ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: บอกเล่า"ปาฏิหาริย์" สมเด็จพระสังฆราช  (อ่าน 1746 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29496
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


บอกเล่า"ปาฏิหาริย์" สมเด็จพระสังฆราช

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ทรงเจริญพระชนมายุครบ 100 พรรษา เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2556 ถือว่ามีพระชนมายุมากกว่าสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ในอดีตที่ผ่านมา ตลอด 24 ปีที่ทรงดำรงสมณศักดิ์สมเด็จพระสังฆราช ซึ่งยาวนานที่สุดกว่าสมเด็จพระสังฆราชทุกพระองค์ ทรงเป็นพระภิกษุที่เคร่งในพระธรรมวินัยยิ่งนัก เป็นเสาหลักแห่งบวรพระพุทธศาสนาเรื่อยมา และมีพระอัจฉริยภาพด้านต่างๆ รวมถึงพระจริยาวัตรอีกนานัปการ

ภาพที่ยังคงติดตาตรึงใจชาวพุทธทุกคนนั่นคือ ทรงเป็นพระของประชาชนโดยแท้ แม้ว่าจะทรงเป็นสังฆราช แต่ทรงเป็นพระภิกษุผู้เรียบง่าย พระเณร ลูกศิษย์ลูกหา เข้าถวายงานได้อย่างใกล้ชิด ทรงรับกิจนิมนต์ทุกงาน จนทุกคนมีโอกาสได้สัมผัสพระบารมี

เช่นเดียวกับ พระราชรัตนมงคล ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร ผู้ถวายงานอย่างใกล้ชิดตั้งแต่เป็นสามเณร ได้เล่าย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมเด็จพระสังฆราชเสด็จปฏิบัติธรรมที่วัดเจติยาคีรีวิหาร (วัดภูทอก) จ.บึงกาฬ ได้พบ พระราชรัตนมงคล ตอนนั้นบวชเป็นสามเณร อายุราว 15 ปี จากนั้นสมเด็จพระสังฆราชทรงชักชวนให้เข้ามาเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯ ก็ได้อยู่ถวายงานตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์


 :welcome: :welcome: :welcome:

ตลอดเวลาเกือบ 40 ปี พระราชรัตนมงคลจึงเป็นพระผู้ใกล้ชิด และติดตามสมเด็จพระสังฆราชไปทุกที่ที่พระองค์ท่านเสด็จรับกิจนิมนต์ ด้วยเหตุนี้ พระราชรัตนมงคลจึงเป็นผู้ที่ได้ชมพระบารมี และสัมผัสเหตุ "ปาฏิหาริย์" ของสมเด็จพระสังฆราชอยู่บ่อยครั้ง

    เหตุการณ์หนึ่งที่เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์เมื่อหลายสิบปีก่อน
    ตอนนั้นเกิดไฟไหม้ที่ชุมชนบางลำพูหลังวัดบวรฯ ตรงนั้นชาวบ้านอาศัยอยู่หนาแน่น
    วันนั้นพระองค์ประทับอยู่ที่วัดบวรฯ ทรงพระดำเนินลงจากพระตำหนักไปทอดพระเนตรจุดที่เกิดเหตุด้วยจิตใจที่ตั้งมั่น ไม่ช้าไฟก็ค่อยๆ ดับ จนข่าวแพร่สะพัดว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงอธิษฐานจิตดับไฟ


พระราชรัตนมงคลเล่าต่อว่า ทุกคนทราบกันดีว่าพระไพรีพินาศวัดบวรฯ ได้รับความนิยมอย่างมาก จึงมีหลายครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชต้องเสด็จไปทรงเป็นองค์ประธาน เททองหล่อพระ หรือทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคล อาตมาได้ติดตามพระองค์ไปหลายครั้ง ก็เกิดปรากฏการณ์พระอาทิตย์ทรงกลดหลายครั้ง บางครั้งไฟร้อนๆ เวลาเททอง สายสิญจน์ไม่ขาด ไม่ไหม้ไฟ โดยเฉพาะวันเททองหล่อพระกริ่งปวเรศ รุ่น 2

ชาวบ้านเชื่อมั่นว่าพระองค์ทรงมีบุญบารมี พระหรือวัตถุมงคลที่ท่านสร้างจึงได้รับความนิยม มีบ่อยครั้งที่ลูกศิษย์ที่ได้รับไปกลับมาเล่าให้สมเด็จพระสังฆราชฟังว่ารอดชีวิตจากรถคว่ำ เพราะมีวัตถุมงคลของพระองค์ รวมถึงมีปาฏิหาริย์ให้เห็นในหลายเรื่องด้วย


 :s_good: :s_good: :s_good:

"อาตมาเคยเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอยู่ครั้งหนึ่ง ด้วยต้องทำหน้าที่ถวายงาน จึงต้องติดตามเสด็จไปไหนมาไหนอยู่บ่อยๆ มีอยู่วันหนึ่ง นั่งเครื่องบินไปกิจนิมนต์ต่างจังหวัด
    อาตมานั่งใกล้สมเด็จพระสังฆราช ระหว่างทางเหมือนพระองค์จะทรงรู้ล่วงหน้า
    สมเด็จพระสังฆราชทรงสะกิดอาตมา แล้วบอกให้ตั้งสติดีๆ แล้วสวดมนต์ในใจ
    หลังจากนั้นไม่นาน เครื่องบินก็ตกหลุมอากาศรุนแรง"

    นี่ก็เป็นเรื่องแปลกอีกเรื่องที่ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรฯ เจอกับตัวเอง

เหตุการณ์ครั้งที่สมเด็จพระสังฆราชเสด็จประทับรักษาพระอาการประชวร ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ตลอดระยะเวลา 11 ปี มีหลายครั้งเกิดเหตุการณ์น่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะตอนพระอาการประชวรของพระองค์ทรุดหนัก
    ก่อนสิ้นพระชนม์ เครื่องวัดความดันพระโลหิต และความดันของพระหทัย
    นิ่งอยู่ในระดับ 50 ครั้งต่อนาทีนานมาก เหมือนพระองค์ทรงนั่งกรรมฐาน
    เป็นเช่นนี้จนกระทั่งพระองค์สิ้นพระชนม์


เรื่องที่ขณะนี้หลายคนพูดถึงกันมากว่าเป็นความน่าอัศจรรย์ คือเรื่อง "ตัวเลข" พระองค์ประสูติเมื่อปี 2456 ประจวบเหมาะวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ คือวันที่ 24 ตุลาคม ปี 2556 และทรงดำรงสมณศักดิ์สมเด็จพระสังฆราช 24 ปี จึงกลายเป็นความบังเอิญที่น่าอัศจรรย์ใจไม่น้อย และเมื่อดูจากตำราโหราศาสตร์ ลองคำนวณดูแล้วจากวันประสูติกับวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ จะเห็นว่ามีดวงดาวที่เป็นวินาศแก่ลัคนาของพระองค์ท่านถึง 5 ดวง


 :96: :96: :96:

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (อนิลมาน ธมฺมสากิโย) ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เล่าเสริมเหตุการณ์ช่วงที่สมเด็จพระสังฆราชทรงประชวร และประทับอยู่ที่โรงพยาบาลว่า
   มีอยู่ครั้งหนึ่ง แพทย์ และพยาบาลใช้เข็มฉีดยาเจาะพระโลหิตไปตรวจ
   ปรากฏว่าเข็มดูดพระโลหิตออกมาไม่ได้
   ทุกคนที่อยู่ในห้องตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น จึงไปตามแพทย์คนอื่นมาช่วยดู
   ตอนนั้นมีพระลูกศิษย์ถามว่า ตอนเจาะพระโลหิต ได้ขอประทานอนุญาตสมเด็จพระสังฆราชหรือไม่
   แพทย์และพยาบาลบอกว่าลืม จากนั้นแพทย์จึงได้ขอประทานอนุญาต พระโลหิตจึงไหลออก


   "เหตุการณ์ลักษณะนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อครั้งที่พยาบาลนำเครื่องวัดชีพจรมาเพื่อวัดความดันพระโลหิต และอัตราการเต้นของพระหทัย พอเสียบเครื่องวัดไปที่นิ้วพระหัตถ์ของสมเด็จพระสังฆราช เครื่องก็ไม่ทำงาน อาตมาอยู่ในเหตุการณ์จึงถามว่า ไม่ได้เช็กเครื่องให้ดีหรือ แต่เมื่อเอาเครื่องมาเสียบที่นิ้วอาตมากลับใช้ได้ อาตมาเลยถามว่าได้ขอประทานอนุญาตหรือไม่ พยาบาลบอกลืม พอขอประทานอนุญาต เครื่องก็ทำงานตามปกติ"

เหล่านี้คือคำบอกเล่าส่วนหนึ่งเกี่ยวกับพระบารมีของสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์


ขอบคุณภาพข่าวจาก
หนังสือพิมพ์มติชน รายวัน ฉบับวันที่ 30 ตุลาคม หน้า 13
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383109065&grpid=01&catid=&subcatid=
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ