โต๊ะทรงงาน
7 สิ่งสมณบริขาร วิถีสมถะ"พระสังฆราช"
"สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก" ทรงดำรงพระชนม์ชีพส่วนมากอยู่ในสมณเพศมาโดยตลอดชีวิตของพระองค์ไม่ได้แตกต่างไปจากบุคคลทั่วไป ทรงมีความถ่อมพระองค์ ทรงปฏิบัติพระองค์อย่างเรียบง่ายเหมือนกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง แม้ที่อยู่อาศัยก็ไม่ได้โปรดให้ประดับตกแต่งอะไรเลย พระองค์จะทรงเตือนพระสงฆ์ และสามเณรอยู่เสมอว่า "พระเณรไม่ควรอยู่อย่างหรูหรา" พระองค์ทรงไม่สะสมวัตถุสิ่งของที่มีผู้นำมาถวาย โดยจะทรงแจกจ่ายต่อไปตามโอกาส
เคยมีผู้แสดงความประสงค์ถวายรถยนต์สำหรับทรงใช้สอยประจำพระองค์
แต่พระองค์ตอบไปว่า "ไม่รู้จะเอาเก็บไว้ที่ไหน" สุดท้ายเป็นอันว่าไม่ทรงรับถวาย
นี่คือสิ่งที่ยืนยันว่าสมเด็จพระสังฆราช ทรงปฏิบัติพระองค์และดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่าย ไม่ได้หรูหราอย่างที่หลายๆ คนคิด มีเพียงเครื่องสมณบริขารหรือเครื่องใช้สอยของพระสงฆ์ ซึ่งทรงใช้เป็นประจำเพียงไม่กี่ชิ้นเท่านั้น

พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ (พระอนิลมาน ธมมฺสากิโย) ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช บอกเล่าถึงความเรียบง่ายของสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ที่ 19 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ว่า
พระองค์มีเครื่องสมณบริขารไม่กี่ชิ้น ด้วยความเรียบง่ายของพระองค์
สิ่งของเครื่องใช้ของพระองค์ก็จะเป็นของ "มือสอง" เป็นส่วนใหญ่ อย่างเช่น
พระแก้ว โต๊ะ และเก้าอี้
1.โต๊ะทรงงานของพระองค์ และยังเป็นโต๊ะรับแขกของสมเด็จพระสังฆราชด้วย ช่วงเช้าและช่วงเย็นๆ เวลามีประชาชนหรือผู้หลักผู้ใหญ่เข้ามาสักการะ ก็จะใช้โต๊ะตัวนี้รับแขก นอกจากนี้รอบๆ โต๊ะทรงงานของพระองค์ ยังแวดล้อมไปด้วยหนังสือธรรมะ หนังสือเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา และหนังสือภาษาอังกฤษจำนวนมากที่พระองค์ทรงโปรดปราน นอกจากโต๊ะตัวนี้แล้วพระองค์ยังมีโต๊ะทรงงานอีกหนึ่งตัว ช่วงเช้าพระองค์ใช้ฉันภัตตาหาร จากนั้นช่วงบ่ายพระองค์ก็จะใช้ทรงงานด้วย
2.บาตรน้ำมนต์ที่ทรงใช้ตลอด มีผู้ถวายครั้งเสด็จไปประเทศเนปาล ความพิเศษของบาตรใบนี้ทำจากทองแดง และรูปทรงก็จะไม่เหมือนกับบาตรที่สร้างในบ้านเรา
3.พระแก้ว เป็นพระพุทธรูปที่อยู่กับพระองค์มากว่า 30 ปีแล้ว โดยวางอยู่ในห้องตำหนักคอยท่าปราโมช
4.โต๊ะและเก้าอี้สำหรับสอนธรรมะ พระองค์ซื้อมาจากเวิ้งนาครเขษม ราคาประมาณ 6 บาท พระองค์เอามาซ่อมแซม และทำใหม่ โต๊ะและเก้าอี้ชุดนี้ใช้เวลาสอนเรื่องพระพุทธศาสนา และธรรมะให้แก่ชาวต่างชาติโดยเฉพาะ ทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์บาตรน้ำมนต์ อาสนะ (ที่ปูรองนั่ง), เตียงบรรทม
5.เตียงบรรทม ถือว่าเรียบง่ายมาก เป็นตั่งไม้ แต่ตัวตั่งสั้นมาก ขณะที่พระองค์สูง 179 เซนติเมตร สมัยก่อนพระองค์เดินตรวจวัดหรือว่าเดินไปพบเศษไม้ หรือโต๊ะหมู่ที่ลูกศิษย์ทิ้งแล้ว พระองค์จะเก็บกลับมาต่อตั่งให้ยาวขึ้น เตียงบรรทมของพระองค์ก็เหมือนเตียงนอนของชาวบ้านทั่วไป ส่วนที่นอนของพระองค์เย็บจากฟางข้าว แม้ว่าเตียงบรรทมจะแคบนิดเดียว แต่พระองค์ก็ไม่คอยนอนบรรทมตกเตียง
6.อาสนะ (ที่ปูรองนั่ง) เป็นอาสนะที่สมเด็จพระสังฆราชโปรดปรานที่สุด เพราะพระชนนีของพระองค์เย็บด้วยมือจากเศษเสื้อผ้าที่เหลือจากเย็บเสื้อผ้าให้ลูกค้า ซึ่งอาสนะผืนนี้พระชนนีทำด้วยความรัก และความศรัทธา นำมาถวายให้พระองค์ตั้งแต่ยังเป็นสามเณร สมเด็จพระสังฆราชไม่เคยห่างจากอาสนะผืนนี้เลย ทรงประทับอาสนะตลอดไม่ว่าจะนั่งกรรมฐาน หรือว่าสวดมนต์ หลายคนอาจจะเห็นอาสนะผืนนี้เป็นแค่เศษผ้าหนึ่งผืนเท่านั้น แต่ในความรู้สึกของพระองค์มีคุณค่าอย่างมาก เพราะพระองค์จะบอกเสมอว่าเวลาคิดถึงพระชนนีก็จะดูอาสนะผืนนี้เพื่อคลายความคิดถึง
7.บาตร เป็นบาตรที่สมเด็จพระสังฆราชทรงใช้บิณฑบาต และฉันภัตตาหาร ไม่ว่าจะรับกิจนิมนต์ที่ไหนพระองค์ก็จะใช้บาตรใบนี้ตลอด

ทั้งนี้ สำหรับเครื่องสมณบริขารเพียงไม่กี่ชิ้นของสมเด็จพระสังฆราช ในเบื้องต้น วัดบวรฯ จะรวบรวมไว้ที่ตำหนักคอยท่าปราโมช และในอนาคตเตรียมนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ เพื่อให้คนรุ่นหลังได้ศึกษาหลักธรรม และคำสอนของพระองค์ที่ทิ้งไว้เป็นมรดกให้ชาวพุทธได้ศึกษาและเรียนรู้มากมาย
แน่นอนว่าเครื่องสมณบริขารทั้ง 7 ชิ้นนี้ เป็นเครื่องแสดงให้เห็นถึงความพอเพียงของพระองค์ได้อย่างดี
ดั่งที่พระองค์ทรงเตือนพระสงฆ์และสามเณรอยู่เสมอว่า "เป็นพระต้องจน"ที่มา:มติชนรายวัน 1 พ.ย.2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383296763&grpid=&catid=02&subcatid=0202