สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน

กรรมฐาน มัชฌิมา => ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน => ข้อความที่เริ่มโดย: ธัมมะวังโส ที่ มกราคม 10, 2013, 06:49:41 pm



หัวข้อ: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: ธัมมะวังโส ที่ มกราคม 10, 2013, 06:49:41 pm
 ask1   จากเมล
ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรมครับ



หัวข้อ: Re: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มกราคม 10, 2013, 11:31:26 pm
การเข้าสู่สุขสงบ ตามลําดับพระกรรมฐาน ก็เป็นไป ตามขั้นตอนตามลําดับ
       แต่สิ่งที่เป็นสุข ที่ประกอบด้วยธรรม ที่ครูอาจารย์ว่าไว้ ก็คือ การ เข้าถึงธาตุ เข้าถึงธรรม
           เข้าถึง รู้ทัน และปล่อยวาง ตามสภาวะที่ได้รู้เห็นวัฏจักร ตามสติปัฏฐานสี่ มี กาย เวทนา จิต ธรรม
               เห็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา รู้พระไตรลักษณ์
                 เห็น อริสัจย์ 4

          เหตุดี ผลดี ทุกอย่าง มีวิธี มีอุบาย แห่งความสําเร็จ

           นี้คือ กรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ กรรมฐานของพระพุทธเจ้า


หัวข้อ: Re: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: komol ที่ มกราคม 12, 2013, 12:18:42 am
ดูเหมือนคำถามจะง่าย ๆ แต่ ก็ใช่ว่าจะตอบให้เข้าใจ กันได้ง่าย นะครับ


หัวข้อ: Re: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: chatchay ที่ มกราคม 12, 2013, 12:23:33 am
ก็คง ต้องถึงคำว่า "สุขหนอ สุขหนอ " อย่างนี้กระมังครับ ถึงจะเรียกว่า สุข

( มาอวดโง่ ครับ )

 :13:


หัวข้อ: Re: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ มกราคม 13, 2013, 12:19:43 pm
ปัญหา ผมว่า มันอยู่ตรงที่คำว่า สุขหนอ นั่นแหละครับ มันสุขอย่างไร มีการอธิบาย สุขนี้อย่างไร

  :13:


หัวข้อ: Re: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ มกราคม 14, 2013, 12:30:21 am
ติดตามเนื้อหาส่วนนีอยู่เช่นกันครับ

 :49:


หัวข้อ: Re: ปุจฉา อย่างไรเรียกว่า สุข ของกรรมฐาน และ เป็น สุข ที่ประกอบด้วยธรรม
เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มกราคม 14, 2013, 02:07:56 am
ก็ถ้าหากความสุขสงบนั้น ได้เกิดขึ้น (ระหว่าง)....... กายและใจ(รูปกับนาม)
     ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ก็มีความสุข

   ครูอาจารย์ก็เคยบอกแล้วเสมอ...ว่า พระพุทธองค์ ท่านเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน (ตรงระหว่าง)ออกฌานสี่ กําลังจะขึ้นฌานห้า
        พระองค์ออก และ พระองค์ก็ยังไม่ได้ขึ้น แค่คําว่า ระหว่าง ก็แปลว่าตรงกลาง

          ครูอาจารย์พูดอยู่เสมอว่า ไม่สูงไม่ตํา
         
           เพราะพระนิพพานไม่มีของคู่
         
             ตัดของคู่ได้    ของคู่ทั้งหลายในโลกไม่มี

             ของคู่ก็เช่น ดีชั่ว นี่คู่กัน
                            สุขทุกข์ นี่คู่กัน
                            ขาวดํา  นี่คู่กัน

                            ยกตัวอย่างได้เป็นล้านๆคู่เลยนะ
                              แต่ถ้าตัดของคู่นี้ได้ ทั้งล้านคู่ก็คงไม่มี

                          สิ่งที่เห็นในขันธ์ จากหนาเป็นบาง

                           ก็เหมือนสีเข้ม ที่ถูกยางลบๆจนจาง.......ไปตามธรรม
             พระตถาคต ตรัสไว้ดีแล้ว พระองค์เป็นได้แต่เพียงผู้บอกทาง
            เหมือนหงายของที่ควํา เปิดของที่ปิด

              ไม่เห็นไม่รู้ อยากเห็นต้องทํา ต้องเห็นเองให้ได้ ใครจะได้สติปัฏฐานสี่ ต้องเห็น ไม่ทําไม่เห็น พูดไปก็ไม่ใช่เพราะไม่เห็น
           
             เข้าให้ถึงกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ(กรรมฐานของพระพุทธเจ้า)

            กวาดให้หมดลานวัด

  อยากให้ทุกท่านฝึกกรรมฐานไปตามขั้นตอน..ตามลําดับ
อย่าไปอยากรู้ก่อนเดี๋ยวจะขวางธรรมตัวเอง   จงตั้งใจฝึกปฏิบัติไปตามครูบาอาจารย์  อย่าใจร้อน
 ใจร้อนไป ก็ยังไม่ได้ เพราะต้องไป....ตามลําดับ
............................................................

....และจงจําไว้ว่าไม่มีใครทําไม่ได้........ถ้าตั้งปราถนาไว้จริงกับกรรมฐานนี้

         เข้าให้ถึงกรรมฐาน มัชฌิมา แบบลําดับ

          ขอทุกท่านจงโชคดี