« เมื่อ: มีนาคม 27, 2013, 11:57:49 am »
0
แนะพระธรรมทูตอดทนอย่ายึดติดลาภ
'สมเด็จพระพุทธชินวงศ์' แนะพระธรรมทูตต้องอดทนอย่ายึดติดลาภสักการะ
25มี.ค.2556 สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ประธานกรรมการเผยแผ่พระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เป็นประธานเปิดโครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ รุ่นที่ ๑๙ ณ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย อ.วังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อเร็วๆนี้
ทั้งนี้ สมเด็จพระพุทธชินวงศ์ กล่าวว่า พระธรรมทูต ต้องมีความอดทนต่อสิ่งยั่วยุ เพราะขณะปฏิบัติหน้าที่ต้องพบปะผู้คนต่างเชื้อชาติศาสนา ความคิด การกระทำที่แตกต่างกันออกไป รวมทั้งต้องรองรับอารมณ์ของผู้คนหลากหลาย
พระธรรมทูตต้องอดทนต่อสิ่งที่มากระทบ และต้องทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ
และที่สำคัญ ต้องไม่ยึดติดกับลาภสักการะที่เกิดขึ้น ขอให้ยึดแบบพระธรรมทูตครั้งพุทธกาลที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ส่งไปประกาศพระพุทธศาสนายังดินแดนต่างๆ กระทั่งพระพุทธศาสนาได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวาง อีกทั้งพระธรรมทูตต้องมีความรู้ความเข้าใจในหลักการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานอันเป็นรากฐานที่สำคัญของการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ด้านพระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการต่างประเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กล่าวว่า “โครงการอบรมพระธรรมทูตสายต่างประเทศ เริ่มดำเนินการเมื่อ พ.ศ. ๒๕๑๐ และยุติลงด้วยเหตุบางประการ ขณะเดียวกัน ความต้องการพระธรรมทูตเพื่อไปเผยแผ่พระพุทธศาสนายังต่างแดนกลับเพิ่มมากขึ้น กระทั่งสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาและพระธรรมทูตไทยในต่างประเทศได้เสนอต่อมหาเถรสมาคมให้มีการอบรมพระธรรมทูตอีกครั้ง
มหาเถรสมาคมโดยกองงานพระธรรมทูตคณะสงฆ์มหานิกาย ได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติและสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ดำเนินการฝึกอบรมตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๓๘ เป็นต้นมา รวม ๑๘ รุ่น
มีพระสงฆ์ที่ผ่านการฝึกอบรมไปแล้วจำนวน ๑,๓๘๕ รูป
และครั้งนี้ เป็นรุ่นที่ ๑๙ มีพระสงฆ์ที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับการอบรม จำนวน ๙๘ รูป
ทั้งนี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และฝึกอบรมให้เป็นพระธรรมทูตที่มีความรู้ความสามารถด้านพระพุทธศาสนา และการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน มีจริยาวัตรที่ดีงาม
“การอบรมพระธรรมทูตแบ่งออกเป็น ๒ ส่วนประกอบด้วย ภาควิชาการ จำนวน ๒๐ วัน ภาคปฏิบัติ กล่าวคือ กิจกรรมฝึกปฏิบัติและศึกษาดูงานการปฏิบัติศาสนกิจของพระธรรมทูตสายต่างประเทศ ณ แดนพุทธภูมิ นมัสการสังเวชนียสถาน ณ ประเทศอินเดีย เนปาล ระหว่างวันที่ ๒๒ มีนาคม – ๒ เมษายน ๒๕๕๖
โดยเริ่มที่พุทธคยา ประเทศอินเดียและไปสิ้นสุดที่ ลุมพินีวันประเทศเนปาล
กิจกรรมสาธารณูปการฝึกการปฏิบัติงานก่อสร้างและงานเกษตรสาธิต ๒๐ วัน
การปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐาน ๓๐ วัน และสุดท้ายการฝึกทักษะเพื่อการทำงานเป็นทีมในงานวันประสาทปริญญาของมหาวิทยาลัยและงานวิสาขบูชาโลกนานาชาติ ๑๐ วัน” พระครูปลัดสุวัฒนวชิรคุณ กล่าว

พระราชรัตนรังสี เจ้าอาวาสวัดไทยพุทธคยา ประเทศอินเดีย หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล ได้กล่าวในพิธีเปิดโครงการศึกษาการปฏิบัติงานพระธรรมทูต ณ วัดไทยพุทธคยา อินเดียว่า พระธรรมทูตถือเป็นผู้สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและสืบทอดคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ที่สำคัญ
ดังนั้น จึงต้องปลูกฝังความศรัทธาที่มีต่อพระพุทธศาสนาอย่างเข้มข้น โดยต้องสัมผัสบทบาทหน้าที่จริงๆ ของพระธรรมทูตสายอินเดีย-เนปาล เมื่อผ่านสองประเทศนี้แล้ว จะไปเผยแผ่ประเทศไหนๆ ก็ได้ทั่วโลก เพราะอินเดีย-เนปาลถือเป็นแหล่งกำเนิดพระพุทธศาสนา ขอให้พระธรรมทูตทุกรูป จงตักตวงประสบการณ์ในการเดินทางมาครั้งนี้ให้เต็มที่ และจงคิดว่าจะนำความรู้นี้ไปสอนพุทธศาสนิกชนให้ได้ประโยชน์มากที่สุด
อย่าหวังผลเพียงเพื่อได้ไปอยู่ต่างประเทศ เพราะถ้าเป็นอย่างนั้น ก็จะเป็นเนื้อร้ายที่เกาะกินพระพุทธศาสนาให้เสื่อมถอยไปเรื่อยๆ ต่อไปก็จะไม่เหลืออะไรไว้ให้ลูกหลานได้ศึกษาและปฏิบัติ ในระยะเวลาที่อยู่ในอินเดียและเนปาล ขอให้ตั้งใจศึกษาวิถีชีวิตผู้คนอย่างจริงจัง แล้วจะเห็นว่า นี่คือสัจธรรมที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยสั่งสอนไว้เมื่อ ๒๖๐๐ ปีมา แล้ว ปัจจุบัน สัจธรรมนั้นก็ยังคงปรากฏให้เห็นอยู่ไม่เสื่อมคลาย ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.komchadluek.net/detail/20130325/154726/แนะพระธรรมทูตอดทนอย่ายึดติดลาภ.html#.UVJ6azd6W85