ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: ศิษย์แห่สรงน้ำศพหลวงปู่สุภา  (อ่าน 1515 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29345
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
ศิษย์แห่สรงน้ำศพหลวงปู่สุภา
« เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 06:49:25 am »
0


ศิษย์แห่สรงน้ำศพหลวงปู่สุภา


คณะศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศแห่สรงน้ำศพหลวงปู่สุภาเกจิ 5 แผ่นดิน

วันนี้( 3 ก.ย.)คณะศิษยานุศิษย์จากทั่วสารทิศแห่ร่วมพิธีสรงน้ำอาบศพ พระมงคลวิสุทธิ์ หรือหลวงปู่สุภา กันตสีโล อายุ  119 ปี 11 เดือน  15 วัน ซึ่งบรรดาศิษยานุศิษย์นับถือว่าเป็นอริยสงฆ์ 5 แผ่นดิน ได้ละสังขารด้วยอาการสงบ เมื่อเวลาประมาณ 05.00 น.เมื่อวันที่ 2 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะพักอยู่ภายในกุฎิวัดคอนสวรรค์ ต.ค้อเขียว อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร หลังจากที่ได้เข้ารับการรักษาตัวจากการอาพาธที่โรงพยาบาลสกลนคร มานานกว่า  3  เดือน โดยพิธีสรงน้ำหลวงอาบศพจะมีขึ้นเวลา 17.00 น.โดยนายบุญส่ง มณีสถิตย์ ผวจ.สกลนคร เป็นประธานพิธี
 
สำหรับประวัติพระมงคลวิสุทธิ์ หรือหลวงปู่สุภา  กันตสีโล เดิมชื่อ สุภา วงศ์ภาคำ  เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 17 ก.ย.2438 ณ บ้านบ่อคำ อ.วาริชภูมิ จ.สกลนคร โยมบิดาชื่อ ขุนพลภักดี ผู้ใหญ่บ้านคำบ่อ โยมมารดาชื่อ นางสอ วงศ์ภาคำ มีพี่น้องทั้งหมด 8 คนได้ บรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 8 ขวบ ชีวิตในบรรพชิตของท่านเกินกว่ากึ่งหนึ่งใช้ไปกับการธุดงค์ และบำเพ็ญธรรมตามป่าเขาลำเนาไพร เป็นเวลากว่า 45 ปี ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นไปเพื่อปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่อง วิชาความรู้ในปฏิปทาจากประสบการณ์ของท่านมีมากมาย ทั้งทางโลก และทางธรรม

 
 :welcome: :welcome: :welcome:

นอกจากนี้ในวัยหนุ่ม ท่านชอบเล่าเรียนศึกษา ได้ยินว่าที่ใดมีพระอาจารย์ผู้มีวิชาอาคม และวัตรปฏิบัติดี ท่านก็มักจะไปขอเล่าเรียนด้วย อาทิ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา หลวงพ่อทบ วัดชนแดน หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก ฯลฯ  ท่านออกธุดงค์จากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สู่ภาคเหนือ ภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันตก จนมาถึง จ.ภูเก็ต 

เนื่องจากในขณะที่หลวงปู่เจริญวิปัสสนากรรมฐานอยู่ในป่าในถ้ำบุหลันแดง เขาตะนาวศรี จ.กาญจนบุรี ได้มีเทพองค์หนึ่งมาบอกกับหลวงปู่ว่าได้รับบัญชาจากเทพเบื้องสูงให้มาแจ้งกับหลวงปู่ว่า มีชนกลุ่มหนึ่งที่ จ.ภูเก็ต ซึ่งไม่ได้นับถือศาสนาอะไรเลยมาเป็นพันๆ ปี มีแต่การกราบไหว้ผีสางนางไม้ วิญญาณต่างๆ ไม่มีผู้ใดที่สามารถเปลี่ยนจิตใจชนกลุ่มนี้ให้หันมานับถือศาสนาพุทธได้ มีแต่หลวงปู่รูปเดียวเท่านั้น ที่จะทำได้ จึงขอให้หลวงปู่เดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต หลวงปู่จึงได้เดินธุดงค์ตั้งแต่ปี 2500 ถึง จ.ภูเก็ต ปี 2501

 
ต่อมาหลวงปู่ได้พบกับฆราวาสจอมอาคม จากสำนักเขาอ้อ คือ อาจารย์ชุม ไชยคีรี และอาจารย์อุทัย ดุจศรีวัชร ซึ่งมีความศรัทธาในหลวงปู่มาก จึงให้การช่วยเหลือ โดยร่วมกันสร้างวัตถุมงคล "พระเสด็จกลับ" เพื่อนำปัจจัยสร้างวัดเกาะสิเหร่  ปัจจุบัน "พระเสด็จกลับ" เป็นที่นิยมของศิษยานุศิษย์อย่างกว้างขวาง และมีการเช่าบูชาในราคาแพง  เมื่อสร้างวัดเกาะสิเหร่สำเร็จแล้ว หลวงปู่สุภาได้ธุดงค์ขึ้นสู่ภาคเหนือ จนถึงค่ายทหารที่เขาค้อ สมัยที่ต้องต่อสู้กับพวก ผกค. หลวงปู่ได้พักอยู่ในค่ายทหาร  เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ตลอดจนสร้างเครื่องรางของขลัง ให้แก่บรรดาทหารหาญ ไว้คุ้มครองภัยโดยทั่วกัน
 
 :sign0144: :sign0144: :sign0144:

หลังจากนั้น ท่านได้ธุดงค์กลับบ้านเกิดที่ จ.สกลนคร และออกธุดงค์ไปตามที่ต่างๆ จนกระทั่งกลับไปสู่ จ.ภูเก็ต อีกครั้งหนึ่ง บรรดาลูกศิษย์ที่เคยรู้จักกันมาก่อนจึงได้นิมนต์ขอให้หลวงปู่อยู่กับที่ โดยได้สร้างสำนักสงฆ์เทพขจรจิต (ตามชื่อเจ้าของที่ดิน) ขึ้นที่เขารัง เพื่อให้หลวงปู่ได้พำนักตลอดไป  หลวงปู่ได้พัฒนาสำนักสงฆ์ จนได้ยกฐานะขึ้นเป็นวัดที่เจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ 

ต่อมาหลวงปู่ได้ดำริที่จะสร้างสถานปฏิบัติธรรม สำหรับแม่ชีที่มาบวชเรียน  แต่สถานที่ที่เขารังคับแคบมาก จึงต้องหาสถานที่ตั้งวัดแห่งใหม่ บนเนื้อที่ 38 ไร่ที่ ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต คือ วัดสิลสุภาราม ได้รับพระราชทานชื่อวัดจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ  วัดสิลสุภาราม มีความเจริญรุ่งเรืองในทุกด้าน โดยหลวงปู่ได้ทำหน้าที่สงเคราะห์ญาติโยมที่ได้รับความเดือดร้อน ไม่ว่าทางจิตใจ หรือแม้ผู้ที่ถูกคุณไสย ทั้งยังเป็นวิปัสสนาจารย์ อบรมสั่งสอนลูกศิษย์ในการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ทั้งพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ซึ่งมีอยู่มากมาย

 
 :25: :25: :25:

ทั้งนี้ต้นเดือนมี.ค.2555  ด้วยวัยที่ชราภาพมากขึ้นประกอบกับสุขภาพของหลวงปู่สุภาเริ่มที่จะไม่ค่อยที่จะแข็งแรง จึงต้องการที่จะกลับมาพักผ่อนที่จ.สกลนคร  ซึ่งเป็นบ้านเกิด โดยได้สั่งให้พระอาจารย์ดาและแม่ชีเปียหลานแท้ๆ เป็นผู้ที่ดูแลปรนนิบัติรับใช้ใกล้ชิดมายาวนานตลอดและเป็นผู้ที่หลวงปู่ไว้วางใจให้พาเดินทางจากหมู่ที่ 6 ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสอยู่ในขณะนั้น

วัดคอนสวรรค์แห่งนี้เป็นวัดหนี่ง ในจำนวน  39  วัด  ที่หลวงปู่ได้สร้างไว้ตลอดระยะเวลายาวนานในการครองเพศบรรพชิตเกินร้อยปีและที่วัดนี้ยังเป็นวัดบ้านเกิดอีกด้วย  ซึ่งหลวงปู่สุภา ถือคติธรรมที่ว่า "ถ้าเสียสัตย์ ก็เสียศีล เสียศีลแล้ว ธรรมก็ไม่บังเกิด" และ"ฆ่าจิตของเราให้มันตาย อย่าให้มีโกรธ อย่าให้โลภ อย่าให้มีหลง"


ขอบคุณภาพข่าวจาก
www.posttoday.com/กทม.-ภูมิภาค/ภาคอิสาน/244509/ศิษย์แห่สรงน้ำศพหลวงปู่สุภา
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

kittisak

  • โยคาวจรมรรค
  • *****
  • ผลบุญ: +42/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • เพศ: ชาย
  • กระทู้: 653
  • พุทธัง อะระหัง พุทโธ นะโมพุทธายะ นะมะพะทะ จะภะกะสะ
  • Respect: +1
    • ดูรายละเอียด
Re: ศิษย์แห่สรงน้ำศพหลวงปู่สุภา
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: กันยายน 04, 2013, 08:42:13 am »
0
วันนี้หลวงปู่ไปก่อน และพวกเราก็จะตามไป เป็นเที่ยงแท้
ผลงานที่หลวงปู่สร้าง ไว้ น่าอนุโมทนา กุศลในภาคปฏิบัติ ก็น่าชื่นชม ถ้าหลายท่านไม่ติดในวัตถุกันมากไป ผมว่าสาระธรรมที่หลวงปู่สอนนั้นไว้น่าจะมีค่ามากยิ่ง


 st11
บันทึกการเข้า
ความสุขอันเกิดจากการแบ่งปัน ดีกว่าความทุกข์ที่มีแต่จะเอา