เพราะท่านทั้งหลายเข้าใจผิดว่า อาการเจ็บป่วยทางกาย เป็นเวทนาขันธ์
![]()
![]()
อนุรุทธเถรคาถานี้ แสดงให้เห็นอีกว่า พระพุทธเจ้ามีเวทนา
จำได้ว่า หนูกบเคยตั้งคำถามว่า พระอรหันต์มีเวทนาหรือไม่
ข้อธรรมในคาถานี้มีประโยคหนึ่งที่กล่าวว่า
"พระผู้มีพระภาคทรงอดกลั้นเวทนา ด้วยพระหฤทัยอันเบิกบาน"
ประโยคนี้จึงยืนยันได้ว่า อรหันต์ยังมีเวทนาอยู่ ไม่ใช้หุ่นยนต์หรือเป็นพระอิฐพระปูนแต่อย่างไร
แท้จริงแล้วมันไม่ใช่ เวทนาที่เป็นการเจ็บป่วยทางกาย ไม่ใช่ขันธ์ เป็นเพียงผัสสะทางกาย
การรู้ผัสสะทางกาย พระพุทธองค์รู้ด้วยอินทรีย์ห้า หนึ่งในอินทรีย์ห้านั้นก็คือ...ปัญญินทรีย์
อินทรีย์ห้าของพระอรหันต์หรือของพระพุทธเจ้า ไม่ใช่เจตสิก
เพราะว่าอินทรีย์ห้านั้นไม่ได้เกิดจาก จักขุอินทรีย์ โสต..ชิวหา..ฆาต..กาย
สาเหตุข้างบนคำอธิบายในเรื่อง เวทนาของพระอรหันต์หรือพระพุทธเจ้าไม่ใช่ขันธ์
ส่วนเรื่องเวทนาของพระพุทธเจ้า ในเรื่องที่เกี่ยวกับปรินิพานหรือดับขันธ์ เป็นอะไรกันแน่
เราก็ต้องไปเทียบเคียงในมหาปรินิพพานอีกเช่นกัน...
[๑๔๘] เมื่อพระผู้มีพระภาคเสด็จปรินิพพานแล้ว พร้อมกับการเสด็จ
ปรินิพพาน ท่านพระอนุรุทธะ ได้กล่าวคาถาเหล่านี้ความว่า
ลมอัสสาสะปัสสาสะของพระมุนีผู้มีพระทัยตั้งมั่น คงที่ ไม่
หวั่นไหว ทรงปรารภสันติ ทรงทำกาละ มิได้มีแล้ว พระองค์
มีพระทัยไม่หดหู่ ทรงอดกลั้นเวทนาได้แล้ว ความพ้นแห่งจิต
ได้มีแล้ว เหมือนดวงประทีปดับไปฉะนั้น ฯ
พระอนุรุธกล่าวถึงเวทนาไว้ แล้วก็จบลงที่ ..ปรินิพาน ไม่ใช่ดับขันธ์ปรินิพาน