ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ประเวศ วะสี ส่งความปรารถนาดีถึงสวนโมกข์ยุคเปลี่ยนผ่าน  (อ่าน 1353 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


ประเวศ วะสี ส่งความปรารถนาดีถึงสวนโมกข์ยุคเปลี่ยนผ่าน

สวนโมกขพลาราม: มรดกทางธรรมของท่านอาจารย์พุทธทาสเพื่อเป็นพลังแห่งความหลุดพ้น ประเวศ วะสี

อย่างน้อยตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๗๕ ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสมองเห็นว่าโลกกำลังเข้าสู่วิกฤตการณ์ใหญ่เพราะลัทธิวัตถุนิยม สิ่งที่ท่านทำตลอดชีวิตคือการปรุง "โลกุตรโอสถ" ให้เป็นชุดยาสามัญประจำบ้าน เพื่อช่วยให้มนุษย์หลุดจากการถูกครอบงำด้วยอำนาจของวัตถุนิยม มาถึงปัจจุบันยิ่งปรากฏชัดว่าโลกกำลังวิกฤตทุกๆ ทางไปจนโลกทั้งใบร้อนขึ้น เพราะอำนาจของวัตถุนิยม

สวนโมกขพลาราม หรือสวนที่เป็นกำลังแห่งการหลุดพ้น (จากอำนาจวัตถุนิยม) ที่ท่านอาจารย์พุทธทาสมอบให้ไว้เป็นมรดกทางธรรมจึงยิ่งทวีความสำคัญยิ่งขึ้น ควรที่ชาวพุทธทั้งมวลจะร่วมกันรักษาไว้ให้เป็นเครื่องเตือนให้ระลึกถึงปณิธาน ๓ ข้อที่ท่านมอบให้ไว้ ในข้อ ๒ นั้น ขอให้มีการร่วมมือกันระหว่างศาสนา (เพื่อช่วยให้มนุษย์ถอนตัวออกจากวัตถุนิยม) แม้แต่ต่างศาสนาก็ควรร่วมมือกัน จะกล่าวไปใยถึงศาสนาเดียวกัน และในวัดเดียวกันคือสวนโมกขพลาราม


 ans1 ans1 ans1

เมื่อครั้งพุทธกาล พระสงฆ์ในกรุงโกสัมพีทะเลาะกันรุนแรงแบ่งเป็น ๒ ฝ่าย ขนาดพระพุทธองค์เสด็จไปห้ามยังไม่ฟัง ในที่สุดประชาชนเข้าไปจัดการ ทำให้พระสงฆ์หยุดทะเลาะกันได้ อุบาสกอุบาสิกาประชาชนที่มีความศรัทธาในปฏิปทาของท่านอาจารย์พุทธทาสและสวนโมกขพลารามจะเข้าไปจัดการยุติความขัดแย้งในวัดและยั้งให้เป็นไปตามปณิธานของท่านอาจารย์

ในครั้งพุทธกาล พระพุทธองค์และพระสงฆ์สาวกไม่ได้บริหารวัด แต่บริหารธรรม พระเจ้าพิมพิสารบริหารวัดเวฬุวัน อนาถบิณฑิกเศรษฐีบริหารวัดเชตวัน และนางวิสาขามหาอุบาสิกาบริหารวัดบุพนาราม เมื่อเจ้าชื่นสิโรราสอาราธนาท่านอาจารย์พุทธทาสไปครองวัดอุโมงค์เพื่อสอนชาวเชียงใหม่ และท่านอาจารย์พุทธทาสส่งท่านปัญญานันทะไปแทนนั้น เจ้าชื่นเป็นผู้บริหารวัด ท่านปัญญาบริหารธรรม


 :96: :96: :96:

ทุกวันนี้วัดโดยทั่วไปมีวัตถุมาก และเจ้าอาวาสต้องไปบริหารวัตถุเสียมากกว่าบริหารธรรม และโดยทั่วไปพระก็จัดการสู้ฆราวาสเก่งๆไม่ได้ ควรจะมีระบบที่คณะฆราวาสเก่งๆ เข้ามาช่วยบริหารวัด เพื่อแบ่งเบาภาระให้พระมีเวลาไปบริหารธรรมมากขึ้น วัดต้องเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน และชุมชนเข้ามามีบทบาทดูแลวัดและพระ ชุมชนต้องกำกับไม่ให้พระออกนอกลู่นอกทางธรรมด้วย ถ้าวัดแยกตัวออกจากชุมชนจะเกิดความเสื่อม ดังในปัจจุบัน

ในกรณีของสวนโมกข์ เมื่อมีความขัดแย้งกันรุนแรง ชุมชนก็ควรช่วยเข้ามากำกับดูแลให้เกิดความเรียบร้อย และเจริญในทางธรรม ตามหลักการและแนวทางที่ท่านอาจารย์พุทธทาสได้ทำไว้ ค่าของสวนโมกข์อยู่ที่โลกุตรโอสถ


ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี
ประธานมูลนิธิหอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๖

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1377879914&grpid=&catid=02&subcatid=0200
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
0
เป็นไปตามยุคตามสมัย แสดงว่าพระสงฆ์ที่สืบต่อปณิธาน หลวงพ่อพุทธทาส นั้นปัจจุบันหายาก ลงนะครับ

 :smiley_confused1: :s_hi:
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา