พุทธเถรวาทร่วมคิดทำหลักสูตรพุทธยุคใหม่
ผู้นำสงฆ์ นักวิชาการ ร่วมถกทำหลักสูตรพุทธศาสน์สากลยุคใหม่ ยกระดับคุณภาพพระสงฆ์ ขณะที่ "พงศ์เทพ" ชี้ปฏิรูปการศึกษาใหม่ ต้องนำหลักศาสนาเชื่อมหลักสูตร ปั้นเด็กเก่งควบคู่คุณธรรม
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย(มมร.) อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ นายกสภามมร. เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เปิดการประชุมสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเถรวาทนานาชาติ ครั้งที่ 3 เรื่อง พุทธศาสน์ศึกษา คือ ชีวิตศึกษาโดยมีนายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ซึ่งการประชุมครั้งนี้มีพระสงฆ์ นักวิชาการ ฆราวาส เข้าร่วมงานมากกว่า 500 รูป/คน
โดยสมเด็จพระมหามุนีวงศ์ กล่าวสัมโมทนียกถาว่า เป็นเรื่องน่ายินดี ที่มมร.และผู้บริหารระดับสูงของมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเถรวาทนานาชาติกว่า 40 แห่งทั่วโลกมาประชุมร่วมกัน ในการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในวาระครบพระชันษา 100 ปี 3 ตุลาคม 2556 ของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ที่สำคัญการที่นักปราชญ์ได้มาประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาพระพุทธศาสนาในการจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนพุทธศาสน์ศึกษาให้เป็นมาตรฐานสากลนั้น สถาบันการศึกษาต่างๆก็จะสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับสภาพสังคมได้ เชื่อว่าจะเป็นการสร้างความมั่นคงให้แก่พระพุทธศาสนา ที่สำคัญจะส่งผลให้การผลิตบัณฑิตด้านพระพุทธศาสนา มีคุณภาพและช่วยกันธำรงเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป
พระอชิน ญานิสสรมหาเถร จากสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในฐานะประธานสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาฯ กล่าวว่า จุดประสงค์ของการก่อตั้งสมาคมมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาเถรวาทนานาชาติ เพื่อธำรงการศึกษาทางพระพุทธศาสนา เพื่อกระชับความสัมพันธ์ ของมหาวิทยาลัยพระพุทธศาสนาต่างๆ รวมทั้งแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการด้านการเรียนการสอนพระพุทธศาสนาร่วมกัน ซึ่งในครั้งนี้ถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมประชุม จัดทำหลักสูตรสากลร่วมกัน และยังได้มาเทิดพระเกียรติสมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศไทย ในวาระครบพระชันษา 100 ปีด้วย
ด้านนายพงศ์เทพ กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้ ได้มีการหารือแนวทางการพัฒนาการศึกษาด้านพระพุทธศาสนา ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้สมาชิกและสถาบันการศึกษาอื่นๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการเรียนการสอนได้ ซึ่งตนในฐานะรมว.ศึกษาธิการ มีหน้าที่ในการส่งเสริมจัดการศึกษาของชาติ เห็นว่าสังคมของเราหากขาดการประพฤติปฏิบัติตามหลักคำสอนทางศาสนา ถึงแม้ว่าสังคมนั้นจะมีกฎหมายควบคุมเข้มแข็งอย่างไร ก็ยากที่จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข แต่สังคมที่ยึดมั่นปฏิบัติตามหลักคำสอนของศาสนา ถึงแม้จะเป็นสังคมที่ไม่มีกฎหมายก็สามารถอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขไม่ทำร้ายสังคมที่ตัวเองอาศัยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ในการปฏิรูปการศึกษาของชาติที่ศธ.กำลังดำเนินการอยู่นั้น ตนเห็นว่าจะต้องนำหลักศาสนาเข้ามาสอดแทรกเชื่อมโยงในระบบการศึกษาให้มากขึ้น เพราะนอกจากเด็กที่มีความรู้ ความสามารถ สติปัญญาแล้ว เด็กจะต้องมีระเบียบวินัย มีศีลธรรม มีคุณธรรม ทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย โดยต้องอาศัยความร่วมมือของสถาบันศาสนา โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยสงฆ์ เป็นหลักที่จะชี้นำสังคมด้านศีลธรรมและจริยธรรม เป็นความหวังที่จะช่วยพยุงสังคม เพื่อสร้างประโยชน์แก่สังคมประเทศและสังคมโลก.ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/education/204953วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม 2556 เวลา 15:01 น.