ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : เครื่องสะท้อนของจิต  (อ่าน 2381 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29304
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : เครื่องสะท้อนของจิต
« เมื่อ: ตุลาคม 07, 2013, 09:42:34 am »
0


สมาธิชาวบ้าน : เครื่องสะท้อนของจิต

การทำสมาธิเมื่อเราทำบ่อยๆ เข้าจนมีความเชี่ยวชาญ ก็สามารถกำหนดจิตเข้าสู่ภาวะฌานได้อย่างทันที กายเบา จิตเบา กายสงบ จิตสงบ จิตที่สงบที่สุดแล้ว กายแทบจะหายไปทั้งหมด จิตก็ยังคงสมาธิอยู่ แต่ถ้าจิตยังเคลื่อนไปมีอาการสอดส่ายจากสิ่งภายนอกก็ใช้งานไม่ได้ สมาธิแบบนั้นมันก็ไม่มีประโยชน์อะไร เพราะว่ามันไม่สามารถไปถึงปัญญาพระนิพพาน ดวงจิตวิญญาณดวงนี้ไม่อาจหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดได้ ถึงจะว่าง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันพ้นจากอำนาจจากดงความคิดได้ มันต้องเกิดรู้เท่านั้นมันถึงจะหลุดพ้นจากอำนาจความคิด รู้ในความเป็นจริงถึงจะพ้นได้

สภาพจิตที่ทำให้เรารู้ความจริง มันถึงทำให้เราเกิดปัญญา ด้วยปัญญาทำให้ผู้ปฏิบัติทุกคนพ้นจากความทุกข์ต่างๆ จนในที่สุดพ้นจากทุกข์สูงสุด คือพ้นจากความทุกข์ที่เวียนว่ายตายเกิด ดวงจิตนี้พอรู้ความจริงแล้วมันจะรู้ในอวิชชา ว่าที่กลับมาเกิดเป็นเพราะสาเหตุอะไร ความยึดมันถือมั่นในมายาความคิด จิตไปยึดที่ไหน ไปปรุงที่ไหน จิตก็จะไปเกิดเป็นตัวเป็นตนขึ้นที่นั่น


 ans1 ans1 ans1

ในที่สุดจิตมันก็จะพ้นจากตัวอวิชชา การที่จิตดูจิตนั้น จิตไม่สามารถดูตัวเองได้ จิตต้องอาศัยเครื่องสะท้อน เครื่องสะท้อนก็คือ ปรากฏการณ์ความคิดที่มันเกิดขึ้นในจิต เหมือนเราไปดูกระจก จิตจึงเห็นตัวเอง ถ้าเราไม่มีเครื่องสะท้อนก็ไม่สามารถดูจิตได้ จิตจะไปดูจิตได้ก็ต้องอาศัยเครื่องสะท้อน ก็คืออารมณ์ของเรานี่เอง

ถ้าจิตมันพยายามดูจิตเองโดยไม่มีปรากฏการณ์ความคิดใดๆ มันก็ไม่เห็นอะไร เสมือนเราพยายามดูตัวเองแต่ไม่มีกระจก เรายิ้มเราก็รู้ว่าเรายิ้ม แต่ก็ไม่เห็นว่าเรายิ้ม จิตมันจะต้องดูปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในจิตของมัน แต่ว่ามันไม่ได้ไปดูตัวมันเอง แต่มันดูปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ เมื่อมันเห็นอย่างนี้แล้ว จิตมันก็พัฒนาไปสู่ความรู้แจ้ง ไปยึดไปปรุงที่ไหน จิตเท่าทันมายาการปรุงแต่ง ปรากฏการณ์ความคิดเหล่านั้นมันก็ช้าลงๆ ทำให้เราเห็นความจริง เรื่องของสมาธิและจิตมันมีแค่นี้ ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน





เมื่อเราเห็นอาการความคิดได้ เราเข้าใจการปรุงแต่ง หยุดการปรุงแต่งนั้นได้ เห็นในสิ่งที่พ้นโลกไป เป็นโลกุตระภูมิ ก็เห็นปรากฏการณ์ความคิดที่มันเกิดดับเกิดขึ้น จิตดวงนี้มันเปลี่ยนสภาพ ดวงจิตแล้วจริงๆ มันไม่เคยดับจิตดวงหนึ่งดับไป เกิดจิตดวงใหม่ขึ้นมาอะไรต่างๆ เหล่านั้นจริงๆ แล้วไม่มีอะไรดับไปหรือเกิดไปอะไรทั้งนั้น มันมีแต่มันเปลี่ยนสภาพไป เช่น อาการจิตที่ดีใจ ปรากฏการณ์ที่ดีใจมันเป็นอย่างนี้ จิตเดิมมันไม่ได้ดับลงไปไหน แต่ว่าพอมันเสียใจ ปรากฏการณ์ที่จิตมีสภาพเสียใจมันก็จิตดวงนั้น แต่ว่าปรากฏการณ์มันเปลี่ยนไป เหมือนตอนแรกมันเป็นสีดำแล้วก็มาเป็นสีขาว แต่ว่ามันก็จิตอันเดิม ไม่ใช่จิตดวงสีดำดับไป แล้วก็เกิดดวงจิตใหม่สีขาวขึ้นมา

มันเป็นจิตดวงเดิมนั่นแหละ แต่ว่ามันเปลี่ยนจากสีขาวเป็นสีดำ ก่อนที่จะมาเป็นสีดำ มันก็เปลี่ยนไปเป็นสีเหลือง สีเขียว สีแดง มันเปลี่ยนปรากฏการณ์ของมัน แต่ว่ามันไม่ใช่ดับอย่างหนึ่ง ไปเกิดอีกอย่างหนึ่ง จิตจริงๆ ไม่เคยดับ แต่ว่ามันเปลี่ยนลักษณะของมัน อย่างที่ตอนมันดีใจมันมีลักษณะนี้ สักพักจิตดวงเดิมมันก็มีลักษณะเสียใจ มันก็เป็นจิตดวงเดียวกัน

 st12 st12 st12

ดังนั้นจิตจึงไม่มีอะไรไปดับไปเกิด เป็นจิตเดิมๆ ทั้งนั้น สภาพเปลี่ยนไป ดีใจก็เป็นอย่างนี้ เสียใจก็เป็นอย่างนี้ โกรธก็เป็นอย่างนี้ รักก็เป็นอย่างนี้ แต่ก็เป็นจิตดวงเดิม ไม่มีแก่ ไม่มีตาย สภาพเปลี่ยนไปจนกว่าเราจะเท่าทันจึงไม่ทำให้สภาพเปลี่ยนไป และในที่สุด จิตเมื่อเราพิจารณาไปถึงที่สุดแล้ว ท่าทีของมันจริงๆ มันจะเห็นว่าจิตที่เราเรียกว่าธาตุรู้ที่รู้อารมณ์ต่างๆ ปรุงแต่งให้เราเป็นไปต่างๆ แท้ที่จริงแล้วมันอาจจะไม่มีตัวตนอยู่จริง.


ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/061013/80288
ภาพจาก http://igetweb.com/www/sati99/gallery
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ

KIDSADA

  • มีเหตุมีผล
  • ****
  • ผลบุญ: +0/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 439
  • Respect: 0
    • ดูรายละเอียด
Re: สมาธิชาวบ้าน : เครื่องสะท้อนของจิต
« ตอบกลับ #1 เมื่อ: ตุลาคม 07, 2013, 02:20:44 pm »
0
 st11 st12 st12
บันทึกการเข้า
เราชอบ ป่วนแก็งค์ อ๊บ อ๊บ