หัวข้อ: มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: bomp ที่ มกราคม 11, 2013, 12:36:34 pm มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ
เมื่อวานนี้โดนเพื่อน ถาม อย่างนี้ ครับ ก็ชักแม่น้ำทั้งห้า อธิบาย แต่รู้สึกว่าเหตุผลเองฟังยังไม่เข้าท่า ครับ ออกมหาสมุทรเป็นส่วนใหญ่ จึงมาเรียนถามที่ห้องนี้ครับ :smiley_confused1: thk56 หัวข้อ: Re: มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: PRAMOTE(aaaa) ที่ มกราคม 11, 2013, 09:54:44 pm ต้องรบกวนท่าน nathaponson หา พระสูตร เรื่อง เนื้อนาบุญ มาให้อ่าน
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชองค์ปัจจุบัน ท่านก็เคยเขียนและพิมพ์เผยแผ่เรื่องนี้อยู่บ้าง เท่าที่เคยเห็นมา หัวข้อ: Re: มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 17, 2013, 11:00:46 am (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/773/15773/images/228048.jpg) พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๗ สังยุตตนิกาย สคาถวรรค อิสสัตถสูตรที่ ๔ [๔๐๕] สาวัตถีนิทานฯ พระเจ้าปเสนทิโกศลประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งแล้วได้กราบทูล พระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทาน บุคคลพึงให้ในที่ไหนหนอแล ฯ พ. ดูกรมหาบพิตร จิตย่อมเลื่อมใสในที่ใด พึงให้ในที่นั้นแล ฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ และทานที่ให้แล้วในที่ไหนจึงมีผลมาก ฯ [๔๐๖] พ. ดูกรมหาบพิตร ทานพึงให้ในที่ไหนนั่นเป็นข้อหนึ่ง และทานที่ให้แล้วในที่ไหนจึงมีผลมากนั่นเป็นอีกข้อหนึ่ง ดูกรมหาบพิตร ทานที่ให้แล้วแก่ผู้มีศีลแลมีผลมาก ทานที่ให้แล้วในผู้ทุศีลหามีผลมากไม่ ดูกรมหาบพิตร และด้วยเหตุนั้น อาตมภาพจักย้อนถามมหาบพิตรในปัญหากรรมข้อนั้นบ้าง มหาบพิตรพอพระทัยอย่างใด พึงพยากรณ์อย่างนั้น ฯ (http://news.nipa.co.th/image/manager/img500/2063_552000008519902.JPEG) [๔๐๗] มหาบพิตรจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ณ ที่นี้การยุทธพึงปรากฏเฉพาะหน้าแด่พระองค์ สงครามพึงปะทะกัน ถ้าว่ากุมารที่เป็นกษัตริย์ผู้ไม่ได้ศึกษา ไม่ได้หัดมือ ไม่ได้รับความชำนาญ ไม่ได้ประลองการยิง เป็นคนขลาด เป็นคนมักสั่น เป็นคนมักสะดุ้ง เป็นคนมักวิ่งหนี พึงมาอาสาไซร้ พระองค์พึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือ และพระองค์พึงทรงต้องการบุรุษเช่นนั้นหรือฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่พึงชุบเลี้ยงบุรุษเช่นนั้น และข้าพระองค์ไม่ต้องการบุรุษเช่นนั้นเลย ฯ พ. ถ้าว่า กุมารที่เป็นพราหมณ์ ผู้ไม่ได้ศึกษา ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่ากุมารที่เป็นแพศย์ ผู้ไม่ได้ศึกษา ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่ากุมารที่เป็นศูทร ผู้ไม่ได้ศึกษา ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ พระองค์พึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือและพระองค์พึงทรงต้องการบุรุษเช่นนั้นหรือ ฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ไม่พึงชุบเลี้ยงบุรุษนั้น และข้าพระองค์ไม่พึงต้องการบุรุษเช่นนั้นแล ฯ [๔๐๘] พ. ดูกรมหาบพิตร พระองค์จะทรงสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ณ ที่นี้การยุทธพึงปรากฏแก่พระองค์ สงครามพึงปะทะกัน ถ้าว่า กุมารที่เป็นกษัตริย์ผู้ศึกษาดีแล้ว ได้หัดมือแล้ว ได้รับความชำนาญแล้ว ได้ประลองการยิงมาแล้วไม่เป็นคนขลาด ไม่เป็นคนสั่น ไม่เป็นคนสะดุ้ง ไม่เป็นคนมักวิ่งหนี พึงมาอาสาไซร้ พระองค์พึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือ และพระองค์พึงทรงมีพระประสงค์บุรุษเช่นนั้นหรือ ฯ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันพึงชุบเลี้ยงบุรุษนั้น และหม่อมฉันพึงต้องการบุรุษเช่นนั้น ฯ พ. ถ้าว่ากุมารที่เป็นพราหมณ์ ผู้ศึกษาดีแล้ว ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่า กุมารที่เป็นแพศย์ ผู้ศึกษาดีแล้ว ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ ฯลฯ ถ้าว่า กุมารที่เป็นศูทร ผู้ศึกษาดีแล้ว ฯลฯ พึงมาอาสาไซร้ พระองค์จะพึงทรงชุบเลี้ยงบุรุษนั้นหรือ และพระองค์จะพึงทรงมีพระประสงค์บุรุษเช่นนั้นหรือ ป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หม่อมฉันพึงชุบเลี้ยงบุรุษนั้น และหม่อมฉันพึงต้องการบุรุษเช่นนั้น ฯ (http://www.oknation.net/blog/home/blog_data/773/15773/images/228164.jpg) [๔๐๙] พ. ฉันนั้นนั่นแล มหาบพิตร แม้หากว่า กุลบุตรออกจากเรือนตระกูลไรๆ เป็นผู้บวชหาเรือนมิได้ และกุลบุตรนั้นเป็นผู้มีองค์ ๕ อันละได้แล้ว เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยองค์ ๕ ทานที่ให้แล้วในกุลบุตรนั้น ย่อมเป็นทานมีผลมาก องค์ ๕ อันกุลบุตรนั้นละได้แล้วเป็นไฉน กามฉันทะ อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว พยาบาท อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว ถีนมิทธะ อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว อุทธัจจกุกกุจจะ อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว วิจิกิจฉา อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว องค์ ๕ เหล่านี้อันกุลบุตรนั้นละได้แล้ว กุลบุตรนั้นเป็นผู้ประกอบด้วยองค์ ๕ เป็นไฉน กุลบุตรนั้นเป็นผู้ประกอบแล้วด้วยศีลขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยสมาธิขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยปัญญาขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยวิมุตติขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ เป็นผู้ประกอบแล้วด้วยวิมุตติญาณทัสสนขันธ์ อันเป็นของพระอเสขะ กุลบุตรนั้นเป็นผู้ประกอบแล้วด้วยองค์ ๕ เหล่านี้ ทานที่ให้แล้วในกุลบุตรผู้มีองค์ ๕ อันละได้แล้ว ผู้ประกอบแล้วด้วยองค์ ๕ ดังนี้ ย่อมมีผลมากฯ (http://www.bloggang.com/data/travelaround/picture/1236083554.jpg) [๔๑๐] พระผู้มีพระภาคผู้พระสุคตศาสดา ครั้นตรัสไวยากรณ์ภาษิตนี้จบลงแล้ว จึงได้ตรัสคาถาประพันธ์ต่อไปอีกว่า ศิลปะการยิงแม่น กำลังเข้มแข็ง และความกล้าหาญมีอยู่ในชายหนุ่มผู้ใด พระราชาผู้ทรงพระประสงค์ด้วยการยุทธพึงทรงชุบเลี้ยงชายหนุ่มเช่นนั้น ไม่พึงทรงชุบเลี้ยงชายหนุ่มผู้ไม่กล้าหาญ เพราะเหตุแห่งชาติ ฉันใด ฯ ธรรมะ คือ ขันติและโสรัจจะ ตั้งอยู่แล้วในบุคคลใด บุคคลพึงบูชาบุคคลนั้นผู้มีปัญญา มีความประพฤติเยี่ยงพระอริยะ แม้มีชาติทราม ฉันนั้นเหมือนกันฯ พึงสร้างอาศรมอันเป็นที่รื่นรมย์ ยังผู้พหูสูตทั้งหลายให้สำนักอยู่ ณ ที่นั้น พึงสร้างบ่อน้ำไว้ในป่าที่กันดารน้ำ และสะพานในที่เป็นหล่ม พึงถวาย ข้าว น้ำ ของเคี้ยว ผ้า และเสนาสนะในท่านผู้ซื่อตรงทั้งหลาย ด้วยน้ำใจอันผ่องใสเมฆมีสายฟ้าแลบแปลบปลาบ (เมฆอันประกอบด้วยถ่องแถวแห่งสายฟ้า) มียอดตั้งร้อยกระหึ่มอยู่ ยังแผ่นดินให้โชกชุ่มอยู่ย่อมยังที่ดอนและที่ลุ่มให้เต็ม แม้ฉันใด ฯ ทายกผู้มีศรัทธา เป็นบัณฑิตได้ฟังแล้ว ย่อมจัดหาโภชนาหารมาเลี้ยงวณิพก ด้วยข้าวน้ำให้อิ่มหนำ บันเทิงใจ เที่ยวไปในโรงทาน สั่งว่า ท่านทั้งหลายจงให้ ท่านทั้งหลายจงให้ดังนี้ และทายกนั้นบันลือเสียงเหมือนเสียงกระหึ่มแห่งเมฆเมื่อฝนกำลังตก ฉะนั้น ธารแห่งบุญอันไพบูลย์นั้น ย่อมยังทายกผู้ให้ ให้ชุ่มชื่น ฯ อ้างอิง เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๕ บรรทัดที่ ๓๑๔๖ - ๓๒๑๘. หน้าที่ ๑๓๘ - ๑๔๑. http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=3146&Z=3218&pagebreak=0 (http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=15&A=3146&Z=3218&pagebreak=0) ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :- http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=405 (http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=15&i=405) ขอบคุณภาพจาก http://www.oknation.net/,http://news.nipa.co.th/,http://www.bloggang.com/ (http://www.oknation.net/,http://news.nipa.co.th/,http://www.bloggang.com/) หัวข้อ: Re: มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: montra ที่ มกราคม 17, 2013, 11:20:01 am st11 st12 thk56
มีรายละเอียด มากครับ หัวข้อ: Re: มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: raponsan ที่ มกราคม 17, 2013, 11:23:22 am มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ ans1 ans1 ans1 ขอให้คุณบอมพ์อ่าน "อิสสัตถสูตร" ให้เข้าใจ พระสูตรนี้ตอบคำถามของคุณบอมพ์ได้โดยตรง พระคือ ผู้มีศีล ไม่ใช่พระก็คือ ผู้ไม่มีศีลหรือมีศีลน้อยนั่นเอง ขอให้สังเกตว่า พระพุทธองค์ กำหนดองค์ ๕ ไว้เป็นสองกลุ่ม กลุ่มแรก คือ นิวรณ์ ๕ กุลบุตรที่ละ ๕ ข้อนี้ได้ คือ พระอนาคามีผล กลุ่มที่สอง คือ คุณธรรมของพระอเสขะ พระอเสขะ คือ พระอรหันตผล ดังนั้น เหตุที่ทำบุญกับผู้มีศีล มีอานิสงส์มากกว่าผู้ไม่มีศีล ก็เพราะ พระไม่มีนิวรณ์ หรือพระหมดกิเลสนั่นเอง หากจะยกตัวอย่างทางโลก ก็ต้องบอกว่า คนที่มีวิชาความรู้ เราควรรับเข้าทำงาน ในทางตรงข้ามหากขาดความรู้ เราก็ไม่ควรรับเข้าทำงาน ผมคงไม่สามารถอธิบายอะไรให้พิสดารไปกว่านี้ได้ ขอคุยเท่านี้ครับ :25: หัวข้อ: Re: มีเหตุผล อะไรที่ ทำบุญกับพระ ได้บุญมากกว่า ทำบุญกับคนที่ไม่ใช่พระ ครับ เริ่มหัวข้อโดย: mitdee ที่ มกราคม 18, 2013, 07:14:40 am ans1
ทำไม เงินเดือน ป.ตรี มากกว่า ม.6 ทำไม คนไม่มีวุฒิ เขาไม่รับสมัครงาน ทั้ง ๆ ที่ ก็เป็นคนเหมือนกัน ทำงานได้เหมือนกัน ไม่มีวุฒิ ก็ไม่มีสิทธิ์ ที่นี้ บุญ เป็นสภาวะ นี่สิ ถ้าหากนับบุคคล ก็ต้องใช้ สภาวะ ของ ศีล สมาธิ ปัญญา เป็นเครื่องตัดสินใจ ด้วยทำไม ต้องใส่ ค่า และ คุณ ลงไป ก็จะเข้าใจได้ว่า เนื้อนาบุญที่ดี ที่สุด ก็คือ กลุ่มของ พระอริยะบุคคล 8 จำพวก นั่นเอง |