พ่อแม่เลี้ยงบวก : สปิริต
ลูกสาว : พ่อคะ (เสียงเครือ) หนูไม่ไปเต้นระบำฮาวายที่งานโรงเรียนวันนี้ได้ไหมคะ (สะอื้น)
พ่อ : เล่าให้พ่อฟังได้ไหม (น้ำเสียงปลอบโยน)
ลูกสาว : (ร้องไห้) เพื่อนบอกว่าหนูเต้นน่าเกลียด เพราะขาหนูใส่เฝือก คนจะต้องหัวเราะเยาะหนูแน่ๆ
พ่อ : เพื่อนว่าเต้นไม่สวยแล้วครูว่าไงลูก?
ลูกสาว : ครูบอกว่าถึงใส่เฝือกหนูก็เต้นน่ารักค่ะ
พ่อ : พ่อก็ว่าน่ารักนะ ถ้าเขาหัวเราะ เขาอาจเอ็นดูลูกก็ได้ แต่ละคนก็คิดไม่เหมือนกัน พ่อว่าอาจจะมีอีกตั้งหลายคนที่เขาเห็นว่า ลูกมีสปิริตมากกว่าเต้นสวยไง ดูสิเต้นไม่ถนัดเพราะใส่เฝือกที่ข้อเท้า แต่ก็ใจสู้ออกไปเต้นกับเพื่อนๆอย่างเต็มที่
(เฟดอินดนตรี เข้าบรรยากาศงานโรงเรียน)
ครู : ต่อไปเป็นการแสดงระบำฮาวายของน้องๆห้อง ป.2 เชิญชมได้แล้วครับ
(เสียงเพลงฮาวายดังขึ้น)
พ่อแม่คนดู 1 : ต๊าย! ดูเด็กคนนั้นสิ ขนาดข้อเท้าใส่เฝือกยังส่ายเอวพริ้วเชียว
(เสียงคนดูปรบมือดังพร้อมคำชื่นชม เสียงกดชัตเตอร์ดังถี่ๆ)
พ่อแม่คนดู 2 : ท่าทางก็ดูมั่นใจ ดูเขายิ้มสิ น่ารักจังเลย ฉันถ่ายรูปเก็บไว้ดีกว่า
พ่อแม่คนดู 1 : ฉันด้วย (แช๊ะ แช๊ะ แช๊ะ)

หมอเหมียวชวนคุย
ความกังวลใจของลูกที่เกิดจากความคิดด้านลบ พ่อแม่ควรจะชี้แนะให้ลูกคิดด้านบวกเพื่อจัดการกับอุปสรรคให้ผ่านพ้นไปด้วยดี เด็กจะเรียนรู้ในการเผชิญปัญหาอย่างมีความหวัง เกิดความเชื่อมั่นและยอมรับในตนเองค่ะ
มองโลกในแง่บวก
สังคมเพื่อนฝูงที่โรงเรียนมีอิทธิพลต่อเด็กวัยเรียน ความคิดเห็นบางอย่างจากเพื่อน อาจบั่นทอนกำลังใจเด็กซึ่งมักจะหวั่นไหวง่ายต่อปัญหาความสัมพันธ์ เพราะกลัวมีไม่เหมือนเพื่อน เป็นไม่เหมือนเพื่อน ต้องการการยอมรับ พ่อแม่ไม่ต้องกังวลมากนัก เพราะเป็นช่วงที่เด็กกำลังปรับตัวในการอยู่ร่วมกับคนอื่น แต่เด็กอาจต้องการคำชี้แนะจากพ่อแม่ในการอยู่ร่วมในสังคมของเพื่อนอย่างราบรื่น หรือพ่อแม่อาจต้องคอยฝึกทักษะการเข้าสังคม มารยาทในการพูดคุย การเอาใจเขามาใส่ใจเรา และทักษะด้านอื่นๆที่จำเป็นหากพบว่าลูกขาดสิ่งเหล่านี้จึงทำให้เกิดปัญหากับเพื่อนๆ
แบบอย่างการคิดและดำเนินชีวิตมองมุมบวกของพ่อแม่มีอิทธิพลสูงที่จะหล่อหลอมเด็กมากกว่าการสอนแค่คำพูด การฝึกให้ลูกมองโลกในแง่ดี เป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเผชิญปัญหาและอุปสรรคอย่างมีความหวัง มองเห็นโชคดีในโชคร้าย มองเห็นข้อดีของคนอื่น และชื่นชมตนเองได้

ควรทำ
• อุปสรรคของชีวิตมีไว้ให้เรียนรู้ ทำให้ฉลาดขึ้น ช่วยให้เกิดทักษะในการแก้ปัญหา มองเห็นจุดอ่อนของตนเองและทำให้เกิดการพัฒนา (เก่งขึ้น)
• ชี้ให้เด็กมองอุปสรรคที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องสนุก ท้าทาย จะเป็นวิธีการสร้างมุมมองอุปสรรคด้านบวก (มองโลกในแง่ดี) จะช่วยให้เด็กสนุกในการแก้ปัญหา ฮึกเหิม รู้สึกว่าได้ประโยชน์ ได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น ส่งผลทำให้เกิดการแก้ปัญหาในทางสร้างสรรค์
• การจะก้าวผ่านอุปสรรค เด็กต้องการคู่คิด (แต่มิใช่คิดแทนเด็ก) ต้องการคนให้กำลังใจ หรือกลุ่มเพื่อนที่เข้าใจความรู้สึก บรรยากาศรอบตัวที่ไม่กดดันหรือสงสารเกินไปจนพ่อแม่ไปแก้ปัญหาแทนเด็ก
• การฝึกให้เด็กช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ฝึกให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เป็นรากฐานของการทำงานเป็นทีม
• พ่อแม่ที่มีแนวคิดว่าทุกคนมีโอกาสทำเรื่องผิดพลาดได้ จะช่วยให้เด็กมีความหวัง มีมุมมองต่ออุปสรรคหรือปัญหาที่เกิดขึ้นในด้านดี เชื่อมั่นตนเอง ยอมรับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น จึงควบคุมอารมณ์ต่างๆได้ และใช้ความคิดได้สูงสุดในการแก้ปัญหา
ไม่ควรทำ
• พ่อแม่ที่ใช้วิธีการกดดัน ข่มขู่ โกรธ หรือแสดงความไม่พอใจ เมื่อเวลาที่เด็กทำผิดพลาดหรือพบอุปสรรค จะทำให้เด็กวิตกกังวล กลัว คิดไม่ออก แก้ปัญหาไม่ได้ จึงพยายามเลี่ยงปัญหาให้มากที่สุด และสุดท้ายเด็กก็จะแก้ปัญหาไม่เป็นหรือแก้ปัญหาในทางก้าวร้าวหรือรุนแรง หัวใจการเลี้ยงดู ฝึกลูกให้มองโลกแง่บวก
จัดทำข้อมูลโดย : นพ.ประเวช ตันติพิวัฒนสกุล กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข แผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย
สนับสนุนโดย : สำนักกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
จาก นิตยสารธรรมลีลา ฉบับที่ 156 ธันวาคม 2556 โดย แผนงานสร้างเสริมสุขภาพจิตเพื่อสุขภาวะสังคมไทย
http://www.manager.co.th/Dhamma/viewnews.aspx?NewsID=9560000149611