ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พบชิ้นส่วนวัดพร้อมกรุสมัยศตวรรษ 23 โผล่ดอยม่อนธาตุ จ.เชียงราย  (อ่าน 1625 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29398
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พบชิ้นส่วนวัดพร้อมกรุสมัยศตวรรษ 23 โผล่ดอยม่อนธาตุ จ.เชียงราย

ชาวบ้านเข้าพัฒนาเนินดิน ของหมู่บ้านทุ่งยาว ต.แม่ข้าวต้ม จ.เชียงราย ก่อนพบกรุพระแตกจำนวนมาก แถมยังมีชิ้นส่วนของวัดเก่าอีก อาทิ ช่อฟ้าใบระกา เงินเบี้ย เม็ดแก้ว เผยเป็นดอยม่อนธาตุ อยู่ในพุทธศตวรรษที่ 23


เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ผู้สื่อข่าวได้ไปตรวจสอบที่เนินสูงท้ายหมู่บ้านทุ่งยาว หมู่ 2 ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมือง จ.เชียงราย ภายหลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า ได้เข้าไปพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวแล้วพบวัตถุโบราณจำนวนมาก เมื่อไปถึงพบว่าเนินสูงดังกล่าวมีทุ่งนาอยู่รายล้อมมีชื่อเรียกว่าดอยม่อนธาตุ ตามประวัติทราบว่าเป็นวัดเก่าและมีชาวบ้านเข้าไปครอบครองทำไร่ทำสวน

แต่เจ้าของล้มป่วยลงจึงนำไปบริจาคให้กับเจ้าคณะตำบลแม่ข้าวต้ม ต.แม่ข้าวต้ม เขต 1 และพระอธิการอินเลื่อน จักะวโร เจ้าคณะได้พิจารณาให้เป็นสำนักปฎิบัติธรรม จนกระทั่งวันนี้ได้มีพระสงฆ์และชาวบ้านได้ร่วมกันมาพัฒนาพื้นที่พบว่า ตรงยอดดอยม่อนธาตุมีพื้นที่ประมาณ 7 ไร่เคยเป็นที่ตั้งของโบราณสถาน คาดว่าจะเป็นวัด เพราะสิ่งที่พบประกอบไปด้วยฐาน รูเสา และวัตถุต่างๆที่พอขุดลึกลงไปพบว่ามีมากขึ้นเรื่อยๆ อาทิเช่น อิฐโบราณที่ใช้ก่อสร้าง แผ่นโละเป็นเสียม มีด ฯลฯ




ที่สำคัญพบโครงสร้างของวิหารโบราณเป็นใบระกา ชิ้นส่วนช่อฟ้า หลังคากระเบื้องเคลือบ ส่วนประดับที่เป็นลวดลายต่างๆ ของวิหารวัดนับร้อยชิ้น รวมทั้งยังพบพระพุทธรูปที่สร้างด้วยแผ่นขนาดยาวประมาณ 3 นิ้ว กว้างประมาณ 1.50 นิ้วซึ่งมีทองคำระยิบระยับเมื่อส่องด้วยกล้องระยะใกล้
     นอกจากนี้ยังพระองค์เล็กๆ ในลักษณะเดียวกัน เงินเบี้ย เม็ดแก้วซึ่งมีแสงและเหมือนรักษาก้อนเล็กอีกก้อนภายในของเหลวที่อยู่ภายใน 1 ก้อน ฯลฯ ซึ่งลวดลายในโบราณวัตถุดังกล่าวชาวบ้านและพระเณรระบุว่าไม่เคยพบเห็นในพื้นที่มาก่อน 

ขณะเดียวกันวัดดังกล่าวก็ไม่เคยมีผู้ใดที่ทราบชื่อเสียงเรียงนามมาก่อน แม้จะเป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่มีอายุมากแล้วก็ตาม โดยส่วนใหญ่ระบุว่าพบเห็นวัดร้างที่มีแต่ฐานในป่าละเมาะดังกล่าวมาหลายชั่วอายุคนแล้ว ทำให้ไม่สามารถสันนิษฐานที่มาได้


 :25: :25: :25:

โดย นายชูวิทย์ จันทร์คำ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งยาว กล่าวว่า ที่ดินรอบดอยม่อนธาตุมีผู้เข้าไปจับจองถือครองเพื่อทำการเกษตรและอื่นๆ กันเกือบทั้งหมด ต่อมาดอยม่อนธาตุก็ได้ถูกจับจองโดยเป็นของนายชัชวาลย์ สอนดี ซึ่งได้ทำการเกษตรโดยรอบเช่นกัน แต่หลังจากถือครองที่ดินดอยม่อนธาตุแล้วก็มีอาการเจ็บป่วยและได้บริจาคที่แห่งนี้ให้กับคณะสงฆ์ ต.แม่ข้าวต้ม

ซึ่งคณะสงฆ์ก็ได้แจ้งให้ชาวบ้านว่า จะพัฒนาเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งชาวบ้านก็เห็นว่ามีความสมควรอย่างยิ่งเพราะสงบและมีโบราณสถานตั้งอยู่ ทั้งนี้การจะปรับพื้นที่ที่เป็นฐานของวัดเก่าแก่ให้ทราบขอบเขตของฐานที่ชัดเจนและปรับด้านบนเอาดินและวัชพืชต่างๆ ออกเท่านั้น คงจะไม่ขุดลึกลงไปอีก จากนั้นมีโครงการจะสร้างพระธาตุขึ้นใกล้เคียงกันกัน ส่วนโบราณวัตถุต่างๆ ที่ขุดพบก็จะเก็บรักษาเอาไว้อย่างดีเพื่อให้คนได้ศึกษา




ด้าน น.ส.ฉัตรลดา สินธุสอน หัวหน้าพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงแสน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นจากภาพถ่าย ลักษณะเป็นเนินโบราณสถาน พบเครื่องประดับสถาปัตยกรรม เช่น ชิ้นส่วนใบระกาทำจากดินเผา ที่หลุดจากเครื่องบนหลังคา เคยพบลักษณะการตกแต่งโครงสร้างหลังคา ในสถาปัตยกรรมสุโขทัย และสถาปัตยกรรมของชาวไทเขิน ในเมืองเชียงตุง และชิ้นส่วนของอาคารจำลองที่มีลักษณะของพญาธาตุ เครื่องมือเหล็กที่เป็นเครื่องใช้ในการเกษตร เป็นต้น

จากลักษณะสิ่งของที่พบ สันนิษฐานว่าโบราณสถานแห่งนี้มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ 23-24
แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการขุดหาสิ่งของโดยชาวบ้าน ทำให้การเก็บหลักฐานทางวิชาการโบราณคดีของท้องที่เสียหาย จึงจะประสานทางพื้นที่ให้ระงับการขุด และจะแจ้งให้สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ ทราบ เพื่อเข้ามาสำรวจและดำเนินการต่อไป.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.dailynews.co.th/thailand/217893
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kobyamkala

  • โยคาวจรผล
  • ******
  • ผลบุญ: +5/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: หญิง
  • กระทู้: 2236
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
0
ผืนแผ่นดินไทย เรานี้ บรรพบุรุษ ยังฝังสิ่งของมีค่า ทางจิตใจ ให้แก่ลูกหลาน มาก สาธุ

 :58: st12 st12 st12
บันทึกการเข้า
แล้วลองแอบมาแย้มกะลา
เพื่อดูโลก เห็นแล้วตกใจโลกนี้กว้างใหญ่จริง ๆ