พิมพ์

[raponsan]

พระมหาเจดีย์ชเวดากองยามค่ำคืนทอแสงสีทองเหลืองอร่าม

สักการะชเวดากอง เจดีย์ทองคู่เมืองพม่า อิ่มบุญขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ “ย่างกุ้ง”

      “ย่างกุ้ง” ในวันนี้แม้จะกลายเป็นอดีตเมืองหลวงของพม่าแล้ว แต่ว่าความเจริญในหลายๆ ด้านก็ยังได้รับการพัฒนาอยู่อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทาง “สายการบินนกแอร์” ได้เปิดเที่ยวบินบินตรงจากกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) สู่กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่าทุกวัน นั่นจึงทำให้ “ตะลอนเที่ยว” ได้มีโอกาสใช้บริการเพื่อเดินทางกลับมาสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของกรุงย่างกุ้งอีกครั้ง

เจดีย์โบตาทาวน์ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือ

       ว่าแล้วก็ไม่อยากพูดพล่ามให้เสียเวลา เราขอเปิดฉากเที่ยวพม่าด้วยการไปกราบสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือกันก่อนเป็นการเอาฤกษ์เอาชัย โดยมุ่งตรงมายัง “เจดีย์โบตาทาวน์” ที่นี่เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวพม่านับถือเป็นอย่างมาก เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า

พระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าประดิษฐานอยู่ภายในเจดีย์โบตาทาวน์

       พระเกศาธาตุถูกบรรจุประดิษฐานไว้ใจกลางเจดีย์ โดยเราต้องเดินไปตามช่องทางเดินเล็กๆ เพื่อเข้าไปยังด้านในใจกลางองค์เจดีย์ จะได้เห็นพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ในมณฑปครอบแก้วใส ซึ่งมีเพียงแค่กระจกกั้นเท่านั้น เรียกว่าเราได้มากราบสักการะและขอพรกันอย่างใกล้ชิดกันเลย

พระพุทธรูปทองคำ ประดิษฐานในวิหารที่เจดีย์โบตาทาวน์

      พอได้กราบพระเกศาธาตุแล้ว เราก็เดินมายังวิหารด้านข้างเจดีย์ เพื่อมากราบไหว้ขอพรกับพระพุทธรูปทองคำปางมารวิชัยที่มีพุทธลักษณะงดงามเป็นยิ่งนัก

ขอพรกับเทพทันใจ เชื่อว่าจะสมปรารถนาตามที่อธิษฐาน

      จากนั้นก็ไม่พลาดที่จะต้องเดินตรงดิ่งไปยังวิหารของเทพทันใจ (นัตโบโบยี) ที่เชื่อกันว่าเป็นเทพที่มีความศักดิ์สิทธิ์มาก หากว่าไหว้ขอพรอะไรไว้ก็จะได้สมดังใจปรารถนาทุกประการแบบทันใจกันเลย งานนี้เราเลยรีบขอพรกับองค์เทพทันใจไปหลายประการ ส่วนจะได้สมใจหมายแบบทันใจหรือไม่ ก็คงต้องมาลุ้นกัน

นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพรกับเทพกระซิบ

       ได้ขอพรกับเทพทันใจแล้วยังไม่พอ ต้องไม่พลาดที่จะไปขอพรกับเทพกระซิบกันด้วย ตามตำนานกล่าวว่า เทพกระซิบ (อะมาดอว์เมี๊ยะ) นางเป็นธิดาของพญานาคที่ศรัทธาในพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่ยอมกินเนื้อสัตว์จนเมื่อสิ้นชีวิตไปกลายเป็นนัต ชาวพม่าให้ความเคารพและนิยมมากราบไหว้ขอพรกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งการขอพรกับเทพกระซิบ ต้องไปกระซิบเบาๆ ที่ข้างหูห้ามให้คนอื่นได้ยิน ซึ่งเราก็ได้ไปกระซิบขอพรกับท่านอยู่หลายข้อเหมือนกัน สาธุขอให้ได้สมดังใจหวังเถิด

เจดีย์สุเล มองเห็นได้แต่ไกล เป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมลงรักปิดทอง

       ในกรุงย่างกุ้งยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญอีกแห่งหนึ่งได้แก่ “เจดีย์สุเล” ซึ่งเป็นเจดีย์แปดเหลี่ยมลงรักปิดทองที่ความสวยงาม สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ซึ่งมีคำเปรียบเทียบเอาไว้ว่า หากเจดีย์ชเวดากองคือจิตวิญญาณของชาวพม่าแล้ว เจดีย์สุเลแห่งนี้ก็คือหัวใจของย่างกุ้ง

ยามค่ำคืนก็ยังมีผู้คนขึ้นกราบสักการะพระมหาเจดีย์ชเวดากอง

       พูดถึงจิตวิญญาณของพม่าแล้ว เราย่อมไม่พลาดการไปสักการะ หนึ่งในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของพม่าอย่าง “พระมหาเจดีย์ชเวดากอง” ด้วยประการทั้งปวง
       
       เจดีย์ชเวดากอง เป็นเหมือนศูนย์รวมจิตใจ ที่ชาวพม่าให้ความเคารพเป็นอย่างสูง สำหรับการจะขึ้นไปสักการะองค์เจดีย์ชเวดากองของนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะต้องเสียค่าเข้าคนละ 8 ดอลล่าร์สหรัฐฯ และก็จะได้รับสติ๊กเกอร์ให้ได้ติดเพื่อเป็นเครื่องหมายว่าชำระเงินแล้ว จากนั้นเราก็ขึ้นไปสู่องค์พระเจดีย์ด้านบนกัน ซึ่งทางขึ้นมีอยู่ด้วยกันถึง 4 ทิศ มีทั้งขึ้นทางบันได ขึ้นลิฟท์ และทางบันไดเลื่อนที่เราเลือกใช้บริการ ซึ่งดูทันสมัยน่าดูเชียว
       
       เมื่อขึ้นมาถึงยังด้านบน เราก็ต้องตะลึงกับความยิ่งใหญ่อลังการขององค์พระเจดีย์ชเวดากองสีทองเหลืองอร่ามดูงดงามวิจิตรตระการตาเป็นยิ่งนัก ตามตำนานกล่าวถึงประวัติขององค์พระเจดีย์ฯ ไว้ว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่ 2,500 ปีก่อน เป็นที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ 8 เส้นของพระพุทธเจ้า แรกเริ่มที่สร้างมีความสูงเพียง 27 ฟุตเท่านั้น และด้วยแรงศรัทธาของชาวพม่าที่มีต่อองค์พระเจดีย์ ต่างได้ร่วมจิตบริจาค เงินทองและทรัพย์สินมีค่าต่างๆ ก่อเสริมให้องค์พระเจดีย์มีความสูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันมีความสูงถึง 326 ฟุต กว้าง 1,355 ฟุต

ด้านบนเจดีย์ชเวดากองยังมีพระประจำวันเกิดให้ได้สรงน้ำ

       และที่องค์พระเจดีย์ฯ มีสีทองเหลืองอร่ามงดงามเช่นนี้ ก็เพราะว่ามีทองคำที่มีน้ำหนักถึง1,100 กิโลกรัมโอบหุ้มเจดีย์ชเวดากองนี้ไว้ ซึ่งช่างพม่าใช้ทองคำแท้ๆ นำมาตีเป็นแผ่นเรียงปิดองค์เจดีย์ไว้ ทำให้พระมหาเจดีย์ชเวดากองนี้มีสีเหลืองทองสุกปลั่งงดงาม ที่ไม่ว่าจะยามกลางวันหรือกลางคืน พระมหาเจดีย์ชเวดากองก็จะทอแสงสีเหลืองทองอร่ามเป็นภาพที่งดงามจับตาเป็นยิ่งนัก
       
       ความเลอค่าขององค์พระเจดีย์ชเวดากองยังไม่หมด หากเพ่งมองไปบนยอดฉัตรขององค์เจดีย์ฯ จะได้เห็นเพชรพลอยอัญมณีล้ำค่าประดับประดาอยู่เต็มไปหมด เฉพาะที่ยอดเจดีย์ถูกประดับด้วยเพชรเม็ดใหญ่ที่มีน้ำหนักถึง 76.6 กะรัต ในตอนกลางคืนหากเพ่งมองดี ๆ จะมองเห็นแสงระยิบระยับวับ ๆ ของเพชรที่อยู่บนปลายยอดเจดีย์ได้อย่างชัดเจน

รอบๆ เจดีย์ชเวดากองยังมีพระพุทธรูปให้ได้กราบไหว้ขอพร

       ใช่ว่าเราจะขึ้นมาชมความงดงามของเจดีย์ชเวดากองเพียงเท่านั้น แต่เรายังได้ขึ้นมากราบสักการะและขอพรจากองค์พระเจดีย์ฯ ด้วย เราได้ไปนั่งสวดมนต์ตั้งจิตอธิษฐานและกราบขอพรต่อมหาเจดีย์ฯ กันตรงลานกว้างที่มองเห็นองค์เจดีย์ชเวดากองได้ชัดเจน ซึ่งจะเห็นชาวพม่านิยมมานั่งกราบไหว้ขอพรกันตรงบริเวณนี้เป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อว่าจะสัมฤทธิผลตามที่ปรารถนา และก็เรียกลานแห่งนี้ว่า "ลานสัมฤทธิผล" หรือ "ลานอธิษฐาน"
       
       พอได้กราบขอพรจนอิ่มใจแล้ว เราก็ยังขอไปทำบุญกันต่อด้วยการไปสรงน้ำพระประจำวันเกิด ที่จะตั้งอยู่รอบองค์เจดีย์ โดยจะมีป้ายเป็นภาษาอังกฤษบอกวันไว้ให้ได้ทรงน้ำพระประจำวันเกิดกันได้ถูกต้อง อีกทั้งยังมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อีกหลายองค์ให้ได้กราบไหว้ขอพร
       
       “ตะลอนเที่ยว” ใช้เวลาทั้งหมดที่เหลือของวันอยู่ด้านบนเจดีย์ชเวดากองจนค่ำมืด ได้เดินทักษิณารอบองค์พระเจดีย์ฯ ซึ่งทำให้เราได้เห็นถึงแรงศรัทธาอันยิ่งใหญ่ของชาวพม่าที่มีต่อพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมาก เห็นแบบนี้แล้วก็รู้สึกอิ่มเอมใจและอิ่มเอิบบุญเป็นอย่างมาก ที่ได้มีโอกาสเดินทางมาเยือนย่างกุ้งอีกครา

ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9560000146819

[kobyamkala]

อยากไปสักครั้ง แต่เขาว่า ไปถ้าไม่มีหมู่ ลำบาก คะ