พระอาจารย์รุ่งปลงผมให้หลวงพ่อคูณ.
สร้าง...เคียวเกี่ยวทรัพย์พญาไก่ สืบ...ปริศนาธรรม "หลวงพ่อคูณ"
“กูให้มึง...”
เอกลักษณ์แห่ง “ทานบารมี” ของ พระเทพ-ชวิทยาคม แก่สังคมทุกระดับ...
....คุณความดีนี้เป็นปัจจัยเพิ่มพูน ให้ชนทั้งชาวไทยและต่างประเทศเลื่อมใสศรัทธามาอย่างต่อเนื่อง แต่ละช่วงเวลาก็จะมา กราบไหว้สักการะอริยสงฆ์รูปนี้...ด้วยจิตบริสุทธิ์ ว่าเป็น สิริมงคล...!!
O O O
ปีที่ผ่าน....พระเทพวิทยาคม “คูณ ปริสุทฺโธ” แม้จะอายุย่างเข้าปีที่ 91 แล้ว แต่ชาวบ้านคงระดับวัยเรียกสั้นๆว่า “หลวงพ่อคูณ” ได้ให้พรว่า....
“....ปีใหม่ พยายามรักษาศีลห้าเป็นที่ตั้ง ขอ อย่าแตกสามัคคี ยึดเหนี่ยวกันให้แน่นหนา จะต่างคนต่างไป ต่างคนต่างอยู่บ่ได้ดอก จงมีเมตตากันตกทุกข์ได้ยากก็ช่วยกัน เท่านี้มึงก็ฟังรู้เรื่องรู้ภาษา จะได้เจริญอายุวัณโณสุขังพลัง....นั้นแหละ อย่าแตกสามัคคีกันเด้อลูกหลานเด้อ...”
จะเห็นได้ว่า....หลวงพ่อคูณ จะเน้นย้ำสุดๆก็คือ “สามัคคี” กับ “เมตตา” ซึ่งท่านได้ทำเป็นแบบอย่างในกิจปฏิบัติ....หลวงพ่อคูณนำปลุกเสกเคียวเกี่ยวทรัพย์ฯ.
O O O
ทศวรรษที่ผ่าน.....ช่วงที่ หลวงพ่อคูณ ยังแข็งแรง พระครูวินัยธร เตชธโร (ตามศักดิ์เป็นหลาน หลวงพ่อคูณ) พระลูกวัดบ้านดอนน้อย (ห่างจากวัดบ้านไร่ราว 1 กิโลเมตร) ซึ่งได้เข้ามาปรนนิบัติและศึกษาเล่าเรียนวิชาอาคม วันหนึ่งขณะที่กำลังปลงผมให้หลวงพ่อคูณ
ก็ได้รับคำถามว่า “....ถ้ามึงเป็นเจ้าอาวาสแล้วคิดจะพัฒนาวัดไหมล่ะ....” ด้วยใจไม่คิดว่าจะเป็นใหญ่เป็นโตเพราะเพิ่งจะบวชได้ไม่กี่พรรษา แต่ก็ตอบว่า “ เป็นหน้าที่ที่จะต้องทำอยู่แล้ว”
“.....ถ้ามึงจะทำต้องมีปัจจัยเป็นพลัง กูจะบอกให้ลองทำเคียวหัวเป็นไก่ ผู้ที่นำไปใช้จะได้มีพลัง เมื่อมันขลังมึงก็จะทำอะไรได้สำเร็จ....แต่อย่าทำบ่อยคนมันจะเสื่อมศรัทธา”
คำนี้ทำให้ พระครูวินัยธร เตชธโร หรือ พระอาจารย์รุ่งนำมาครุ่นคิดว่า ตา (หมายถึงหลวงพ่อคูณ) กำลังบอกอะไรกับตัวเองผู้เป็นหลาน...!!
O O Oพระอาจารย์รุ่ง.
อย่างไม่น่าเชื่อ อีก 2 พรรษาต่อมา พระอาจารย์รุ่ง ก็ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดดอน-น้อย 116 บ้านดอนน้อย หมู่ 10 ต.กุดพิมาน อ.ด่าน– ขุนทด จ.นครราชสีมา
เมื่อเป็นเจ้าอาวาสจึงได้สะสมมวลสารจากงานเททองหล่อพระต่างๆในหลายร้อยพิธี ทั้งชนวนพระกริ่ง ชนวนเหรียญของพระเกจิอาจารย์ดังๆเท่าที่จะหาๆได้....ฯลฯ
....รวบรวมเป็นมวลสารเพื่อสร้างวัตถุมงคลตามที่ตั้งจิตอธิษฐาน เพื่อให้พุทธคุณเข้มขลังครอบจักรวาล ด้วยถือว่า ครั้งนี้เป็นครั้งเดียวที่หลวงพ่อคูณมีการชี้แนะ (ส่วนใหญ่จะเห็นมีแต่ขอสร้างพระ สร้างเหรียญ หรือรูปเหมือนหลวงพ่อคูณ)
คาบเวลาในการสะสมโลหะก็ศึกษาไปด้วยว่า “เคียวหัวไก่” มีความหมายในปริศนาธรรมอย่างใด และได้ตั้งชื่อวัตถุมงคลรุ่นนี้ว่า....เคียวเกี่ยวทรัพย์พญาไก่
O O Oเคียวเกี่ยวทรัพย์ฯบูชา.
เคียว....ลักษณะของพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว เป็นอุปกรณ์ที่เก็บเกี่ยวข้าวเลี้ยงคนทั้งโลกมาตั้งแต่ครั้งดึกดำบรรพ์ ปัจจุบันการใช้งานลดท่าล่าถอยลงเนื่องจากชาวนาหันมาใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีแทน การนำมาเป็นปัจจัยกับเครื่องรางของขลังนี้ จึงมีความหมายที่สำคัญมากในพลานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์ที่จะเกี่ยวเอาทรัพย์สินเงินทองโชคลาภเข้ามาไว้ในตัว
ส่วน “ไก่” นั้น สัญลักษณ์นักษัตรของปีระกา โดยเฉพาะศักราชนี้ (2557) ถือว่าเป็น ปีชง หากมีไว้บูชาจะได้แก้อาถรรพณ์ต่างๆอันจะเกิดขึ้นให้บางเบาหรือสลาย และอีกประเด็น ไก่มีนิสัยรักเพื่อน เผื่อแผ่พวกพ้อง
ซึ่ง....ตรงกับความต้องการ ของ “หลวงพ่อคูณ” ที่เน้นนักเน้นหนา.....คือ ให้มีความสามัคคี...!!
O O O
อีกทั้ง.....ไก่ก็มีความสำคัญผูกพันพุทธตำนานภัทรกัปพระเจ้า 5 พระองค์ ในชาติของ พระกกุสันโธ ซึ่งมี แม่เลี้ยงเป็นพญาไก่ โดย ทั้งที่ตัวเองไม่รู้ว่าแม่จริงนั่นคือกา วันหนึ่งขณะออกคุ้ยเขี่ยหาอาหาร
พลันเหยี่ยวบินโฉบลงมาเพื่อจับกิน เป็นอาหาร พระกกุสันโธตกใจมากจึงร้องขอความช่วยเหลือ ณ ที่นั่นแม่กาเกาะอยู่ เมื่อได้ยินเสียงจึง มองจากยอดกิ่งไม้ลงมาเบื้องล่างแต่ก็มิเห็นพระกกุสันโธ เพราะทันทีทันใดพญาไก่จึงกางปีกหุบเอาไว้ให้รอดพ้นกับภัย
กาลเวลาต่อมา เมื่อพระกกุสันโธได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าองค์แรกในภัทรกัปป์นั้น ศาสนาของพระองค์เจริญรุ่งเรืองมาก เหล่ามนุษย์มีอายุยืน ไม่มีมาร ไม่มีการเบียดเบียน กันเลย
O O O
ทุกค่ำเช้าพระองค์จะชุมนุมเหล่าบริวารบอกสอนให้รู้จักมีสามัคคีธรรม มีสัมมาอาชีพอันสุจริต แบ่งปันเผื่อแผ่ซึ่งกันและกัน...อันเป็นหนึ่งใน ปริศนาธรรมที่บ่งชัดถึงคุณธรรมของไก่
วัตถุมงคลรุ่นนี้เป็นการเอาพลังแห่งเคียวกับพญาไก่เข้ามาผสมผสาน เป็น “เคียวเกี่ยวทรัพย์พญาไก่” ตามคำแนะนำของ หลวงพ่อคูณ
และเมื่อ “กูให้มึง” แล้วก็สำแดงความเมตตาอย่างเต็มที่ พอแล้วเสร็จ เมื่อ 15 สิงหาคม 2556 จึงให้เข้าพิธีกรรมพุทธาภิเษก ณ วัดบ้านไร่ โดย หลวงพ่อคูณ นำพระเกจิอาจารย์ 90 รูปบริกรรมคาถา เป็นวาระแรก
เคียวเกี่ยวทรัพย์ฯห้อยคอ.
O O O
จากนั้นจึงได้นำพิธีกรรมอีก 4 ครั้ง คือ ที่ วัดถ้ำตะเพียนทอง ลพบุรี วัดบ้านด่าน จันทบุรี วัดสนธิ์ทองวังใหม่ จันทบุรี ตบท้ายที่ วัดบ้านดอน-น้อย...ก่อนจ่ายแจกศิษยานุศิษย์
ครบ 5 วาระ....ตามภัทรกัปพระเจ้า 5 พระองค์ในการผนึกพลังแห่งพุทธคุณ.....ส่วนจะเข้มขลังแค่ไหน ยังไม่มีกระแสสวนกลับ...!!!
ก้อง กังฟู
ขอบคุณภาพและบทความ
http://www.thairath.co.th/column/life/badal/395263