« เมื่อ: กันยายน 28, 2013, 05:27:11 am »
0
'หญิงหน่อย'ชี้ ปัญหาละเมิดพระพุทธรูป ควรยกเป็นวาระแห่งชาติ
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข และประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย ชี้ปัญหาละเมิดพระพุทธรูป ต้องยกเป็นวาระแห่งชาติ เร่งปลูกจิตสำนึกประชาชน...
วันที่ 27 ก.ย. ที่รัฐสภา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ อดีต รมว.สาธารณสุข และประธานมูลนิธิไทยพึ่งไทย กล่าวในการสัมมนาเรื่อง “การป้องกันและแก้ไขการกระทำละเมิดต่อพระพุทธรูปและสัญลักษณ์ในทางพระพุทธศาสนา” ที่จัดโดยคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม วุฒิสภา ร่วมกับ 10 องค์กรพุทธศาสนา ว่า ทุกคนคงมองเห็นตรงกันว่า ปัญหาหนึ่ง คือ การออกกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย ที่ยังมีปัญหาอยู่ พระพุทธรูปถือเป็นสัญลักษณ์ที่บางคนก็มองว่าสำคัญ บางคนมองว่าไม่สำคัญ จนกระทั่งมีการถกเถียงกันระหว่างพระ 2 รูป
ทั้งนี้ ตนมองว่า พระพุทธรูปแม้จะเป็นวัตถุสร้างด้วยอิฐ หิน ดิน ทราย โลหะหรือทองคำ แต่องค์พระพุทธรูปมีคุณค่าเท่ากัน เพราะเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เรารำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระธรรมคำสั่งสอน ตนไม่สนับสนุนให้กราบไหว้พระพุทธรูปเพื่อขอพร โชคลาภ ถูกหวย เพราะเป็นความเชื่อที่ผิด การมีพระพุทธรูปถือเป็นกุศโลบายของพระอริยะสงฆ์ในอดีต

“พระพุทธรูปถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นพวก ความเป็นกลุ่มเป็นก้อน อย่างที่เราเรียกตัวเองว่า พวกเราชาวพุทธ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่ จะมาไล่แค่เรื่องกฎหมายและการบังคับใช้ เพราะมันไปไมได้ แนวทางแก้ไขอยากให้เริ่มที่การปลูกจิตสำนึก ต้องให้ความรู้ความเข้าใจพระพุทธศาสนา ที่ถูกต้องอย่างแท้จริงกับคนไทยและเยาวชน และต้องเป็นวาระแห่งชาติ จำเป็นต้องมีนโยบายที่ชัดเจนถึงเวลา หรือยังที่สังคมไทยจะเริ่ม
เราเห็นตัวอย่างชัดเจนจากความแตกแยกวันนี้ของสังคม อาจบอกว่ามาจากพวกที่นั่งอยู่ที่นี่ นักการเมืองที่นั่งอยู่ แต่ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็ง ไม่มีคุณธรรม เราก็เลยกลายเป็นเหยื่อของเกมอำนาจ ทำให้สังคมไทยแตกแยก อย่างที่ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ ซึ่งความแตกแยกครั้งนี้ จะแย่กว่าครั้งอื่น ไม่ใช่เฉพาะผู้ที่มีอำนาจจะแย่งอำนาจ แต่แตกแยกมาถึงตัวประชาชน เพราะการขาดความเข้าใจในคุณธรรมคำสอน ไม่มีอุเบกขา กรุณา และการให้อภัย อย่างที่สังคมเคยมีมาก่อน
กฎหมายมีความสำคัญ และมีหลายอย่างต้องแก้ โดยหลายหน่วยงาน ต้องร่วมกันไม่ใช่แค่สำนักพระพุทธศาสนา แค่หน่วยงานเดียว ต้องสังคายนากฎหมายที่เกี่ยวข้อง ถึงเวลาที่เราสังคมไทยต้องจริงจัง” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว.ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/pol/372472