หลวงพ่อเห็นว่าการเผยแผ่ธรรมะโดยเฉพาะสมาธิตามหลักพระพุทธศาสนานั้นทำแต่ในประเทศไม่พอ ต้องเผยแผ่ไปให้ชาวต่างประเทศปฏิบัติด้วย เป็นเหตุให้พระอาจารย์หลวงพ่อลงมือศึกษาภาษาอังกฤษเมื่ออายุ 79 ปี และไปเปิดสอนสมาธิที่แคนาดาจนบัดนี้มีสาขาถึงเกือบ 10 แห่ง มีลูกศิษย์นับเป็นหลายพันคน


(http://www.dhammada.net/wp-content/uploads/2011/05/ATT00002.jpg)
   
   สมคำพยากรณ์ของพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโตที่ว่า
“ถ้าวิริยังค์เข้าไปอยู่ในกรุงเทพฯ แล้วก็เหมือนกับไก่ป่าเป็นไก่บ้าน ขันจ้านทั่วเมือง คำเฮืองทั่วจักรวาลทั้ง 4”
   คือโด่งดังไปทั้งประเทศ และทั่วโลก!
   พระอาจารย์หลวงพ่อทำให้ผมรู้ว่าการศึกษาไม่จำกัดอายุ ถ้าท่านเรียนภาษาอังกฤษเมื่ออายุ 79 ปีได้
   แล้วเรา-ท่านอายุน้อยกว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อมากมายทำไมจะทำตามท่านไม่ได้!

ความจริง ธรรมะที่ได้จากการศึกษาประวัติของท่านยังมีอีกมากและ ใครเรียนหลักสูตรครูสมาธิกับสถาบันพลังจิตตานุภาพ ก็จะได้ฟังพระอาจารย์หลวงพ่อเล่าด้วยตัวท่านเอง ผมได้เรียนหลักสูตรนี้เมื่อปีที่แล้ว และตั้งตารอคอยวันนี้ คือวันที่นักศึกษากว่า 2,500 คน ที่ศึกษาหลักสูตรครูสมาธิและหลักสูตรวิทันตสาสมาธิสำหรับผู้บริหาร รุ่น 1 ของสถาบันพระปกเกล้า จะได้ธุดงค์ตามพระอาจารย์หลวงพ่อขึ้นดอยอินทนนท์ ตั้งแต่วันที่ 8-11 มีนาคม 2555

คราวหน้า ผมจะมาเล่าประสบการณ์ธุดงค์ขึ้นดอยอินทนนท์ตามพระอาจารย์หลวงพ่อให้ฟัง แต่วันนี้ขอประชาสัมพันธ์ว่า หลักสูตรวิทันตสาสมาธิสำหรับผู้บริหาร รุ่น 2 ของพระอาจารย์หลวงพ่อกำลังเปิดรับสมัครที่สถาบันพระปกเกล้า จนถึงวันที่ 16 มีนาคม 2555 และเปิดเรียนวันที่ 26 มีนาคม 2555 ใครอยากตามรอยพระอริยสงฆ์ธุดงค์ขึ้นดอยอินทนนท์ปีหน้า ต้องรีบสมัครเพราะรับจำนวนจำกัดครับ!.



ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.dailynews.co.th/article/351/15853 (http://www.dailynews.co.th/article/351/15853)
http://www.dhammada.net/ (http://www.dhammada.net/)


หัวข้อ: Re: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: kindman ที่ ธันวาคม 20, 2012, 02:43:19 pm
อนุโมทนาครับ เพราะ หลวงปู่วิริรยังค์ ท่านเป็นพระที่นำ กรรมฐาน ในแนวทางหลวงปู่มั่นออกมาถ่ายทอดแก่ศิษย์ ที่เข้ามาอบรม และเรียนกันที่วัดธรรมมงคล ซึ่ง มีหลักสูตรในการฝึก อย่างจริงจังเป็น ระบบ ผู้อบรมเมื่ออบรมแล้ว ก็ต้องมาทำหน้าที่ เป็นครูผู้ช่วย ให้กับรุ่นต่อไปด้วย ซึ่งการฝึกสมาธิ ในแนวทางนี้นับว่า เป็นที่ชื่นชอบกับหลายท่าน ที่เป็นเพื่อนผมหลายคน ถ้าหากชักชวนไปวัดธรรมมงคล กับ วัดราชสิทธาราม เพื่อน ๆ ผมเลือกไปวัด ธรรมมงคล กันครับ 

   :c017: :25: :25:


หัวข้อ: Re: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ธันวาคม 20, 2012, 08:24:20 pm
ขออนุโมทนาสาธุ


หัวข้อ: Re: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: kobyamkala ที่ ธันวาคม 20, 2012, 09:01:15 pm
สรุปเบื้องต้น วัดธรรมมงคล สอนกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลำดับใช่หรือไม่คะ

  :smiley_confused1: :c017:


หัวข้อ: Re: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ ธันวาคม 20, 2012, 10:15:07 pm
วัดธรรมมงคล ไม่ได้สอน กรรมฐานนี้


หัวข้อ: Re: ตามรอยพระอริยสงฆ์ (1)
เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ ธันวาคม 21, 2012, 12:55:23 am
แสดงว่ามีตอนที่ 2 ให้ติดตามอีกนะครับ

 สาธุ สาธุ สาธุ

    :s_good: