พิมพ์

[raponsan]

รับมือนักท่องเที่ยวจีนพรึบ! มาแน่สงกรานต์เชียงใหม่

จากกระแสที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่นักท่องเที่ยวชาวจีนเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ทั้งจากความนิยมในภาพยนตร์ "Lost in Thailand" ที่ใช้สถานที่ใน จ.เชียงใหม่ ถ่ายทำเป็นหลัก ผนวกกับการต้อนรับเดือนแห่งความชุ่มฉ่ำ คลายร้อน ในเทศกาลสงกรานต์ไทย แห่เที่ยวเชียงใหม่เมืองล้านนา เล่นน้ำคูเมือง ประแป้งหนุ่มสาวกันสุดสนุก...

สิ่งที่มาพร้อมกับการหลั่งไหลมาเที่ยวของนักท่องเที่ยวจีน คือ ปัญหาจากพฤติกรรมต่างๆ ของชาวจีน ให้คนไทยต้องรับมือกันอยู่ วันนี้ "ไทยรัฐออนไลน์" ขอทำหน้าที่ไปหาคำตอบ ต้องทำความเข้าใจ เรียนรู้ และรับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้น โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ เทศกาลสำคัญของไทยที่กำลังจะมาถึงนี้

ศ.ดร.มิ่งสรรพ์ ขาวสอาด ผู้อำนวยการสถาบันศึกษานโยบายสาธารณะ (PPSI) มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) และกรรมการที่ปรึกษาศูนย์วิจัยยุทธศาสตร์ไทย-จีน สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เล่าปูพื้นความเข้าใจเรื่องที่ชาวจีนเข้ามาท่องเที่ยวในไทยให้ไทยรัฐออนไลน์ฟัง ว่า จากสถิติของประเทศไทยขณะนี้ พบว่า คนจีนเข้ามาเที่ยวประเทศไทยในปี 2556 ที่ผ่านมา ถึง 4 ล้านคน จากเดิมในปี 2555 สถิติ 2 ล้านคน หากปีนี้และปีหน้าไม่มีสถานการณ์การเมืองรุนแรง สถิติจำนวนนักท่องเที่ยวอาจเพิ่มถึง 6-8 ล้านคนได้ ซึ่งตรงนี้อาจจะรับมือกับการเข้ามาลำบากยิ่งขึ้น คนจีนเองขณะนี้ตื่นตัวเรื่องการท่องเที่ยวมาก อยากออกไปเดินทางนอกประเทศ เพราะว่าเขาถูกปิดกั้นมานาน เรื่องเดียวที่ชะลอการเข้ามาท่องเที่ยวในไทย คือ การเมืองของเรา รัฐบาลจีนจะมีการออกประกาศเตือนเกี่ยวกับความรุนแรงในประเทศไทยเป็นระยะ

 

นักท่องเที่ยวทุนต่ำ...

จากการวิจัยยังพบรายได้ของคนจีนที่เข้ามาท่องเที่ยว ประมาณ 15,000 บาทต่อคนเท่านั้น ซึ่งการไหลเข้ามานี้ เป็นผลของการคมนาคมที่สะดวกสบายขึ้นด้วย คนจีนบางส่วนบอกว่า การมาท่องเที่ยวเมืองไทยนั้น ถูกกว่าเที่ยวบางเมืองในประเทศจีนเสียด้วยซ้ำ มาเที่ยวเชียงใหม่ราคาถูกกว่า

จริงๆ ถือว่าเก่งมาก ที่สามารถแสวงหา Low cost opsion ได้ ในกรุงเทพฯ เอง พบว่ามีชาวจีนมาเปิดคอนโดมิเนี่ยม แล้วให้บริการคนจีนด้วยกันมาพัก คิดค่าบริการในราคาถูก แต่ในที่สุดประเทศของเราไม่ได้อะไร เขากลับมาลงทุนธุรกิจเป็นของเขาเอง เชียงใหม่กำลังเจอกับเรื่องนี้อยู่พอตัว

บุก มช.ตระเวนถ่ายรูป เที่ยวฟรี!

สำหรับเชียงใหม่ในช่วงแรกที่เป็นปัญหาที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปเยี่ยมชมมหาวิทยาลัยในจังหวัด และเพิ่มจำนวนมากขึ้น ทั้งมานั่งรับประทานอาหารในโรงอาหารมหาวิทยาลัย จนนักศึกษาไม่มีพื้นที่ เพราะโต๊ะถูกจับจองเต็มหมดแล้ว หรือที่เห็นชัด คือ นักท่องเที่ยวไม่รักษากฎจราจร

เมื่อลองเปรียบเทียบการเดินทางท่องเที่ยวของจีนและชาติตะวันตกแตกต่าง นักท่องเที่ยวตะวันตกมีไปพักโรงแรมปกติ แต่การเที่ยวของคนจีนนั้น ส่วนหนึ่งจากการไหลเข้ามาทางตอนบนของภาคเหนือ ที่สำคัญ คือ การเปิดสะพานเชียงของ จ.เชียงราย นักท่องเที่ยวที่เข้ามาส่วนใหญ่จะมีรายได้ไม่สูงนัก ปัญหาที่พบ คือ เขาเหล่านั้นเข้ามาท่องเที่ยวก็จะไม่นิยมพักโรงแรม บางคนก็เช่าหอพักรายวัน 200-300 บาท พักแบบราคาถูก

 

แนวทางรับมือ มาตรการกฎหมาย จริงจังในอนาคต...

ส่วนตัวคิดว่าไม่เห็นด้วยกับมาตรการยกเลิกวีซ่า เพราะคิดว่าวีซ่าเป็นการกรองคนขั้นต้น จะไม่ได้กลุ่มแสวงหาผลประโยชน์ผิดกฎหมาย หรือแก๊งลูกหมู เข้ามามากจนเกินไป

ต่อมาเราควรบังคับใช้กฎหมายกับนักท่องเที่ยว ถ้าเขาทำอะไรผิด แต่ควรเป็นวิธีตักเตือนทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อน อาทิ ตำรวจอาจต้องเตรียมพร้อม เช่น มีการจัดทำใบคู่มือเล็กๆ 1 แผ่น เป็นภาษาจีน อธิบายกฎจราจร และตักเตือนเขา แต่ไม่ได้ไปขู่ทำอะไรเขา ส่วนใหญ่แล้วคนจีนจะค่อนข้างกลัวระเบียบกฎหมายต่างๆ เพราะว่า เขามาจากบ้านเมืองที่กฎระเบียบเคร่งครัดมาก อยู่ในประเทศที่รัฐบาลเข้มแข็ง พอเห็นประเทศไทย คนไทยใจดี เราปล่อยสบายๆ ก็ต้องมีวิธีการชี้แจง เขาจะเริ่มทำตัวดีขึ้น รัฐบาลจีนเองก็เริ่มสั่งสอนคนจีนแล้วด้วย มีการออกคู่มือวิธีเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ เพราะเขามีปัญหามากพอสมควร

คนไทยเน้นวิธีประนีประนอม!...

ประเทศไทยเน้นว่าอย่าเกรงใจมาก หากเราจะเป็นประเทศท่องเที่ยว เราก็อยากให้คนที่มาท่องเที่ยวกับเราอย่างสนุกสนาน และมีความสุขในการท่องเที่ยวอย่างมีอารยะ ไม่ใช่อยากได้เงินอย่างเดียว ถ้าหากมาทำอะไรที่ทำให้เราลำบากก็ไม่อยากได้ อยากได้มิตรภาพที่ดี แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจกัน หากเข้ามาแล้วทำอะไรที่ในประเทศตัวเองไม่ทำและไม่เป็นอารยะ ถือว่าไม่ให้เกียรติกัน ไม่อยากจะให้คนไทยยอมทนอย่างเดียว เพราะพอไปทนๆ สะสมกันเข้าไปจะแย่
 
 

เสนอทางออกสุดท้ายให้ win-win รวมกัน...

ตอนนี้แนะนำให้มีการทำ Application ของคนจีนฟรี แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่อย่างละเอียด ว่าเขาไปเที่ยวที่ไหนได้ ไปเที่ยวตามที่แนะนำ มีการเก็บเงินค่าเข้าใช้บริการ เยี่ยมชมสถานที่ อย่างในมหาวิทยาลัย ก็เก็บค่าเข้าเยี่ยมชมได้ รวมทั้งสถานที่รับประทานอาหาร ร้านอาหารต่างๆ ในเชียงใหม่ให้หลากหลาย ได้ประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย

เชื่อว่าคนไทยเรามีน้ำใจและเป็นมิตรเป็นทุนเดิม ไม่ว่านักท่องเที่ยวชาติใดเข้ามาทำความรู้ใจทักทาย เราก็พร้อมจะต้อนรับเต็มที่ อยากขอให้สงกรานต์นี้เป็นเทศกาลแห่งรอยยิ้มและความสนุกหรรษา มีความสุขร่วมกัน ทั้งเจ้าบ้านประเทศไทยเราเองและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมเยือนรับเอามิตรภาพกลับไปเต็มที่ หวังว่าโอกาสหน้าจะได้พบกันใหม่ สวัสดี หนี่ห่าว.

ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/415130