ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน
  • สนง.ส่งเสริมพระกรรมฐาน
แสดงกระทู้
This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.
    Messages   Topics Attachments  

  Messages - RithSeo
หน้า: [1]
1  เรื่องทั่วไป / forward mail หรือ จดหมายส่งถึงกัน / ทำไม พระมหาโมคคัลลานะ จึงเป็นผู้มีฤทธิ์มาก เมื่อ: ตุลาคม 13, 2019, 08:55:50 pm



ทำไม พระมหาโมคคัลลานะ จึงเป็นผู้มีฤทธิ์มาก

เชื่อว่าไม่มีใครที่ไม่รู้จักพระเถระรูปนี้ “ พระมหาโมคคัลลานะ ” พระอัครสาวกเบื้องซ้ายของพระผู้มีพระภาคเจ้า แต่จะมีใครบ้างไหมที่จะทราบว่า ทำไมพระมหาโมคคัลลานะจึงเป็นผู้มีฤทธิ์มาก ซีเคร็ตจะเผยสาเหตุที่พระเถระรูปนี้กลายเป็นผู้มีฤทธิ์มากให้ทุกคนได้ทราบ

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับความหมายของคำว่า “ฤทธิ์” หรือ “อิทธิ” กันก่อน ฤทธิ์ มีความหมายว่า “ความสำเร็จ” สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต) ได้อธิบายว่า พระพุทธศาสนาแบ่งฤทธิ์ออกเป็น 2 ประเภท คือ อามิสฤทธิ์ และ ธรรมฤทธิ์ ฤทธิ์อย่างแรกจะเกิดขึ้นจากวัตถุ ส่วนธรรมฤทธิ์จะเกิดจากการสำเร็จธรรม หรือที่นิยมเรียกว่า การบรรลุธรรม ดังนั้นฤทธิ์นี้จึงเป็นฤทธิ์ของพระอริยบุคคล ตามจริงผู้สำเร็จเป็นพระอริยบุคคลย่อมสามารถแสดงฤทธิ์ได้ จึงสรุปได้ว่า ฤทธิ์ 2 ประเภทนี้จะเกิดขึ้นเฉพาะผู้ที่สำเร็จฌาน

@@@@@@

ในอิทธิกถาได้กล่าวถึงการแสดงฤทธิ์ในแบบต่าง ๆ เช่น การเดินทะลุกำแพง เหาะไปยังพรหมโลก จำแลงเป็นสิ่งต่าง ๆ เป็นต้น เมื่อมองย้อนกลับไปในประวัติของพระเถระบางรูปจะพบว่า พระเถระบางรูปเมื่อเข้าใจในธรรมแล้ว (บรรลุธรรม) กลับมีฤทธิ์ขึ้นมา เช่น พระจูฬปันถกเถระที่พระพี่ชายต่อว่าท่านว่าเป็นคนที่โง่เขลาจึงบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์ได้ยาก

จนกระทั่งพระบรมศาสดาทรงทราบว่าเมื่อในอดีตชาติ พระจูฬปันถกเคยเกิดเป็นพระราชา และได้พิจารณาผ้าขาวสะอาด หลังจากพระผู้มีพระภาคเจ้าให้พระจูฬปันถกพิจารณาผ้าขาวแล้ว ปรากฏว่าบรรลุธรรมแล้วสามารถแยกร่างออกเป็นพระจูฬปันถกหลายรูป นี้คือการแสดง (ธรรม) ฤทธิ์หลังจากสำเร็จธรรม (สามารถศึกษาเรื่องของพระจูฬปันถกได้ที่ >> พระจูฬปันถกเถระ วิบากกรรมของคนที่ชอบดูถูกผู้อื่น)

@@@@@@

ทำไมพระผู้มีพระภาคเจ้าประทานตำแห่นง (เอตทัคคะ) ว่าเป็นผู้มีฤทธิ์มากแก่พระมหาโมคคัลลานะ ในโมคคัลลานสูตรได้กล่าวไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสต่อพระภิกษุทั้งหลายว่า พระมหาโมคคัลลานะเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มาก เพราะได้เจริญอิทธิบาท 4 (ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และ วิมังสา) อิทธิบาท 4

นอกจากจะเป็นหลักธรรมที่สอนให้เราไปถึงความสำเร็จแล้วยังช่วยให้ผู้ที่เจริญอิทธิบาท 4 เป็นผู้ที่มีอายุยืนอีกด้วย ดังครั้งที่มารได้เข้าเฝ้าและทูลขอให้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพาน พระองค์ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า ผู้ที่เจริญอิทธิบาท 4 อยู่เป็นประจำ ผู้นั้นย่อมอายุยืนและอยู่ต่อได้อีกนาน (สามารถศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>ถ้าอยากอายุยืนขึ้น ควรทำอย่างไร ? เรื่องเล่าจากพระไตรปิฎก เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสถึงเรื่องอายุยืนกับพระอานนท์ )

@@@@@@

แล้วพระมหาโมคคัลลานะเจริญอิทธิบาท 4 อย่างไรจึงทำให้ท่านเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ พระพุทธองค์ตรัสอธิบายให้พระภิกษุทั้งหลายเข้าใจในการเจริญอิทธิบาท 4 ของพระมหาโมคคัลลานะ เพราะการปฏิบัติเช่นนี้ทำให้กลายเป็นผู้มีฤทธิ์มากว่า

“ภิกษุทั้งหลาย พระมหาโมคคัลลานะเป็นผู้มีฤทธิ์ และอานุภาพมากอย่างนี้ เพราะได้เจริญ และปฏิบัติอย่างมากด้วยหลักของอิทธิบาท 4 คือพระมหาโมคคัลลานะเจริญอิทธิบาทที่ประกอบด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ และวิมังสา โดยมีความตั้งใจดังนี้ว่า ฉันทะของเราจะไม่ย่อหย่อนเกินไป ไม่ต้องประคับประคองเกินไป  ไม่หดหู่ ไม่ฟุ้งซ่าน พระมหาโมคคัลลานะกระทำเช่นนี้ตลอดไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ และไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ปฏิบัติเช่นนี้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังอบรมจิตของตนเองให้ผ่องใส ไม่มีสิ่งใดมารบกวน”

@@@@@@

ทำไมการเจริญอิทธิบาท 4 จึงทำให้ผู้ปฏิบัติมีฤทธิ์ เพราะการปฏิบัติตามหลักอิทธิบาท 4 จะทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดสมาธิที่แน่วแน่ เมื่อเกิดสมาธิที่แน่วแน่แล้วย่อมทำสิ่งใดได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ดังที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์กล่าวไว้ในเรื่อง “อิทธิบาท 4 :ทางแห่งความสำเร็จ” ว่า “สภาพที่จิตแน่วแน่อยู่กับสิ่งที่กระทำนั้น เราเรียกว่า ‘สมาธิ‘ เพราะฉะนั้น ฉันทะก็นำไปสู่สมาธิ เมื่อมีความแน่วแน่ต่อสิ่งที่กระทำย่อมเป็นผลสำเร็จที่ดี เรียกว่านำไปสู่ ‘ความเป็นเลิศ‘”

พระมหาโมคคัลลานะมักเหาะไปแดนสวรรค์อยู่เสมอ ครั้งใดที่ท่านได้พบกับวิมานที่มีความวิจิตรตระการตา ท่านจะเข้าไปถามไถ่เรื่องผลบุญของเทวดาผู้เป็นเจ้าของวิมานทันที (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> ทำบุญด้วยน้ำ อานิสงส์แรง เรื่องเล่าจากพระอรหันต์) หรืออย่างครั้งหนึ่งท่านเคยเขย่าวิมานของท้าวสักกะเทวราชด้วยการเหาะขึ้นไปเหยียบบนยอดปราสาท (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> พระโมคคัลลานะเขย่าวิมานพระอินทร์) หรือการปราบพยศเศรษฐีคนหนึ่งให้กลายเป็นผู้ละซึ่งความตระหนี่ (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> พระโมคคัลลานะทรมานเศรษฐีขี้ตระหนี่)

หรือครั้งที่พระพุทธเจ้าพร้อมด้วยพระสาวกเหาะไปดาวดึงส์ นันโทปนันทนาคราชได้เนรมิตกายบดบังเขาสิเนรุ (เขาพระสุเมรุ) พระองค์ก็ทรงให้พระมหาโมคคัลลานะเป็นผู้ปราบพยศพญานาคตนนี้ด้วยฤทธิ์ ซึ่งพระมหาโมคคัลลานะได้เนรมิตกายเป็นพญานาคตัวใหญ่กว่าและพันรอบนันโทปนันทนาคราชจนยอมแพ้

@@@@@@

จะสังเกตได้ว่าเรื่องการใช้ฤทธิ์นั้น พระพุทธองค์จะทรงไว้วางพระทัยพระมหาโมคคัลลานะที่สุด รองลงมาคือพระอุบลวรรณาเถรี โดยพระเถรีรูปนี้มีบทบาทในการแสดงฤทธิ์ช่วยเหลือพระพุทธองค์ในครั้งที่พระองค์ทรงแสดงยมกปาฏิหาริย์ปราบพยศเดียรถีย์ พระเถรีได้แสดงฤทธิ์โดยเนรมิตรถเทียมด้วยม้า 4 ตัวขึ้นมา จากนั้นพระพุทธเจ้าจึงได้ตั้งเอตทัคคะเป็นผู้มีฤทธิ์แก่พระอุบลวรรณาเถรี (ศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ >>> เส้นทางสู่อรหัตตผลของพระอุบลวรรณาเถรี : สตรีผู้ทำบุญด้วยดอกบัวมาหลายชาติ)

นอกจากพระเถระในพระพุทธศาสนาที่เมื่อสำเร็จธรรมแล้วจะกลายเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ พระพุทธองค์ยังตรัสไว้ในสมณพราหมณสูตรอีกว่า หากสมณพราหมณ์ (ซึ่งอาจจะรวมถึงพระฤษี โยคี ชีไพรต่าง ๆ) เจริญอิทธิบาท 4 มากก็สามารถเหาะเหินเดินอากาศได้อีกด้วย แสดงว่าไม่ว่าจะเป็นใครหากได้เจริญอิทธิบาท4 ย่อมสามารถเป็นผู้ที่มีฤทธิ์ได้ทั้งนั้น



ที่มา :-
www.84000.org/ฤทธิ์ 2
www.84000.org/อิทธิกถา
www.84000.org/สมณพราหมณสูตร
www.84000.org/โมคคัลลานสูตร
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดย สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ป.อ.ปยุตฺโต)

ภาพ : www.pexels.com
ขอบคุณ : https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/178255.html
By nintara1991 ,12 October 2019
หน้า: [1]