ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รัชกาลที่ 5 เคยทอดพระเนตรเห็น "พระพุทธรูปยิ้มได้"  (อ่าน 2172 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29432
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระพุทธรูปยิ้มได้

ใครเคยเห็นพระพุทธรูปยิ้มได้บ้างครับ คิดว่าคงแทบจะไม่มีเลยนะครับ ถึงจะมีก็คงมีน้อยมากเหลือเกิน  เพราะแสนจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ยิ่งในยุคสมัยไอทีแบบนี้เเล้ว พูดไปก็เหมือนเล่านิทานหลอกเด็ก แต่ใครจะเชื่อบ้างหรือไม่ครับว่า รัชกาลที่ 5 หรือพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ท่านเคยทอดพระเนตรเห็นพระพุทธรูปยิ้มได้มาแล้ว และไม่ใช่เห็นหนเดียวด้วยนะครับ แต่เห็นหลายครั้งหลายหนด้วย จนถึงกับมีพระราชกระแสรับสั่งเอาไว้เป็นหลักฐานเลยทีเดียว

เรื่องมีอยู่ว่ารัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินไปที่วัดระฆังโฆสิตารามหลายครั้ง ในรัชกาลของพระองค์ และได้ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ดูแลเป็นพระธุระเอาพระทัยใส่ในวัดนี้เสมอมา ด้วยเป็นวัดที่เก่าแก่ มีมาแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และต่อมาในสมัยกรุงธนบุรี ราว พ.ศ.2312 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชก็ได้ทรงบูรณะขึ้นใหม่ทั้งหมด และยกเป็นวัดหลวง

จากนั้นจึงได้ถวายให้เป็นวัดที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชสี ซึ่งถือว่าเป็นสมเด็จพระสังฆราชพระองค์แรกของกรุงธนบุรี ทั้งยังเคยทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ อาจารย์ของทั้งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชมาก่อนแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา และจัดการสังคายนาพระไตรปิฎกขึ้นใหม่ เนื่องจากเมื่อครั้งกรุงแตกนั้นตำรับตำรา พระไตรปิฎกต่างๆ กระจัดกระจายหายสูญไปหมดสิ้น


 :welcome: :welcome: :welcome:

ในครั้งต้นแผ่นดินพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งยังทรงดำรงพระยศเป็นสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ก็ได้ทรงยกบ้านของตนเอง อันประกอบด้วยเรือนนอนและหอนั่ง รื้อออกไปปลูกถวายเป็นพุทธบูชาแก่วัดนี้  ซึ่งในครั้งกระนั้นยังเรียกนามตามเดิมว่า วัดบางหว้าใหญ่

ครั้นเมื่อขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ สถาปนาพระบรมราชวงศ์จักรีและกรุงรัตนโกสินทร์ในปีพ.ศ.2325 แล้ว  ก็ได้เอาพระทัยใส่ทอดพระเนตรดูแล และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้บูรณปฏิสังขรณ์เป็นการใหญ่ โปรดฯให้ย้ายเรือนที่รื้อไปปลูกถวายเป็นพุทธบูชา มาปลูกเป็นหอพระไตรปิฎกกลางสระน้ำที่ทรงโปรดฯให้ขุดขึ้นใหม่

จากนั้นก็ได้ทรงบูรณะหรืออาจเรียกว่าสร้างใหม่เลยก็ได้สำหรับพระอุโบสถ ได้ทรงบูรณะพระพุทธรูปประธานอันเป็นของโบราณดั้งเดิมด้วย และทรงโปรดปรานพระพุทธรูปองค์นี้มาก จนถึงกับทรงมีพระบรมราชโองการไว้ว่า หากเสด็จสวรรคตและถวายพระเพลิงพระบรมศพแล้ว ขอให้อัญเชิญนพปฎลมหาเศวตฉัตรที่กางกั้นเหนือยอดพระเมรุมาศกลางท้องสนามหลวงมากางกั้นถวายเหนือพระเศียรของพระพุทธรูปประธานองค์นี้ด้วย


 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

อาศัยเหตุดังกล่าว จึงเป็นปัจจัยให้พระมหากษัตริย์ทุกรัชกาล ทรงทำนุบำรุงพระอารามแห่งนี้อย่างต่อเนื่องเสมอมา และในครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จไปถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อได้เสด็จพระราชดำเนินเข้าในพระอุโบสถแล้ว ก็ได้ทรงหันไปมีพระราชดำรัสแก่ผู้เข้าเฝ้าฯ ใกล้ชิดว่า

   "......ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆัง พอเข้าประตูโบสถ์มาทีไร พระประธานก็ยิ้มรับฟ้าทุกที...."

ด้วยเหตุนี้จึงทรงถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์นพรัตนราชวราภรณ์ และมหาปรมาภรณ์ ช้างเผือกแด่พระประธานองค์นี้เป็นพิเศษ และพระประธานองค์นี้ก็ได้นามว่า "พระประธานยิ้มรับฟ้า" ตั้งแต่นั้นมา

ถือได้ว่าพระพุทธรูปประธานองค์นี้เป็นพระพุทธรูปเพียงองค์เดียวของประเทศไทยที่ได้รับถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ถึง 2 ตระกูลด้วยกัน นี่คือที่มาของพระพุทธรูปยิ้มได้ตามที่จั่วหัวเรื่องเอาไว้ครับ

เผ่าทอง ทองเจือ


ขอบคุณบทความและภาพจาก
http://www.thairath.co.th/content/edu/360914
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29432
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
Re: รัชกาลที่ 5 เคยทอดพระเนตรเห็น "พระพุทธรูปยิ้มได้"
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2013, 08:44:29 am »
0

พระประธานของวัดระฆังโฆสิตาราม

พระประธานยิ้มรับฟ้า

พระประธานของวัดระฆังโฆสิตาราม เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ วัสดุเนื้อทองสำริดลงรักปิดทอง หน้าตักกว้างประมาณ 4 ศอก ศิลปะสมัยรัตนโกสินทร์ เบื้องพระพักตร์มีรูปพระสาวก 3 องค์ นั่งประนมมือดุจรับพระพุทธโอวาท กั้นด้วยเศวตฉัตร 9 ชั้น เดิมเป็นฉัตรกั้นพระเมรุของรัชกาลที่ 1 ซึ่งพระองค์ทรงขอให้นำไปถวายพระประธานวัดระฆังฯ เมื่อ พ.ศ.2352

ต่อมารัชกาลที่ 6 ทรงเปลี่ยนเศวตฉัตรจากผ้าตาดขาว มาเป็นผ้าขาวลายฉลุปิดทอง โดยใช้โครงของเก่า และมีการเปลี่ยนผ้าอีกครั้งใน พ.ศ.2504 โดยรัชกาลปัจจุบัน

พระประธานของวัดระฆังโฆสิตาราม องค์นี้ได้รับการยกย่องว่างดงามมาก มีเรื่องเล่าขานสืบมาว่า ครั้งหนึ่ง พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินบำเพ็ญกุศลถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดระฆังโฆสิตาราม ได้ทรงมีพระราชกระแสรับสั่งว่า
   "ไปวัดไหนไม่เหมือนมาวัดระฆังฯ พอเข้าประตูโบสถ์ พระประธานยิ้มรับฟ้าทุกที"


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก
http://bangkoknoitour.blogspot.com/2011/05/blog-post.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

ธัมมะวังโส

  • ธัมมะวังโส
  • ผู้บริหารเว็บ
  • โยคาวจรผล
  • *
  • ผลบุญ: +180/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 7294
  • Respect: +6
    • ดูรายละเอียด
    • เว็บไซต์
Re: รัชกาลที่ 5 เคยทอดพระเนตรเห็น "พระพุทธรูปยิ้มได้"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: สิงหาคม 06, 2013, 11:01:36 am »
0
 st11 st12
บันทึกการเข้า
เว ทา สา กุ กุ สา ทา เว ทา ยะ สา ตะ ตะ สา ยะ ทา สา สา ทิ กุ กุ ทิ สา สา กุ ตะ กุ ภู ภู กุ ตะ กุ