พิมพ์

[raponsan]

10 แฮ็กเกอร์ ที่สหรัฐตั้งค่าหัวสูงสุด

10แฮ็กเกอร์ที่สหรัฐตั้งค่าหัวสูงสุด : คอลัมน์อินโนเทค : โดย...คนชอบเล่า

กระแสข่าวร้อนที่ "แฉ" พฤติกรรมรัฐบาลสหรัฐ ในการดักฟังโทรศัพท์ผู้นำ และหน่วยงานสำคัญของมิตรประเทศในยุโรป ดูช่างขัดแย้งกับความเข้มงวดของหน่วยงานสืบสวนสอบสวนของรัฐบาลประเทศนี้ ในการไล่ล่าอาชญากรไซเบอร์ หรือเรียกกันติดปากว่า "แฮ็กเกอร์" แบบกัดไม่ปล่อย

ความเอาจริงเอาจังนี้สูงถึงระดับ การตั้ง "ค่าหัว" สูงถึง 1 แสนดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 3 ล้านบาท สำหรับผู้ให้เบาะแสเกี่ยวกับแฮ็กเกอร์ ตัวเอ้ ในบัญชีประกาศจับ "The Most Wanted List" ของสำนักงานสอบสวนกลางแห่งสหรัฐ (เอฟบีไอ) ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 10 รายชื่อ

ที่น่าสนใจคือ ในจำนวนนั้นมี 5 รายชื่อที่เพิ่งติดโผเข้าไปเมื่อไม่กี่วันนี้ สะท้อนถึงการแพร่ระบาด และระดับความรุนแรงของอาชญากรรมไซเบอร์ ที่คุกคามความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และความมั่นคงของชาติของสหรัฐ แต่ละรายมีเหยื่อที่ได้รับผลกระทบเป็นหลักหลายร้อยถึงหลายพันคน มูลค่าความเสียหายสูงหลายสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามกันไปดูว่า มีรายชื่อวายร้ายไซเบอร์จากไหนบ้าง ที่เราอยากรู้จักร่องรอย เพื่อจะได้มีโอกาสคว้าเงินล้านจากเอฟบีไอ

 

ก่อนอื่น ขอเปิดตัวด้วยอาชญากรน้องใหม่ 5 ราย ได้แก่ นายฟาร์นฮาน อาร์ชาด และนายนัวร์ อาซิซ อุดดิน ชาวปากีสถาน เริ่มปฏิบัติการระหว่างปี 2551-2555 แฮ็กระบบสื่อสารระหว่างประเทศ คิดเป็นมูลค่าความเสียหาย 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

     นายคาร์ลอส เปเรซ-มาลาร่า จากเอลซัลวาดอร์ ผู้มี "ชื่อเสีย" จากหลากพฤติกรรมวายร้ายออนไลน์ ที่โด่งดังที่สุด คือ การเปิดเว็บไซต์จับผิดแฟนนอกใจ ที่ฝังมัลแวร์ไว้รอโอกาสเข้าไปเจาะข้อมูลส่วนตัวของแฟนเพจ หรือสมาชิกเว็บไซต์

     นายอังเดร นะบีเลวิช ชาวซีเรีย เจ้าของมัลแวร์ตัวแสบชื่อว่า "Operation Ghost Click" ที่ออกอาละวาดระหว่างปี 2550-2554 โจมตีคอมพิวเตอร์มากกว่า 4 ล้านเครื่องใน 100 ประเทศ ปิดท้ายด้วย นายอเล็กซีย์ เบลาน ชาวรัสเซีย จากผลงานแฮ็กระบบบริษัท 3 แห่งในสหรัฐ ระหว่างปี 2555-2556

สำหรับรายชื่อที่ติดโผก่อนหน้านี้ 5 ราย ประกอบด้วย นายปีเตอร์ ซาอูรอฟ, นายอาเซ็ม เซเมนอฟ และนายอเล็กซอง เซอร์เจเยวิช บ็อบเนฟ ค่าหัว 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ, นาย SHAILESHKUMAR P. JAIN  และนายบียอร์น แดเนียล ซันดิน ค่าหัว 2 หมื่นดอลลาร์สหรัฐ

 

จากความหลากหลายเชื้อชาติของแฮ็กเกอร์ระดับเซียนเหล่านี้ ทำให้ผู้บริหารของเอฟบีไอ ถึงกับกุมขมับ พร้อมเปรียบเทียบว่า ปรากฏการณ์นี้ทำให้นึกไปถึง ยุคเจ้าพ่อ/มาเฟียครองเมืองในประวัติศาสตร์ก่อนหน้านี้ของอเมริกา

....นี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมเอฟบีไอ จึงเลือกวิธีการตั้งรางวัลสำหรับผู้ให้เบาะแสที่นำไปสู่การจับกุม เพราะเงินรางวัล เคยเป็นสิ่งจูงใจพลเมืองสหรัฐ ให้ช่วยสอดส่องและรายงานเบาะแส จนทำให้รัฐบาลสหรัฐเคยประสบความสำเร็จในการปราบเหล่าเจ้าพ่อในยุคมาเฟียครองเมืองมาแล้ว

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20131110/172407.html