พิมพ์

[raponsan]

เคล็ด 'หนุ่มสาวออฟฟิศ' ห่างไกลกล้ามเนื้อปวดล้า

สาวและหนุ่มที่ใช้ชีวิตส่วนใหญ่ในสำนักงาน หากคิดว่าแค่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์แล้วเกิดอาการปวดล้าบริเวณต้นคอ หลัง ไหล่ หรือข้อนิ้ว ข้อมือเป็นเรื่องธรรมดาละก็อาจต้องคิดใหม่ เพราะนั่นอาจเข้าข่ายอาการที่เรียกว่า WMSDs Work-Related Musculoskeletal Disorders หรืออาการกล้ามเนื้อปวดล้าจากการทำงาน ซึ่งไม่ใช่เรื่องธรรมดาอีกต่อไป

นพ.ภรชัย อังสุโวทัย รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ ศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกระดูกและข้อ โรงพยาบาลนครธน กล่าวในงานให้ความรู้เชิงวิชาการ เรื่อง "ห่างไกลกล้ามเนื้อปวดล้าจาก WMSDs เพื่อสุขภาพที่ดีของหนุ่มสาวออฟฟิศ" จัดโดยบริษัท อังกฤษตรางู (แอล.พี.) จำกัด ร่วมกับโรงพยา บาลนครธนว่า โรคนี้ส่วนใหญ่มาจากการทำงานในท่าเดิมๆ ซ้ำไปซ้ำมา เป็นเวลานาน กลุ่มที่มาพบแพทย์บ่อยที่สุดจะเป็นผู้หญิง เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะทำงานอยู่แต่ในออฟฟิศ และอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา หนำซ้ำยังนั่งทำงานด้วยท่าเดิมๆ

"ผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยงอีกก็เช่นคนทำงานในแผนกต้อนรับที่จะต้องยืนอยู่ที่เดิมตลอดเวลา แผนกแคชเชียร์ที่ต้องเอื้อมมือหยิบของ และกดเงินซ้ำๆ เมื่อใช้งานบริเวณกล้ามเนื้อนั้นซ้ำ มากๆ ก็เกิดอาการกล้ามเนื้อปวดล้าจากการทำงาน"

 

สิ่งแวดล้อมก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย เช่น การทำงานในสถานที่คับแคบ หรือโต๊ะทำงานอยู่ในระดับที่ไม่เหมาะสมกับร่างกาย อุณหภูมิ และแสงสว่างในห้องไม่เหมาะสม อีกอย่างคือความเครียดซึ่งส่งผลทำให้กล้ามเนื้อหดตัว เกร็งตัว เกิดอาการเจ็บขึ้นมา

ในประเทศไทย เงินกองทุนประกันสังคมที่ใช้ไปกับการรักษาอาการนี้อยู่ในอันดับ 3-4 รองจากโรคอื่นๆ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ไม่ค่อยตรงกับข้อมูลจริงนัก เพราะคนไทยไม่ค่อยไปพบแพทย์ มักซื้อยารักษาตัวเอง รอจนอาการหนักจริงๆ ค่อยไป จึงไม่สามารถเก็บตัวเลขที่แท้จริงได้

นพ.ภรชัยแนะวิธีป้องกันว่า ควรจัดการที่ 3 ปัจจัยหลัก คือ
    1.ด้านเครื่องมือ ควรออกแบบเครื่องมือ เครื่องจักร รวมถึงการออกแบบลักษณะและวิธีการทำงานให้เหมาะสมและสะดวกกับผู้ใช้ให้มากที่สุด
    2.ด้านมนุษย์ ควรปรับเปลี่ยนลักษณะท่าทางการทำงานให้ถูกวิธี เพื่อไม่ให้กล้ามเนื้อล้า ฝึกยืดกล้ามเนื้อ เพิ่มพลังกล้ามเนื้อ ผ่อนคลายความเครียด และรู้จักช่วงเวลาพัก และ
    3. ด้านสิ่งแวดล้อมในการทำงาน ขนาดของห้องทำงาน แสงสว่างภายในห้อง ระดับความดังของเสียงบริเวณที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งอุณหภูมิห้อง ควรจัดให้เหมาะสม

ในด้านการรักษานั้น กรณีเพิ่งเกิดอาการปวดกล้ามเนื้อแบบเฉียบพลัน สามารถใช้ยาทาที่มีส่วนผสมของยาในกลุ่มต้านการอักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตีย รอยด์ เช่น ไดโคลฟีแนก เพื่อคลายอาการปวดและอักเสบของกระดูกและกล้ามเนื้อ
     หากปวดมากสามารถใช้ยาทาควบคู่กับยาชนิดรับประทานได้
     แต่ไม่ควรรับประทานยาในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานาน
     เพราะยามีผลระคายเคืองกระเพาะอาหาร หรือใช้ยาทาประกอบกับการรักษาโดยกายภาพบำบัด
     ที่สำคัญที่สุดคือการรักษาด้วยการปรับลักษณะท่าทางให้เหมาะสมในการทำงาน
     เพื่อป้องกันอาการปวด หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบปรึกษาแพทย์

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROc1lXUXdNakE0TURjMU5nPT0=&sectionid=TURNeE5BPT0=&day=TWpBeE15MHdOeTB3T0E9PQ==

[kobyamkala]

http://www.youtube.com/watch?v=PTxROkN5Umc

มนุษย์เงินเดือนต้องดู ก็มันโดนอ่ะ