ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - Eternity
หน้า: [1]
1  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: 30 กว่าปีกับการฝึกกรรมฐาน อานาปานสติ และ กายคตาสติ เมื่อ: มิถุนายน 18, 2011, 10:04:54 pm
ปุถุชนมี ๔ จำพวกครับ และมีเพียงจำพวกเดียวเท่านั้นที่สามารถบรรลุฌานสมาบัติ มรรคผลได้
ก็คือ "ติเหตุกบุคคล" นั่นเองครับ โดยจะแบ่งตามปฏิสนธิจิตครับ
ผู้ที่ปฏิสนธิด้วย "มหากุศลจิต ญาณสัมปยุต(ประกอบด้วยปัญญา)" กับ "ฌานจิต"
พวกนี้คือ "ติเหตุกบุคคล" ได้แก่ มนุษย์บางคน เทวดาบางองค์ พรหมทั้งหลาย เว้นอสัญญีพรหม และพรหมชั้นสุทธาวาส(เพราะไม่ใช่ปุถุชน) ส่วนอรูปพรหมนั้นมีเหตุให้บรรลุมรรคผลได้ แต่ไม่มีวัตถุทั้ง ๖ มีแต่ความรู้สึกทางใจที่เกิดขึ้นโดยไม่อาศัยหทัยวัตถุ จึงฟังธรรมไม่ได้ แต่ก็มีอรูปพรหมที่เป็นพระอริยะไปเกิด แล้วเจริญปัญญาต่อบรรลุมรรคผลที่สูงขึ้นไป หรือบรรลุอรหัตตผลในอรูปภูมินั้น

แต่เหตุให้บรรลุมันก็ขึ้นอยู่กับบารมี กับอินทรีย์ ๕ รวมๆแล้วคือโพธิปักขิยธรรม ๓๗
ติเหตุกบุคคลบางพวก บารมีไม่เต็มก็ไม่ได้พบพระสัทธรรม ก็ไม่ได้บรรลุครับ
ขึ้นอยู่กับหลายๆเหตุปัจจัยครับ... สรุปแล้ว ตั้งใจภาวนาเถิดครับ ดีที่สุดแล้ว
2  กรรมฐาน มัชฌิมา / ถามตอบ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ กรรมฐาน / Re: 30 กว่าปีกับการฝึกกรรมฐาน อานาปานสติ และ กายคตาสติ เมื่อ: มิถุนายน 18, 2011, 06:51:31 pm
ถ้าเป็น"ติเหตุกบุคคล" พระพุทธเจ้าทรงรับรองผลภายใน ๗ ปี อย่างน้อยคืออนาคามิผลบุคคล (เจริญภาวนาตรงตามอริยมรรค) วางใจไว้ถูกคือประกอบด้วยสติเจตสิก ประกอบด้วยปัญญาเจตสิก เป็นญาณสัมปยุตต์ ฉะนั้นจึงไม่มีโลภมูลจิตแน่นอน คือปฏิบัติโดยหวังความก้าวหน้า ทำใจให้จิตใจวุ่นอยู่ในภวตัณหา

แม้จะเป็นผู้ปรารถนาพุทธภูมิก็ตาม เมื่อตั้งใจปฏิบัติขนาดนี้ ย่อมได้บารมีอย่างสูง จิตย่อมวางเฉยในสังขารธรรม เห็นทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค แต่ไม่เดินจิตต่อเพื่อมรรคผล นี้เป็นกำลังใจของบรรดาผู้ปรารถนาพุทธภูมิทั้งหลาย

กระผมขอสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเหตุจากอินทรีย์ ๕ ไม่เสมอกัน ไม่เจริญตามสติปัฏฐานอันเป็นเหตุให้อินทรีย์ ๕ เสมอกัน หรือที่ไม่อยากกล่าวถึง คือเป็นทวิเหตุกบุคคล ผู้ไม่ปฏิสนธิจิตด้วยญาณสัมปยุตต์... แต่ที่แน่ๆ ต่อให้เป็นทวิเหตุกบุคคลจริง ถ้าตั้งใจปฏิบัติ ความเป็นมนุษย์ติเหตุกบุคคล หรือเทวดาติเหตุกบุคคลก็เป็นที่หวังได้ แต่ไม่สามารถเป็นพรหมได้ เนื่องจากอัปปนาจิตไม่สามารถเกิดในทวิเหตุกบุคคล หากจะเกิดสมาธิก็เป็นเอกัคตาเจตสิกที่เกิดร่วมในจิตประเภทอื่นๆ ที่ไม่ใช่อัปปนาจิต... (สันนิษฐานนะครับ ต้องมองหลายๆด้าน)
หน้า: [1]