หัวข้อ: ขอทราบผลเสีย การสอนธรรมะ กับคนที่ไม่สนใจธรรมะ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: แพนด้า ที่ กุมภาพันธ์ 03, 2013, 07:07:42 am คือ ผม อยู่ในหมู่ ที่คนไม่สนใจธรรมะ ก็เลยกลายเป็นว่า ผมเป็นคนที่คุยธรรมะ มาก ๆ จนคิดว่า มันมีผลเสียเกิดขึ้น คือ เหมือนเราทำให้สังคมหมู่เพื่อน รังเกียจตัวเรา
อันนีี้ใช่เป็นข้อเสีย หรือ ไม่ครับ เพื่อน ๆ โปรดแชร์ประสบการณ์ กันด้วยครับ ว่า เราจะชักชวนเพื่อน ๆ ที่ไม่สนใจธรรมะ ให้สนใจในพระธรรมกันบ้าง โดยไม่มีผลเสียเกิดเขึ้นครับ thk56 st11 st12 หัวข้อ: Re: ขอทราบผลเสีย การสอนธรรมะ กับคนที่ไม่สนใจธรรมะ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 10, 2013, 12:40:58 pm "คนดีมีวิถีใจใฝ่ธรรม
อย่าเพียรร่ำจูงควายพรากปลักโคลน คนดีเด่นดีได้ Home alone ป่าล้านโล้นหมื่นต้นเสี้ยวเกินพอ." (http://t0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcR-9tcf6rRQGlNEoV2QqF0dLHpvMx0mgXt2sqFCPVdF4fcJVu49jQ) http://ngohglom.exteen.com/20090624/entry หัวข้อ: Re: ขอทราบผลเสีย การสอนธรรมะ กับคนที่ไม่สนใจธรรมะ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธุลีธวัช (chai173) ที่ กุมภาพันธ์ 16, 2013, 11:01:52 pm ผม อยู่ในหมู่คนไม่สนใจธรรม ก็เลยกลายเป็นว่า ผมเป็นคนที่สังคมหมู่เพื่อน รังเกียจ เพื่อน ๆ โปรดแชร์ประสบการณ์ กันด้วยครับ ผม(ธรรมธวัช) เป็นบุคคลประเภท Home alone เดียวดายอยู่กับหนังสือธรรมะมาตั้งแต่เด็ก อยู่เหย้าเฝ้าบ้านขาดเพื่อนฝูง จึงเป็นบุคคลเดียวที่หลุดรอดพ้นจากยาเสพติดในละแวกห้องแถวเช่าชุมชนกลางเมือง สังคมเพื่อนฝูงนอกบ้านไม่สนิทชิดเชื้อมากนัก เพื่อนหญิงแทบไม่มี กระทั่งหนีบวชเรียนเมื่ออายุ 17 ปี ก็ไม่ได้ดีมีเพื่อนหรือสหายธรรมใดใดมากมาย วาสนาได้กัลยาณมิตรเพียง 2 ท่าน เท่านั้น ที่คบค้าเสวนามากระทั่งปัจจุบัน คือ พระอาจารย์สนธยา ธัมมวังโส 1 พระมหาสมหมาย ธัมมเสวี 1 (ปัจจุบันดำรงฐานานุกรมเป็นเจ้าคณะอำเภอเมือง ฝ่ายมหานิกาย) อื่นจากนั้นคำว่าเพื่อนหายากมาก เพราะไม่ใส่ใจใคร จวบจนกระทั่งวัยย่าง 40 หย่อน 1 (ราวๆ 38-39) จึงได้พบสหายธรรมร่วมชะตา ซึ่งต่างล้วนผ่านทุกข์มาสารพัดอัตคัดมาเจอะเจอหน่วงเหนี่ยวเป็นเพื่อนตายกันได้ ทุกวันนี้พูดคุยแต่ธรรมนำพากันแสวงบุญสร้างวาสนาภาวนาเพื่อก้าวล่วงพ้นไม่สตรอเบอรี่กับใคร สังคมเหมือนมะม่วงต้นดกต่างที่จะยื้อแย่งแข่งกันสอย ได้มีอวดข่มกัน เผื่อแผ่แต่ผลออกงอกดอกเบี้ยเอาเปรียบกัน Home alone คนเดียวที่ใจ "พุทโธ" ไป อยู่ได้ครับ หัวข้อ: Re: ขอทราบผลเสีย การสอนธรรมะ กับคนที่ไม่สนใจธรรมะ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: นักเดินทาง ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2013, 01:30:28 am :s_hi: :49:
ไม่โดดเดี่ยวแล้วเพราะมี พุทโธ เป็นเพื่อน st12 หัวข้อ: Re: ขอทราบผลเสีย การสอนธรรมะ กับคนที่ไม่สนใจธรรมะ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: indy ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2013, 06:42:40 am ๑ในเมื่อเรามีเมตตาแล้ว กรุณา มุทิตาครบแล้ว ให้วางอุเบกขา จะดีกว่า คิดว่าเขาทั้งหลายอาจจะยังไม่ถึงเวลา
อย่าไปยัดเยียด ๒ อาจจะคนละสายกับเรา เช่นบางคนชอบฤทธิ์ เรากลับไม่ชอบ ๓ อาจจะไม่ใช่หน้าที่ให้เราเกิดมาสอนใคร ยังไงศาสนาก็อยู่มาแล้วและยังคงอยู่ต่อไป แม้ว่าไม่มีเรา หัวข้อ: Re: ขอทราบผลเสีย การสอนธรรมะ กับคนที่ไม่สนใจธรรมะ ด้วยครับ เริ่มหัวข้อโดย: ธรรมะ ปุจฉา ที่ กุมภาพันธ์ 17, 2013, 09:39:11 am กระทู้ใกล้เคียงที่น่าสนใจนำมาเป็นคำตอบก็ได้แก่กระทู้นี้นะจ๊ะ :
ต้องทำงาน ต้องเรียน และ ต้องอยู่ กับคนเหล่านี้ ควรทำอย่างไรคะ ? ชีวิตต้องทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ครั้นไปเรียนก็ไปเจอกลุ่มเพื่อน ๆ ที่คอยคะยั้น คะยอให้ทำผิดอีก บ้างก็มาติดต่อให้ชายยาบ้า.. เดินโพยบอล รู้อย่างนี้ จะแจ้งตำรวจก็กลัว คะเพราะพวกนี้มีอิทธิพลในกลุ่มนักศึกษาด้วยคะ รู้สึกว่าชีวิต ทำไมเจอแต่คนไม่ดีคะ กลับมาที่บ้านหวังจะได้ความอบอุ่น ก็มาเจอ แม่ไปเล่นไพ่ พ่อนั่งกินเหล้ากับเพื่อน ๆ ทุกวัน โวกเวก โวยวาย ทำไมชีวิตของเราถึงได้เจอแต่คนเหล่านี้คะ เราจะมีชีวิตอยู่อย่างไร ในทางที่ดี ในเมื่อเราต้องเจอเหตุการณ์อย่างนี้ทุกวัน ที่ทำได้ตอนนี้ก็คืออดทน ที่จะไม่ยอมเข้าไปร่วมประชดชีวิต แบบนั้นแต่ก็เริ่มรู้สึก ล้า ... จนกำลังใจเริ่มจะหมดแล้ว ชีวิตเราเลือกเกิด ไม่ได้...... แต่ถ้าเราจะภาวนา ให้พ้นจากสิ่งเหล่านี้ ต้องทำอย่างไร บ้างคะ ? ตอบ : กัลยาณมิตร และโยนิโสมนสิการ และข้อนี้ได้มีพระพุทธภาษิตตรัสไว้ในที่อื่นอีกว่า ก็ต้องอาศัย มิตตสัมปทา คือ ความถึงพร้อมด้วยมิตรอันหมายความว่าได้มิตรที่ดีงามอันเรียกว่ากัลยาณมิตร พระพุทธเจ้าเป็นยอดของกัลยาณมิตร. มารดาบิดาครูอาจารย์ทั้งหลายก็เป็นกัลยาณมิตร เพื่อนมิตรทั้งหลายซึ่งเป็นผู้ทรงปัญญาสามารถที่จะให้คำแนะนำอบรมอันถูกต้องได้เรียกว่า กัลยาณมิตร. ต้องอาศัยกัลยาณมิตรนี้ประการหนึ่ง. หรือ ในการที่จะปฏิบัติประกอบปัญญาในทางทั้ง ๓ ดังกล่าวนั้น ก็ต้องอาศัยกัลยาณมิตรและอาศัยโยนิโสมนสิการดังกล่าวมานั้นประกอบกันอยู่ตลอดเวลา ฉะนั้นผู้มุ่งจะได้ปัญญาที่เป็นสัมมาทิฏฐิ จึงต้องปฏิบัติตามมงคลสูตรคาถาแรกของพระพุทธเจ้าอยู่ให้เป็นประจำ คือ ไม่เสวนาคบหาคนพาลทั้งหลาย เสวนาคบหสบัณฑิตทั้งหลายและบูชาผู้ที่ควรบูชาทั้งหลาย เมื่อปฏิบัติอยู่ดังนี้แล้ว จึงจะได้กัลยาณมิตร ที่ : http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=9870.msg37887#msg37887 (http://www.madchima.org/forum/index.php?topic=9870.msg37887#msg37887) |