พิมพ์

[raponsan]

ธรรมะเปิดโลก

คอลัมน์ รู้ไปโม้ด nachart@yahoo.com

เคยได้ยินว่า มีการปฏิบัติธรรมแบบธรรมะเปิดโลก ผมไม่เคยได้ยินมาก่อน ขอความกรุณาน้าชาติช่วยบอกเด็กตาดำๆ สักคนนะครับ แฟนน้าชาติ ถามโดยดานูป

ตอบ-ดานูป เว็บไซต์โครงการพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรม คณะแพทย ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นำบทความเรื่อง ธรรมะเปิดโลก ของหลวงพ่อคง จัตตมโล วัดเขาสมโภชน์ ตำบลบัวชุม อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี มาเสนอ ดังนี้ ธรรมะเปิดโลกเป็นอานุภาพที่พระพุทธเจ้าทรงใช้สมัยเสด็จลงจากดาวดึงส์ โดยใช้พุทธานุภาพเปิดโลกทั้งสามให้มนุษย์ เทวดา และเปรตนรก เห็นกันได้หมด จากนั้นก็ไม่มีปรากฏการณ์ทำนองนี้อีกเลยในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา

กระทั่งหลวงพ่อคงท่านปฏิบัติมหาสติปัฏฐานอยู่ที่ถ้ำอรหันต์ ลพบุรี หวังหลุดพ้นแต่ยังไม่หลุดพ้นสักที ท่านจึงอธิษฐานว่า หากพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์มีจริง ขอให้โปรดท่านให้มีดวงตาเห็นธรรมะและหลุดพ้นด้วยเถิด และในที่สุดท่านก็ปฏิญาณว่า ได้พบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์จริง และถึงฝั่งอรหันตภูมิแล้ว จึงประกาศธรรมะเปิดโลก แต่กำลังพระอรหันต์ไม่เท่าพระพุทธเจ้าที่จะสามารถทำให้เห็นด้วยตาเปล่าได้ แต่ทำให้เห็นด้วยญาณและปรากฏการณ์ทางกายและจิตใจได้

วิธีฝึกจิตแบบธรรมะเปิดโลก ผู้ประสงค์จะเจริญกรรมฐานธรรมะเปิดโลกจะต้องถวายกรรม ถวายเวรให้กับพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้าก่อน เพื่ออาราธนาอำนาจพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ลงมาโปรด หากไม่อาราธนาแล้วท่านจะไม่มายุ่งด้วย เพราะถือว่าเจ้าของไม่อนุญาต แต่เมื่ออาราธนาแล้ว น้อมธรรมะมาใส่ตัว อานุภาพของพระพุทธเจ้าก็ดี พระธรรมเจ้าก็ดี พระสังฆเจ้าก็ดี จะลงมาโปรดเปิดโลกให้ได้รู้

ปฏิบัติโดยนั่งคู้บัลลังก์ เท้าขวาทับขาซ้าย หรือเท้าซ้ายทับขาขวา เอามือขวาทับมือซ้าย หรือมือซ้ายทับมือขวา หรือประสานกันไว้วางบนหน้าตัก ตั้งกายให้ตรงดำรงสติให้มั่น มองไปที่พระพุทธรูป บอกกับตัวเองว่า
     "บัดนี้ฉันได้ถวายร่างกายและชีวิตนี้ต่อพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้าแล้ว ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะปล่อยให้เป็นไปตามอำนาจแห่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บัดนี้ฉันจะเจริญสมาธิให้นิ่งอยู่ด้วยความรู้ตัวทั่วพร้อม ฉันจะไม่สนใจเรื่องภายนอก ฉันจะไม่ยินดียินร้ายกับรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัสที่อาจมากระทบ จะสนใจเพียงประการเดียวคือความรู้ตัวอันบริสุทธิ์เท่านั้น"

 

    จากนั้นค่อยๆ หลับตาลง แล้วเริ่มสังเกตดูอาการของลมหายใจ
    เอาจิตจดจ่ออยู่ที่ลิ้นปี่ เฝ้าดูอาการของลมปราณ
    ยามขยายตัวพองออกก็รู้แจ้งชัดว่า ขยายตัวพองออก บริกรรมกำชับความรู้ตัวว่า "พองหนอ"
    เมื่อยุบแฟบลงก็รู้แจ้งชัดว่ายุบแฟบลง บริกรรมกำชับความรู้ตัวว่า "ยุบหนอ"
    ลมจะสั้นจะยาวจะช้าจะเร็ว อย่าเข้าไปบังคับมัน
    การเข้าไปบังคับลมหายใจจะทำให้ขาดความสมดุลในกระบวนการ
    อาจเกิดการอึดอัด เหนื่อยหอบ คอแห้ง เป็นต้น

 

ด้วยอำนาจของสตินั้นจะทำให้จิตถอนตัวออกจากขันธ์ ขันธ์จะผ่อนคลาย สงบเย็น สิ่งผิดปกติในขันธ์จะถูกกำจัดออกไปปรากฏเป็นอาการต่างๆ ไม่ต้องใส่ใจ ไม่ตามและไม่ต้าน ในยามที่ชำระขันธ์ ความเครียดของกรรมเก่าคลายออก ไม่ต้องไปคว้ากรรมนั้นมาไว้อีก หรือไหลตามกรรมนั้นไปฉันเดียวกัน

    เราพึงทรงสติรู้ดูเฉยอยู่ ขันธ์จะกระตุกเต้นก็ปล่อยไป แต่จิตจะไม่เข้าไปเต้นกระตุกด้วย
    ด้วยวิธีนี้จิตจะถอนออกไป เมื่อกรรมนั้นคลายออกไปหมดก็เป็นอันสิ้นกรรมตัดเวรนั้นๆ ขาดไป
    หากมีกรรมใหญ่ที่ไม่อาจคลายได้หมด หรือกรรมที่ตัดไม่ขาด เพราะยังมีเจ้ากรรมนายเวรจองล้างจองผลาญอยู่ ให้เชิญเจ้ากรรมนายเวรมาแผ่เมตตาอุทิศส่วนกุศล และทำพิธีอโหสิกรรม ตัดเวร เพื่อเปลี่ยนศัตรูให้เป็นมิตรเสีย

ยังมีรายละเอียดอีกมาก เข้าไปอ่านได้ที่ http://www.med.cmu.ac.th/ethics/forum/index.php?topic=61.0

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakUwTURrMU1nPT0=&sectionid=Y25Wd1lXbHRiMlJs&day=TWpBd09TMHdPUzB4TkE9PQ==
http://upload.wikimedia.org/

[PRAMOTE(aaaa)]

ขออนุโมทนาสาธุ

[DANAPOL]