ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: มหานรก 8 ขุม  (อ่าน 3217 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
มหานรก 8 ขุม
« เมื่อ: ตุลาคม 03, 2013, 10:04:19 am »
0

มหานรก 8 ขุม
คอลัมน์ รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com

ask1 น้าครับ นรกที่ว่ามี 8 ขุม มีอะไรบ้าง ขอคำอธิบายด้วยครับ ถามโดยเด็กดี

ans1 ตอบ เด็กดี นรกภูมิ หรือเรียกโดยย่อว่า นรก คือดินแดนหนึ่งซึ่งตามพุทธศาสนาเชื่อกันว่าผู้ทำบาปจะต้องไปเกิดและถูกลงโทษตามคำพิพากษาของมัจจุราช มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น นิรยะ ยมโลก มฤตยูโลก ฯลฯ

ทั้งนี้ ตามวรรณคดีที่ได้รับยกย่องเป็นหนึ่งในวรรณคดีพุทธศาสนาต้นแบบ คือ ไตรภูมิพระร่วง (หรือ เตภูมิกถา, ไตรภูมิกถา, ไตรภูมิโลกวินิจฉัย และเตภูมิโลกวินิจฉัย) ที่แต่งในสมัยสุโขทัย ประมาณ พ.ศ.1882 โดยพระราชดำริในพระยาลิไท รวบรวมจากคัมภีร์ใน พระพุทธศาสนา มีเนื้อหาเกี่ยวกับโลกสัณฐานที่แบ่งเป็น 3 ส่วน หรือไตรภูมิ จากทุกข์ไปหาสุข ได้แก่ กามภูมิ รูปภูมิ และอรูปภูมิ โดย นรกภูมิ เป็นดินแดนหนึ่งในกามภูมิ


 :96: :96: :96:

นรกภูมิ เป็นภูมิต่ำที่สุด ประกอบด้วย มหานรก 8 ขุม นรกบ่าว 128 ขุม และยมโลกนรก 320 ขุม ทั้งนี้ มหานรกมี 8 ขุม มีกำแพงเหล็กแดงลุกเป็นไฟอยู่เสมอล้อมเป็นสี่เหลี่ยม พื้นบนและพื้นล่างเป็นเหล็กแดงที่ลุกเป็นไฟ กำแพงทั้ง 4 ด้าน ยาวด้านละ 1,000 โยชน์ หนา 9 โยชน์ มีประตูเข้า 4 ประตู ส่วนพื้นบนและพื้นล่างมีความหนา 9 โยชน์ มหานรกทั้ง 8 มีดังนี้

    1. สัญชีวนรก (นรกแห่งการเกิดอีกหน หรือนรกที่ไม่มีวันตาย) นรกขุมนี้มีผนังทำจากเหล็กร้อนกั้นรอบด้าน มองไปไม่เห็นขอบ มีอาณาเขตไพศาลยิ่งนัก และทั่วบริเวณมีไฟลุกโชนหาที่ว่างเว้นมิได้เลย ในไฟนรกนี้ปรากฏอาวุธต่างๆ เช่น หอก ดาบ มีด สัตว์ในขุมนี้จะวิ่งพล่านอยู่บนไฟนรกดังกล่าว เมื่อวิ่งแล้วก็กระทบกับอาวุธเหล่านั้นได้รับบาดเจ็บเป็นนักหนา บ้างว่าถูกยมบาลจับนอนบนแผ่นเหล็กร้อนแดง และถูกยมบาลฟันร่างขาดเป็นท่อนๆ เฉือนเนื้อหนังจนเหลือแต่กระดูก เมื่อถึงแก่ชีวิตก็ดี หรืออวัยวะขาดไปก็ดี ร่างกายจะกลับมามีพลานามัยสมบูรณ์ คือลมกรรมพัดมาเพื่อให้รับโทษในขุมนี้จนกว่าจะสิ้นโทษ เป็นเวลาสี่พันห้าร้อยล้านปีมนุษย์ หรือห้าร้อยปีนรก

   2. กาฬสุตนรก (นรกด้ายดำ) สัตว์ในขุมนี้จะถูกตีเส้นบนเนื้อตัวโดยนายนิรยบาลด้วยการนำเส้นเหล็กเผาไฟมานาบเป็นลายบนตัว และจะถูกผ่า เลื่อย หรือตัดตามเส้นนั้น สัตว์นรกนี้ต้องรับโทษเป็นเวลาสามหมื่นหกพันล้านปีมนุษย์ หรือหนึ่งพันปีนรก บ้างว่าจะถูกยมบาลฟาดด้วยด้ายนรก ซึ่งมีขนาดและความแข็งเท่าเหล็กเส้นโตๆ เส้นหนึ่ง แล้วใช้เลื่อยนรกเลื่อยให้ขาดเป็นท่อนๆ ผู้ที่หนีจะถูกเหล็กนรกปลิวออกมาตัดร่างกาย แล้วลมกรรมจะพัดโชยให้ฟื้นคืนมารับโทษต่อจนครบเวลาสามหมื่นหกพันล้านปีมนุษย์ หรือหนึ่งพันปีนรก ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ชาติปางก่อนได้ทรมานสัตว์เล่นๆ ทำร้ายบุพการี อาจารย์ สมณะ หรือผู้มีพระคุณ

     :sign0144: :sign0144: :sign0144:

    3. สังฆาตนรก (นรกตีกระทบ หรือนรกบดขยี้สัตว์) นรกขุมนี้จะห้อมล้อมไปด้วยภูเขาเหล็กลูกมหึมา มีไฟลุกท่วมคอยกลิ้งเข้ากระทบกระแทกสัตว์นรกจนเหลวเป็นวุ้นเลือด ผู้วิ่งหนีมิเข้าไปในระหว่างเขานี้จะถูกนายนิรยบาลไล่แทงไล่ฟันเป็นต้น บ้างว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ ชาติก่อนได้กระทำทารุณสัตว์ ยมบาลจะผูกล่ามผู้อาศัยหลายๆ คนเข้าด้วยกัน และใช้ค้อนเหล็กยักษ์ทุบร่างกายจนแหลกไป เมื่อตายแล้วลมกรรมจะพัดให้ฟื้นมารับโทษตายจนครบเวลาสองแสนเก้าหมื่นล้านปีมนุษย์ หรือสองพันปีนรก

   4. โรรุวนรก (นรกแห่งเสียงหวีดร้อง) ใจกลางขุมมีเหล่าดอกบัวกลีบเป็นเหล็กมีไฟลุกโชน สัตว์นรกจะถูกกรรมดลใจให้ดำผุดลงไปในดอกบัวเหล่านั้น กลีบบัวก็จะงับอวัยวะต่างๆ เช่น ศีรษะ แขน ขา เมื่องับไว้แล้วก็ไม่ปล่อย ไฟจากบัวจะเผาผลาญสัตว์นั้น บ้างว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ชาติก่อนเคยเผาสัตว์ทั้งเป็นบ่อยๆ หรือเป็นข้าราชการทุจริต จะถูกไฟนรกคลอกในบัวเหล็กในอิริยาบถนอนคว่ำ ต้องรับโทษเป็นเวลาเก้าแสนสามหมื่นหกพันล้านปีมนุษย์ หรือสี่พันปีนรก



   5. มหาโรรุวนรก (นรก แห่งเสียงหวีดร้องอย่างหนัก) เหล่าบัวมิได้มีแต่ในกลางขุม แต่ขึ้นอยู่ทั่วไป และกลีบบัวนั้นเป็นกรด ช่องว่างที่บัว มิได้งอกจะมีอาวุธลุกเป็น ไฟ เช่น แหลน หลาว หอก งอกขึ้นมาแทน บัวจะไม่งับสัตว์นรกไว้แน่นนักเพื่อให้ดิ้นพล่านไปถูกอาวุธ ที่งอกขึ้น เมื่อดิ้นไปมาจนตกลงสู่พื้นแล้วจะมีสุนัขร้ายเข้ามากัดทึ้งจนเหลือ แต่กระดูก บ้างว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ชาติก่อนได้ปล้นขโมยของจากผู้ที่อยู่สูง เช่น สมณะ ครู บุพการี ฯลฯ จะต้องยืนบนบัวเหล็กที่กลีบคม มีไฟนรกแผดเผา มียมบาลใช้กระบองกระหน่ำตีร่าง แต่จะไม่เสียชีวิต ต้องอาศัยอยู่จนกว่าจะหมดโทษเวลาเจ็ดหมื่นสามพันล้านเจ็ดแสนสองหมื่นแปดพันล้านล้านปีมนุษย์ หรือแปดพันปีนรก

    6. ตาปนรก (นรกแห่งความเร่าร้อน) นรกนี้มีไฟลุกท่วม ในไฟมีอาวุธ เช่น หอก แหลน หลาว เป็นต้น คอยพุ่งเข้าทิ่มแทงสัตว์นรกขึ้นตั้งไว้ย่างไฟ เมื่อเนื้อหนังมังสาของสัตว์นั้นกรอบหลุดร่วงลงมาจะยังให้สัตว์นั้นร่วงลงมาด้วย ครั้นร่วงแล้วจะถูกสุนัขขนาดใหญ่เท่าช้างวิ่งเข้ามากัดทึ้งจนเหลือแต่กระดูก สัตว์ใดหนีสุนัขได้จะถูกนาย นิรยาลจับทิ่มหอกแล้วตั้งขึ้นย่างอีกครั้ง บ้างว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่จะถูกไล่ให้ขึ้นไปที่ปลายหลาวที่มีไฟนรกลุกโชน จะถูกไฟคลอกจนพองสุก และเป็นอาหารของสุนัขนรก หลังจากนั้นลมกรรมจะพัดมาให้ฟื้นรับโทษเป็นเวลาสองพันเก้าร้อยสี่สิบเจ็ดล้านสามแสนเก้าหมื่นสองพันล้านล้านปีมนุษย์ หรือหนึ่งหมื่นหกพันปีนรก

    :32: :32: :32:

   7. มหาตาปนรก (นรกแห่งความร้อนอย่างหนัก หรือนรกที่มีแต่ความเร่าร้อนเหลือประมาณ) ไฟนรกจะพุ่งซัดเข้ามาจากกำแพงนรกรอบด้าน และใจกลางนรกมีภูเขาเหล็กลุกเป็นไฟ เมื่อสัตว์นรกหนีไฟที่พุ่งมาโดยปีนขึ้นไปบนเขาก็จะถูกย่างสด และเมื่อร่วงลงมาก็จะถูกอาวุธร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นเสียบตัวตั้งไว้ย่างไฟอีกเหมือนนรกขุมที่แล้ว บ้างว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ชาติก่อนได้ฆ่าชีวิตสัตว์และคนเป็นหมู่มากโดยไม่รู้สึกผิด จะถูกทำให้ตกจากภูเขาสูงลงมาที่พื้นที่เต็มไปด้วยเหล็กแหลมยาว ถูกเหล็กเสียบทะลุลำตัว มีไฟนรกคลอกตลอดเวลา แต่ก็จะไม่เสียชีวิต ต้องรับโทษเป็นเวลาครึ่งกัลป์ คือเวลาอันประมาณมิได้

   8. อเวจีมหานรก (นรกอันมิขาดสาย) เป็นนรกขุมที่ลึกที่สุด มีความทุกข์มากที่สุดในจักรวาลไตรภูมิ สัตว์นรกจะเคลื่อนไหวร่างกาย มิได้เลยเพราะถูกอาวุธร้อนตรึงไว้กับพื้นในท่ายืนกางแขนและขา โดยมีไฟลุกท่วมย่าง และมีเตาเผาใหญ่ นายนิรยบาลจะจับสัตว์โยนลงไปย่างในเตานั้นด้วย บ้างว่าผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่ในชาติก่อนได้ทำอนันตริยกรรม หรือบาปหนัก 5 ประการ คือ
    ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำให้พระพุทธเจ้าห้อพระโลหิต ยุยงให้สงฆ์แตก แยกกัน ผู้ที่อาศัยอยู่ที่นี่จะถูกตรึงศีรษะ แขน ในอิริยาบถที่เป็นในขณะทำบาป (นั่ง ยืน นอน ฯลฯ) มีหลาวเหล็กแทงทะลุลำตัว มีไฟนรกคลอกตลอดเวลา แต่จะไม่เสียชีวิต ต้องรับโทษเป็นเวลาหนึ่งกัลป์หรือคือเวลาอันประมาณมิได้


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakk1TURZMU13PT0=&sectionid=Y25Wd1lXbHRiMlJs&day=TWpBeE1DMHdOaTB5T1E9PQ==
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: ตุลาคม 03, 2013, 10:05:51 am โดย nathaponson »
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ