ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: วันสิ้นโลก จุดจบที่ยังไร้ตอนจบ  (อ่าน 1722 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
วันสิ้นโลก จุดจบที่ยังไร้ตอนจบ
« เมื่อ: มิถุนายน 16, 2013, 06:42:46 am »
0

สงครามนิวเคลียร์สามารถทำลายโลกได้ในเวลาอันสั้น.

วันสิ้นโลก จุดจบที่ยังไร้ตอนจบ

ปี2012 ผ่านไปแล้วหลายเดือน โดยที่โลกเราก็ยังเป็นปกติดี  ไม่ได้เกิดหายนะอย่างที่ร่ำลือกันว่าจะเป็นวันสิ้นโลก เมื่อเป็นแบบนี้จึงทำให้หลายคนคิดว่า คำทำนายต่างๆนั้นเชื่อถือไม่ได้ ซึ่งก็คงเป็นเรื่องเฉพาะตัวที่ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อ

จริงๆแล้วความเชื่อในทางศาสนานั้น แทบทุกศาสนาจะกล่าวถึงวันสิ้นโลก ศาสนาอิสลามนั้นบอกไว้อย่างชัดเจนถึงสัญญาณหลายอย่าง ที่บ่งบอกว่าวันสิ้นโลกนั้น ใกล้เข้ามาแล้ว ซึ่งมีทั้งสัญญาณเล็กและสัญญาณใหญ่ สัญญาณเล็กมีจำนวนถึง 47 อย่าง แต่ขอยกมาเพียงบางส่วน ได้แก่


ควันและเถ้าจากภูเขาไฟขนาดยักษ์อาจปกคลุมไปเกือบทั่วโลก

แผ่นดินไหวจะเกิดมาก, ลมพายุจะรุนแรง, โรคร้ายจะคร่าชีวิตคนไปจำนวนมาก, คนทุจริตจะอยู่ปลอดภัย, การผิดประเวณีจะเกิดขึ้น อย่างมากมาย, คนรุ่นหลังจะประณามคนรุ่นก่อน, ผู้ใหญ่จะรับใช้เด็ก, หญิงจะประพฤติตัวเหมือนชาย ชายจะ ประพฤติตัวเหมือนหญิง, ผู้หญิงจะนุ่งน้อยห่มน้อย, ผู้ทุจริตจะได้รับการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดกลับถูกทอดทิ้ง, ความชั่วช้าเลวทรามจะปรากฏชัด, คนชั่วจะมีหน้ามีตาในสังคม ฯลฯ

ส่วนสัญญาณใหญ่นั้น จะมีทั้งหมด 10 ประการ เช่น มีสัตว์ประหลาดออกมาจากแผ่นดิน, ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตก, มีหมอกเกิดขึ้นเต็มแผ่นดิน, เกิดไฟประลัยกัลป์ออกมาขับไล่ผู้คน ฯลฯ

ส่วนศาสนาคริสต์นั้นว่าไว้ 10 ประการ เช่น ความรู้ เทคโนโลยีต่างๆที่ก้าวหน้ามาก, เกิดการแพร่กระจายของเชื้อโรคหรือสารบางอย่าง ที่สังหารมนุษย์เป็นจำนวนมาก, การสื่อสารระยะไกล, ผู้คนเต็มไปด้วยการโกหกหลอกลวงกัน, ความอดอยากและโรคร้ายที่แพร่กระจายไปทั่ว, แผ่นดินไหวและภัยพิบัติทางธรรมชาติต่างเกิดถี่ขึ้น, มนุษย์ขาดศีลธรรมกันมากขึ้น

โดยรวมแล้วก็คล้ายกับสัญญาณเล็กในศาสนาอิสลาม


พายุสุริยะอาจส่งผลกระทบรุนแรง หากสนามแม่เหล็กโลกอ่อนกำลัง

วันสิ้นโลกในทางวิทยาศาสตร์ ก็มีผู้คาดการณ์ไว้หลายทฤษฎี เช่น สงครามโลกครั้งที่ 3 ปัจจุบันนี้ ชาติที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์นั้นไม่ได้มีเพียงชาติตะวันตก อย่างสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และรัสเซียอีกต่อไป แต่ชาติอื่นๆที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ได้แก่ จีน อินเดีย ปากีสถาน เกาหลีเหนือ ฝรั่งเศส อิสราเอล (อิหร่าน และซีเรีย กำลังพยายามจะมีไว้ในครอบครอง) ซึ่งทั้งหมดนี้ประกอบไปด้วยหัวรบนิวเคลียร์กว่า 17,000 หัว

ดังนั้น วันใดที่เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรง ความเป็นไปได้ที่จะเกิดวันสิ้นโลกก็มีสูงมาก เพราะกัมมันตภาพรังสีที่จะแพร่กระจายไปทั่วโลก อาจทำให้มนุษย์หาที่อยู่ไม่ได้เลยก็เป็นได้ นั่นยังไม่นับอาวุธเคมีและอาวุธเชื้อโรค ที่สามารถสังหารผู้คนได้มหาศาลเช่นกัน

การเรียงตัวของดวงดาวในกาแล็กซีทางช้างเผือก  นักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งเชื่อว่า เมื่อใดที่ดาวเคราะห์เรียงตัวกันจะเกิดการเหนี่ยวนำที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาที่ดวงอาทิตย์ นอกจากนั้น การเรียงตัวกันของดวงดาวยังเหนี่ยวนำให้เกิดแผ่นดินไหวบนดาวเคราะห์ที่อยู่ในแนวการเรียงตัวกันนั้นด้วย เหตุผลหนึ่งที่สนับสนุนความเชื่อนี้คือ จากข้อมูลทางสถิติในอดีตพบว่า แผ่นดินไหวขนาดใหญ่หลายๆครั้งเกิดขึ้นในช่วงวันที่โลกเรียงตัวกับดาวเคราะห์ดวงอื่น และดวงอาทิตย์


โรคระบาดในอดีตเคยผลาญชีวิตคนไปครั้งละเป็นล้าน

การพลิกกลับของขั้วแม่เหล็กโลก เกร๊ก บราเด็น คือนักภูมิศาสตร์ผู้ออกมาประกาศว่าปัจจุบันนี้สนามพลังแม่เหล็กโลกลดลงถึง 38% เมื่อเทียบกับเมื่อสองพันปีก่อน และอัตราความเร็วของการลดลงนี้เพิ่มขึ้นถึง 6% เฉพาะในช่วงศตวรรษที่ผ่านมา เมื่อไหร่ที่ค่าของสนามพลังแม่เหล็กโลก ลดลงจนถึง 0 เมื่อนั้นคือขั้วแม่เหล็กโลกได้พลิกกลับอย่างสมบูรณ์แล้ว

ซึ่งปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อราว 780,000 ปีก่อน ในช่วงนั้นอาจจะเกิดขั้วแม่เหล็กโลกชั่วคราวขึ้นมา แต่สนามพลังที่ปรากฏจะอ่อน มาก ชนิดที่ว่า เข็มทิศจะชี้ไปไม่ตรงกันขึ้นอยู่ว่าเราอยู่ที่ตำแหน่งไหน ของโลก จากนั้นสนามพลังแม่เหล็กโลกก็สูญสิ้นไปเลยเป็นเวลาหลายพันปี ก่อนที่จะปรากฏขึ้นอีกครั้งในทิศที่ตรงกันข้ามกับครั้งก่อน ในช่วงที่โลกขาดสนามพลังแม่เหล็กที่ทำหน้าที่ปกป้องพลังงานอื่นๆจากนอกโลกนั้น อนุภาคของรังสีต่างๆโดยเฉพาะจากดวงอาทิตย์ (Salar Storm) จะเข้ามาโจมตีโลกเราได้อย่างเต็มที่และต่อเนื่อง

การระเบิดของภูเขาไฟขนาดยักษ์ (Super volcano) โลกเรานี้มีภูเขาไฟระดับ “อภิมหา” ที่ว่านี้อยู่สามจุดในสหรัฐอเมริกา ทะเลสาบโทบา ในอินโดนีเซีย เทาโปที่นิวซีแลนด์ และไอร่าที่ญี่ปุ่น ภูเขาไฟขนาดนี้มีความรุนแรงของการระเบิดตั้งแต่ระดับ 8 VE ขึ้นไป ปล่อยเถ้าและ ลาวาออกมาในรัศมี 1,000 คิวบิกกิโลเมตร นักภูมิศาสตร์เชื่อว่า Yellow Stone เป็นแห่งแรกที่จะระเบิด  เนื่องจากเกิดแผ่นดินไหวบริเวณที่บริเวณนั้นราว 1,500 ครั้งต่อปี และมีการปลดปล่อยพลังงานออกมาอย่างต่อเนื่อง หากมันระเบิดขึ้นมา กว่าครึ่งหนึ่งของสหรัฐอเมริกาจะหายไปจากแผนที่โลก กรดซัลฟูลิกจะกระจายสู่ชั้นบรรยากาศราว 2,000 ล้านตัน สร้างผลเสียมหาศาลนานหลายปี


ผู้คนต่างต้องดิ้นรนหาทางรอดในวันที่หายนะมาถึง

โรคระบาด ในราวปี ค.ศ.1300-1400 หรือยุคกลาง เกิดกาฬโรคระบาดแทบทุกหนแห่งบนโลก ประชากรลดลงอย่างฮวบฮาบในเวลาอันรวดเร็ว ช่วง ค.ศ.1501-1587 เกิดการระบาดที่รุนแรงของโรคไข้รากสาดใหญ่ (Typhus) ในทวีปยุโรป แม้จะคร่าชีวิตผู้คนไม่มากเท่าการระบาดของกาฬโรคในยุคกลางตอนต้น แต่ก็ส่งผลอย่างรุนแรงต่อชีวิตความเป็นอยู่ได้มาก

พอถึงช่วงปี 1918-1920 เพียงสองปีเท่านั้น แต่ไข้หวัดสเปน (Spanish Flu) เอาชีวิตคนไปประมาณ 50-100 ล้านคน เมื่อปี 2002 ไข้ SARS คือโรคระบาดที่สะเทือนขวัญของคนทั้งโลกและนับจากปี 1980 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน โรคเอดส์หรือเชื้อ HIV ยังคงไม่มียารักษา ทั้งที่มันเอาชีวิตคนไปแล้วหลายสิบล้านคน ในอนาคตยังไม่มีใครสามารถทำนายได้ว่าโรคแปลกๆที่รักษาไม่ได้จะเกิดระบาดขึ้นเมื่อไหร่และรุนแรงแค่ไหน แต่มันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มนุษย์หมดไปจากโลกได้เช่นกัน

เหตุการณ์วันสิ้นโลกยังมีอีกหลายทฤษฎี ซึ่งมีการนำเสนออยู่ไม่ขาดระยะ เช่น ถูกอุกกาบาตขนาดยักษ์ หรือดาวดวงอื่นพุ่งชนโลก, ปรากฏการณ์น้ำท่วมโลก, ผลกระทบจากดวงอาทิตย์ ฯลฯ มีสื่อต่างๆและภาพยนตร์มากมายหลายเรื่องที่จับเอาวันสิ้นโลกมานำเสนอ แตกต่างกันไปในแต่ละมุมมองของผู้สร้าง เร็วๆนี้จะมีภาพยนตร์เรื่อง “World War Z-มหาวิบัติสงคราม Z”

ที่สร้างจากนิยายสยองขวัญชื่อดัง ที่เอาเรื่องของเชื้อโรคลึกลับมาเป็นประเด็นวันสิ้นโลก เชื้อโรคลึกลับไม่ทราบที่มาชนิดนี้แพร่กระจายได้ผ่านการโดนกัดเพียงครั้งเดียว และเปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นสิ่งมีชีวิตดุร้าย ที่ไม่มีความรู้สึกรับรู้ ไม่มีความคิด จดจำอดีตไม่ได้ เมื่อเชื้อโรคนี้ระบาดไปทั่วโลก จำนวนคนตายเพิ่มจำนวนมหาศาลในเวลาอันรวดเร็ว จนเกือบจะหมดโลก แม้แต่กองทัพก็พ่ายแพ้ย่อยยับ หลายรัฐบาลต้องล่มสลาย วิธียุติการแพร่ระบาดมีหนทางเดียวคือต้องค้นหาที่มาของเชื้อโรคให้ได้เท่านั้น!

วันสิ้นโลกนั้นจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ มนุษยชาติจะดับสูญไปด้วยสาเหตุใด เป็นปริศนาที่ยากจะคลี่คลาย เป็นคำถามที่ยังไร้คำตอบ เสมือนละครที่ยังไร้ฉากจบปิดท้าย  ได้แต่ค้นหาและติดตามกันต่อไป...จนกว่าวันนั้นจะมาถึง.


โดย...ลุงดำ
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/column/life/sundayspecial/349918
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: วันสิ้นโลก จุดจบที่ยังไร้ตอนจบ
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: มิถุนายน 16, 2013, 09:18:01 am »
0
 :c017: :c017: :c017:
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ