พิมพ์

[raponsan]

แรลลี่.!! "รดน้ำต้นโพธิ์" เที่่ยว"ตลาดนิพพาน"

พระพุทธเจ้าประสูติ (เกิด) ตรัสรู้ (รู้แจ้งธรรมเป็นพระพุทธเจ้า) ปรินิพพาน (ตาย) เหตุการณ์ทั้งสามนี้เกิดขึ้นตรงกับวันเพ็ญเดือนวิสาขะ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 เมื่อระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งพุทธกาลทั้งสามนี้ คนมอญพุทธศาสนิกชนจึงได้ชักชวนกันจัดกิจกรรม รดน้ำต้นโพธิ์, ออกร้านตลาดนิพพาน ปฏิบัติทำกันมาจนกลายเป็นประเพณี

“ต้นโพ” และ “ต้นโพธิ์” แม้จะออกเสียงเหมือนกันแต่กลับเขียนต่างกัน และมีความหมายทั้งเหมือนกันและต่างกัน

ขณะที่ “ต้นโพ” เป็นชื่อเรียกของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ต้นไม้ชนิดนี้เรียกชื่อตามภาษาไทยว่า ต้นโพ “ต้นโพธิ์” ที่เขียนแบบนี้เป็นชื่อเฉพาะของต้นไม้ที่อยู่ในสหชาติซึ่งเกิดวันเดียวกันกับพระพุทธเจ้า พระองค์ทรงตรัสรู้แจ้งธรรมเป็นพระพุทธเจ้าใต้ร่มไม้ต้นนั้น เฉพาะต้นโพธิ์ต้นนั้นเท่านั้น ที่เรียกว่า “ต้นโพธิ์”

พระคันถรจนาจารย์ ได้กล่าวไว้ว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์นั้น ผู้ใดได้บูชาก็เหมือนบูชาพระพุทธเจ้าด้วย ผู้ใดสักการะก็เหมือนสักการะพระพุทธเจ้าด้วย เพราะเปรียบได้กับพระพุทธเจ้า จะตัดจะติดแม้ส่วนใดส่วนหนึ่งก็ไม่ได้ ควรตั้งอยู่ในความเคารพ และปฏิบัติต่อต้นพระศรีมหาโพธิ์เช่นเดียวกับพระพุทธเจ้า บุญเป็นอันมากย่อมเกิดแก่ผู้บูชาสักการะต้นพระศรีมหาโพธิ์

ประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์จึงเกิดขึ้นด้วยเนื่องจากความเชื่อนั้น ประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์ที่ว่าจะรดเฉพาะต้นโพธิ์เท่านั้น ไม่ได้รดน้ำต้นโพทั่ว ๆ ไป ดังนั้นประเพณีนี้จึงไม่มีทั่วไปจะมีเฉพาะหมู่บ้านคนมอญที่มีประวัติของต้นโพธิ์ ซึ่งทางวัดได้นำกล้ามาจากประเทศอินเดียบ้าง จากประเทศศรีลังกาบ้างมาปลูกไว้ที่ลานวัด หรือลานเจดีย์เท่านั้น

“ต้นโพธิ์” ของวัดวังก์วิเวการามเองนั้น หลวงพ่ออุตตมะก็ได้นำมาจากประเทศศรีลังกา โดยสมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศศรีลังกาได้พระราชทานให้พร้อมกับพระบรมสารีริกธาตุ เมื่อครั้งที่หลวงพ่ออุตตมะได้ไปขอพระบรมสารีริกธาตุ เพื่อมาประดิษฐานไว้ในเจดีย์แบบพุทธคยาจำลอง

ส่วนประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์เกิดขึ้นในสมัยใดของเมืองมอญนั้น ยังไม่ทราบแน่ชัด ในชุมชนคนมอญวัดวังก์วิเวการาม เมื่อครั้งตั้งอยู่ชุมชนฝั่งเก่าก่อนน้ำท่วม ประเพณีนี้ยังไม่มีเพราะไม่มีต้นโพธิ์ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2530 หลวงพ่ออุตตมะได้อัญเชิญหน่อพระศรีมหาโพธิ์ที่ได้รับพระราชทานมาจากสมเด็จพระสังฆราชแห่งประเทศศรีลังกา โดยในวันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2530 สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ทรงปลูกต้นพระศรีมหาโพธิ์นี้ไว้บริเวณลานเจดีย์พุทธคยาของวัดวังก์วิเวการาม

ตั้งแต่นั้นมาหลวงพ่ออุตตมะได้รื้อฟื้นให้มีประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์ขึ้น เหมือนที่เมืองมอญบ้านเกิดท่าน ดังนั้นทุกวันเพ็ญ 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งตรงกับวันวิสาขบูชา ของทุกปี ในช่วงเย็นชาวบ้านจะนำน้ำอบน้ำหอม น้ำสะอาดลอยดอกไม้มารวมตัวกันรดน้ำต้นพระศรีมหาโพธิ์จนเป็นประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์ของชุมชนมอญนี้ ซึ่งชาวไทยรามัญมีความเชื่อว่า ในสมัยพุทธกาล

เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ที่ใต้ต้นมหาโพธิ์ ธรรมะที่พระองค์ตรัสรู้เปรียบได้กับดอกบัวกำลังบานและโผล่ขึ้นจากน้ำ ซึ่งชาวไทยรามัญเห็นว่าเป็นวันที่ควรแก่การประกอบกิจทางศาสนาเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา จึงจัดให้มีประเพณีรดน้ำต้นโพธิ์ ณ บริเวณลานเจดีย์พุทธคยา

ขณะที่นิพพาน หมายถึง ความดับ ไม่ต้องเกิดขึ้นมาอีก เป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดของพระพุทธศาสนา ดังนั้นพุทธศาสนิกชนคนมอญทุกคนจึงหมั่นทำความดี สร้างกองบุญกองกุศลต่าง ๆ ไว้ มีทั้งการให้ทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาก็เพื่อให้บรรลุถึงซึ่งนิพพาน

เนื่องจากในวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 นั้นตรงกับวันที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานด้วย เพราะมีคำว่านิพพานอยู่ด้วย คนมอญจึงมีประเพณีออกร้านตลาดนิพพาน โดยในช่วงเย็นชาวบ้านที่ต้องการออกร้านจะนำผลไม้บ้าง ขนมบ้าง น้ำดื่มบ้าง มาตั้งร้านไว้

เมื่อถึงเวลาค่ำหลังจากสมาทานศีล ไหว้พระ สวดมนต์ เวียนเทียนเสร็จเรียบร้อยแล้วก็จะมีการเปิดตลาดให้ผู้คนทั่วไปทั้งเด็ก, ผู้ใหญ่, ผู้หญิง, ผู้ชาย ที่มาทำบุญไหว้พระสวดมนต์ เวียนเทียน ได้ไปซื้อของเหล่านั้น โดยใช้บุญที่ได้ทำมาแล้วนั้นซื้อของ ไม่มีการใช้เงินซื้อ ผู้ขายเองก็ปรารถนาบุญ จึงได้นำสิ่งของเหล่านั้นมาขาย เพื่อที่ตนจะได้บุญจากคนที่เอาบุญมาซื้อ และให้เป็นทานบุญต่าง ๆ ที่ได้สั่งสมไว้แล้วนี้เองจะนำให้บรรลุถึงซึ่งนิพพานอันเป็นจุดสูงสุดของพระพุทธศาสนา
     ประเพณีบุญนี้จึงเรียกกันว่า “ออกร้านตลาดนิพพาน” เป็นประเพณีที่จัดขึ้นในวันวิสาขบูชา
     โดยชาวไทยรามัญ (มอญ) จะนำอาหารคาว อาหารหวาน น้ำดื่ม และผลไม้ มาวางไว้ในบริเวณงาน
     เพื่อให้ผู้ที่มาร่วมงานได้หยิบไปรับประทานได้ฟรีโดยไม่ต้องซื้อ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานกาญจนบุรี เชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจร่วมเดินทางท่องเที่ยวคาราวาน–แรลลี่ : ท่องเที่ยวสุขสันต์ แดนสวรรค์ตะวันตก ตามเส้นทางกรุงเทพฯ-สังขละบุรี-ทองผาภูมิ ในวันที่ 24-26 พ.ค. ช่วงวันวิสาขบูชา วันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่องค์การสหประชาชาติยกย่องให้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของโลก นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสบรรยากาศแบบวัฒนธรรมชุมชนชาวมอญ สังขละบุรี ที่มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่น่าสนใจ

ดูรายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ทางเว็บไซต์ www.rallythai.net สมัครได้ที่ gps.kongton@gmail.com ค่าสมัครรถยนต์คันละ 4,500 บาท สอบถาม ททท.สำนักงานกาญจนบุรี โทร. 0-3451-1200, 0-3451-2500 หรือบริษัท พีแอนด์ที มีเดีย จำกัด โทร. 0-2692- 4244

ขอบคุณข้อมูลจากคุณอรัญญา เจริญหงษ์ษา เลขาวัฒนธรรมตำบลหนองลู และ www.kanculture.com ภาพโดย ททท.กาญจนบุรี, คุณใหญ่ YaiPearn Suphasawat.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/article/725/205407

[Akira]

เป็นงานบุญที่น่าสนใจ คะ