ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: เหตุใดการฝึกสมาธิ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค จึงระบุขั้นตอนต่างๆเอาไว้  (อ่าน 2822 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29347
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


เหตุใดการฝึกสมาธิ ในคัมภีร์วิสุทธิมรรค จึงระบุขั้นตอนต่างๆเอาไว้
(ชื่อบทความเดิม คือ พระพุทธศาสนาและสมาธิ)


 ask1 ask1 ask1

ศาสตราจารย์ไวโอเล็ต สังเกตเห็นว่า ในปัจจุบันชาวอเมริกันที่ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธสนใจการปฏิบัติสมาธิกันมาก แต่โดยเหตุที่บุคคลเหล่านี้ไม่ได้รับการสอนในเรื่องการปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนาเลย
     ศาสตราจารย์ไวโอเล็ต จึงสงสัยว่าการปฏิบัติสมาธิดังกล่าว จะให้ประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติหรือไม่
     เพราะได้อ่านหนังสือวิสุทธิมรรคแล้วเข้าใจว่า การปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนามีขั้นตอนต่างๆ ที่จะต้องเรียนรู้และฝึกฝนภายใต้การแนะนำของอาจารย์


 ans1 ans1 ans1

หลวงพ่ออธิบายว่า ที่จริงแล้วการปฏิบัติสมาธิมีอยู่ในคำสอนของทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็นศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม หรือศาสนาฮินดู ในสมัยพุทธกาล พวกฤาษีโยคีต่างๆ ปฏิบัติสมาธิตามความเชื่อในลัทธิของตนจนมีฤทธิ์เดชต่างๆ
    การปฏิบัติสมาธิจึงไม่ได้เป็นสิ่งที่มีอยู่ในคำสอนของพระพุทธศาสนาแต่อย่างเดียว
    ส่วนการปฏิบัติสมาธิจะมีผลอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับระดับของสมาธิที่ผู้ปฏิบัติทำได้
    โดยทั่วไปแล้วการปฏิบัติสมาธิ สามารถทำให้จิตใจของผู้ปฏิบัติสงบสว่างและมีปัญญาเกิดขึ้น
    และส่งผลให้ผู้นั้นสามารถทำกิจการต่างๆ สำเร็จตามความต้องการได้





การปฏิบัติสมาธิระดับสูง เช่นที่ฤาษีโยคีต่างๆ ปฏิบัติอยู่ในสมัยพุทธกาล สามารถทำให้เกิดจิตตานุภาพที่มีพลังแข็งแกร่งจนมีฤทธิ์เดช ผลของสมาธิตั้งแต่การมีจิตใจสงบไปจนถึงการมีจิตตานุภาพที่กล่าวมาเป็นผลทางโลกียะเท่านั้น เพราะเป็นประโยชน์ที่เสริมสร้างอำนาจให้แก่ตัวเอง

แต่ในพระพุทธศาสนา การปฏิบัติสมาธิมีเป้าหมายสูงกว่าประโยชน์ทางโลกียะ คือ มีเป้าหมายให้จิตของผู้ปฏิบัติหลุดพ้นจากอำนาจกิเลสตัณหาต่างๆ มีโลภ โกรธ หลง เป็นสำคัญ อันจะทำให้ไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏอีกต่อไป ประโยชน์ประเภทนี้เรียกว่า ประโยชน์ทางโลกุตระ


 :25: :25: :25:

โดยเหตุที่เป้าหมายการปฏิบัติสมาธิในพระพุทธศาสนาแตกต่างจากเป้าหมายที่มีอยู่ในศาสนาอื่น ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงเรียกสมาธิที่อยู่เหนือระดับความสงบ หรือ อิทธิฤทธิ์ และที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นว่า “วิปัสสนากรรมฐาน” เพราะเป็นการทำให้จิตใจสว่างด้วยแสงของปัญญา ที่เป็นผลจากการวิเคราะห์รูปและนามในลักษณะต่าง ๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนจนมองเห็นไตรลักษณ์ของสรรพสิ่งทั้งหลาย และ ดับ “อัตตา” ได้ในที่สุด

ans1 ans1 ans1

พระพุทธศาสนาไม่มีความประสงค์ให้เราพอใจแต่ประโยชน์ทางโลกียะที่ได้จากการปฏิบัติสมาธิ ไม่ว่าจะเป็นความสงบนิ่งของดวงจิต หรือ การมีจิตตานุภาพประเภทต่าง ๆ แต่ต้องการให้เราใช้ปัญญาที่เกิดจากสมาธิตัดตัวเราให้หลุดพันจากวัฏสงสาร
   ด้วยเหตุนี้ การปฏิบัติสมาธิ หรือ วิปัสสนากรรมฐาน จึงมีขั้นตอนต่างๆ
   ถ้าหากผู้ปฏิบัติไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ และไม่มีครูอาจารย์คอยแนะนำแล้ว
   ผู้ปฏิบัติก็อาจจะไปสามารถบรรลุเป้าหมายนี้ได้
ดังที่อธิบายในหนังสือ “วิสุทธิมรรค”


นอกจากนั้น การเป็นคนที่พากเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง มีคุณธรรมและรักษาศีลอย่างเคร่งครัดก็มีความสำคัญมาก เมื่อสมาธิมีคุณธรรมและศีลเป็นฐานแล้ว ปัญญาที่เกิดจากสมาธิก็จะมีทั้งพลังและทิศทางที่ถูกต้อง


บันทึกการสนทนาธรรมของ พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชสุทธิญาณมงคล (จรัญ ฐิตธมฺโม) กับ
ดร.เจอร์รัลด์ แมกเคนนี่ หัวหน้าภาควิชาศาสนศึกษามหาวิทยาลัยไรซ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา


ที่มา board.palungjit.org/f4/พระพุทธศาสนาและสมาธิ-507677.html โพสต์โดยคุณปาวา
ขอบคุณภาพจาก http://www.madchima.net/
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ