พระครูวิจิตรธรรมโชตินี่อยู่วัดไหนครับ?
แล้ว ทำไมพระครูวิจิตรฯ ยังไม่ได้ขั้นสมเด็จซะทีครับ เห็นเป็นพระครูมาสิบกว่าปีแล้ว
ตามนี้ครับ.
จาก : เอี่ยว - 12/11/2004 00:15 เก็บกระทู้นี้ ไว้ในที่ส่วนตัวของคุณ
จากพระครู ยังมีอีกตั้งหลายขั้นกว่าจะถึงสมเด็จ อะ
ขึ้นเป็น เจ้าคุณก่อนอะ
แบบพระราชาคณะ ชั้นสามัญ
แบบพระราชาคณะ ชั้นราช
แบบพระราชาคณะ ชั้นเทพ
แบบพระราชาคณะ ชั้นพรหม
แบบพระราชาคณะ ชั้นธรรม
แล้วก็อะไรอีกไม่รุอะ
แถมต้องมีเส้นสายกำลังภายในอีกเพียบฮะ 55
แต่อย่างพระดังๆ บางรูปในหลวงก็มีทางด่วนให้นะ
แบบ หลวงพ่อคูณ ได้รับพระราชทานข้ามมาเป็น พระราชาคณะชั้นเทพ (พระเทพวิทยาคม) ได้เลยก็มี
จาก : เธอสวย - รุ่น : 118 - 13/11/2004 10:49
พระที่ปฏิบัติดี ปฎิบัติชอบจริงๆ
+
+
+
ผมว่าท่านไม่ต้องการสมณศักดิ์หรอกครับ
++++
^^
จาก : chaum119 - 17/11/2004 02:13
ไม่เชื่อ
จาก : แนน - รุ่น : 12 - 02/02/2008 10:02
ห้ามส่งจดหมายมาอีก
จาก : มยุ - รุ่น : 00 - 02/02/2008 10:03
เดี๋ยวนี้เลิกส่งจดหมายรึยัง...ใครส่งกันอ่ะ
จาก : งง - 20/02/2008 14:15
มีอีกแล้ว วันนี้เลย ใครทำให้คนอื่นเป็นทุกข์ ไม่ว่าจะกาย หรือใจ
ผู้นั้นถือว่าได้บาปนัก ยิ่งส่งมาก ทำให้คนเป็นทุกข์ใจมาก ก็รับบาปไปมากๆ นะครับ
ตายไปรับรองเป็นเปรต แน่ๆ เพราะเอาชื่อพระเจ้ามาอ้าง(มีจริงหรือไม่ก็ตาม)
พระที่ดีเขาไม่ทำอย่างนี้ ขอบอก
สาธุ ๆ ๆ อนุโมทามิ
จาก : งง กว่าอีก - 08/05/2008 10:53
วันนี้เราได้จดหมายด้วยเรากลัวมากไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่าหรือว่าใครเอามาล้อ เล่นกันน่ะทำให้คนอื่นเป็นทุกข์มากให้ส่งต่อไปตั้ง 29 ฉบับถ้าไม่ทำตามจะต้องตายแล้วถ้าเป็นบทความของท่านพระครูวิจิตรจริงท่านคง ไม่สาปแช่งผู้คนแบบนี้หลอกน่ะ
ใครได้เหมือนกับเราช่วยบอกหน่อยซีว่าจดหมายแบบนี้ใครเป็นคนส่งมา
จาก : นัดดา - 30/05/2008 14:34
พระ***อะไรมาแช่งคนให้ตายโหง โรคจิต
จาก : ฟ - E-mail or MSN : ฟ - รุ่น : ฟ - 12/08/2008 19:11
พระอาจโดนคนโลกจิตบางคนใส่ชื่อแล้วทำให้ศาสนาเสื่อมเสีย
ยังไงก็กรรมไครกรรมมัน
ส่วนจดหมายที่ว่าหากเป็นพระทำก็กรรมไป
คนไทยเราก็เงี้ยไม่หลบหลู่ส่งๆไปก็จบ
เขาเรียกว่าเป็นการป้องกันตัวจากอะไรไม่รู้ป้องกันไว้ก่อน
ส่วนไครไม่เชื่อก็อย่าไปคึดให้ปวดหัว
ผมเป็นอีกคนที่ไม่ชอบจดหมายลูกโซ่แล้วผมก็ทำเป็นอ่านแล้วถอนหายใจ
จากนั้นผมก็ลบทิ้งไม่ส่งต่อ.........ถ้าไครไม่อยากให้จดหมายแพร่ไปก็มาทำแบบผมกันดีกว่า..........ลบแล้วจบ
ไม่มีการส่งต่ออย่างน้อยคนที่ผมรู้จักก็ไม่ได้รับมันและไม่ได้ส่งต่อ
ตัดปัญหาครับ...........
จาก : หมอน้ำ - 18/08/2008 15:50
พระครูวิจิตรธรรมโชติ เป็นตำแหน่งที่ถ้า องค์ก่อนตาย
พระรูปใหม่ก็มาได้ตำแหน่งนี้ได้
รูปในจดหมาย ลูกโซ่ คงตายไปแล้วหละครับ
อาจจะมีคนแอบอ้างแล้วเขียนมั่วไป
เพราะรูปปัจจุบันมีข้อมูลและตัวตนดังนี้
นี่คือเวบของพระครูวิจิตรธรรมโชติ รูปปัจจุบัน
วัดคฤหบดี ถนนจรัญสนิทวงศ์ 44 เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 โทร.883-5279 E-mail :
buddhasawok@yahoo.com http://se-ed.net/sasana/web/webowner.html ภูมิลำเนาและการเรียนรู้
เดิมชื่อ สามารถ ชื่อสกุล ร่อนทอง ชื่อ"พระครูวิจิตรธรรมโชติ"เป็นราชทินนาม เกิดเมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2498 ที่ตำบลงอบ อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน ในครอบครัวชาวนาทำการเกษตร มีพี่น้องด้วยกัน 10 คน เป็นคนที่ 2 ของครอบครัว
2505 เข้าเรียนชั้นประถมต้นจนจบชั้นประถมปีที่ 4 (ชั้นสูงสุดของโรงเรียนในสมัยนั้น)
2510 บรรพชาเป็นสามเณรเพื่อการศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัยตามวิสัยของเยาวชนคน ชนบท ถ้าเป็นผู้มีอันจะกินหน่อยก็ดำเนินวิถีชีวิตไปตามครอบครัว เช่น พ่อแม่หรือพี่ ๆ เป็นข้าราชการก็เข้าศึกษาต่อเพื่อดำเนินไปตามนั้น ถ้าเป็นนักค้าขายก็ดำเนินไปตามนั้น แต่ด้วยเหตุที่ครอบครัวไม่ร่ำรวยและก็ไม่ถึงกับยากจน ด้วยมีจิตใจอยากเข้าไปสัมผัสรสแห่งพระธรรม จึงต้องทำนาชีวิตโดยการบวชเณร ผิดกับเพื่อน ๆ อีกหลายคน
2512 ได้ย้ายจากวัดเดิมคือวัดศรีดอนชัย ตำบลงอบ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่านไปอาศัยอยู่ที่วัดราษฏร์บำรุง อำเภอท่าช้าง เพื่อเสริมสร้างสถานภาพด้วยการค้นคว้าหาความรู้ โดยเข้าศึกษาต่อชั้นประถมปีที่ 5-7 จากนั้นก็ศึกษาต่อโรงเรียนการศึกษาผู้ใหญ่ ชั้น ม.3 เป็นรุ่นที่ 1 (จบประมาณ 5 รูป) เพื่อน ๆ ออกไปทำงานธนาคารบ้าง ครูบ้าง ที่ดินจังหวัดบ้าง
2516 ได้รับการสนับสนุนจากอาจารย์พระครูประภาภรณ์พิทักษ์ อดีตเจ้าคณะอำเภอท่า อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฏร์บำรุง ซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ ชวนเข้ากรุงเทพมหานคร เมืองแห่งเทวดา เมืองแห่งแสงสี จำได้ดีถึงการเดินทางโดยรถยนต์โดยสารจากในเมืองน่านมาลงที่อำเภอเด่นชัย จังหวัดแพร่ เพื่อขึ้นรถไฟที่นั้นแล้วเข้ากรุงเทพฯ มาลงที่หัวลำโพง เมื่อถึงกรุงเทพฯ ได้พักอยู่ที่วัดเบญจมบพิตรชั่วคราวก่อน แล้วไปขออาศัยอยู่ที่วัดสังเวชย์วิศยาราม บางลำพู
2521 หลังจากที่สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยคแล้ว ได้ไปสมัครเพื่อสอบเข้าเรียนบาลีเตรียมอุดมศึกษา มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5-6 จากนั้นเรียนต่อชั้นอุดมศึกษา ปีที่ 1-4 ในคณะมานุษยสงเคราะห์ศาสตร์ (2523-2526) จบ พธ.บ.รุ่น 30/26 แล้วทำงานให้มหาวิทยาลัยอีก 1 ปี (2527)
2528 กลางปีได้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัย Poona ประเทศอินเดีย ในสาขาบริหารรัฐกิจและการเมืองการปกครอง (Public Administration And Political Science) ถึงปี 2530 จึงจบระดับปริญญาโท (M.A.)
หน้าที่การงานภายในวัด (ในอดีต)
เคยเป็นเลขานุการสหภูมิน่าน
เคยเป็นเลขานุการเจ้าคณะเขตพระโขนง
เคยเป็นเลขานุการเจ้าคณะเขตบางพลัด (รูปที่ 1)
เคยเป็นรองอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิชาการ โรงเรียนพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์
บรรยาย/สอนศีลธรรมตามโรงเรียนต่าง ๆ
หน้าที่ภายในวัด (ปัจจุบัน)
เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสฝ่ายปกครอง
เป็นผู้ดูแลในส่วนผลประโยชน์ภายในวัด
ดูแลการต่าง ๆ เรื่องค่าน้ำ-ไฟในวัด
เป็นกรรมการดูแลกิจการฌาปนสถาน,การจอดรถภายในวัด
งานในวงวิชาการ (มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย)
2543-ปัจจุบัน ได้ทำงานเป็นอาจารย์บรรยายวิชาการทางรัฐศาสตร์
ที่คณะสังคมศาสตร์
เคยเป็นเลขานุการคณะสังคมศาสตร์
เคยเป็นหัวหน้าภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์
ปัจจุบันดำรงตำแหน่งคณบดี คณะสังคมศาสตร์ มจร.
อ่านต่อได้ที่นี่ คะ
http://board.dserver.org/s/suankularb/00003731.html