ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: พระพรหมสิทธินำพระธรรมทูตเยือนแดนจิงโจ้ ชาวไทย-ลาวปลื้มได้ใส่บาตรทำบุญ  (อ่าน 1245 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29352
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


พระพรหมสิทธินำพระธรรมทูตเยือนแดนจิงโจ้ ชาวไทย-ลาวปลื้มได้ใส่บาตรทำบุญ
สำราญ สมพงษ์ รายงาน

ระหว่างวันที่ 26 เม.ย.ถึงวันที่ 1 พ.ค.2557 ที่ผ่านมา พระพรหมสิทธิ เจ้าคณะภาค 10 ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้นำคณะพระธรรมทูตไทยโดยมีพระเทพโพธินิเทศ หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล พร้อมด้วยพระธรรมทูตอีก 4 รูป เดินทางไปเยือนประเทศออสเตรเลียเปิดโครงการพระธรรทูตสัญจรเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนา กระชับความสัมพันธ์ด้านวัฒนธรรมและศาสนาระหว่างประเทศไทยกับประเทศออสเตรเลีย และติดตามความคืบหน้าผลการจัดโครงการบรรพชาสามเณรชาวพุทธออสเตรเลียสู่พุทธภูมิ

ตามการนิมนต์ของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ อัครราชทูต กรุงแคนเบอร์รา โดยการสนับสนุนของกระทรวงการต่างประเทศ  โดยมีเฟซบุ๊ก "Prayut Rueangraikhok" "ท่านคมสรณ์ ข่าวสารงาน-พระธรรมทูตอินเดีย" และ "หัวหน้าพระธรรมทูต สายประเทศอินเดีย-เนปาล"  รายงานกิจกรรมดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง

กิจกรรมเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 27 เม.ย.คณะพระธรรมทูตไทยได้ออกรับบิณฑบาตที่นครซิดนีย์ได้มีชาวไทยพุทธใส่บาตรเป็นจำนวนมาก ต่อจากนั้นได้เดินทางพบปะและสนทนาธรรมกับชุมชนไทยและฉันเพลที่วัดพุทธรังษี แอนนันเดล มีพระครูวิเทศธรรมานุศาสน์เป็นเจ้าอาวาส ได้มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยและชาวลาวร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก จากนั้นช่วงบ่ายนายมาริษพาล่องเรือไปชมโลงละคร Opera House ที่มีแรงบันดาลใจจากใบเรือโบราณและสะพาน Harbor สัญญลักษณ์แห่งความหวัง



วันจันทร์ที่ 28 เม.ย. ช่วงเช้าคณะพระธรรมทูตไทยพบปะและสนทนาธรรมกับชุมชนไทยและฉันเพลที่วัดป่าพุทธรังษี ลูเมียห์  ซึ่งมีพระเทพสีลาภรณ์(เจ้าคุณสมัย) เป็นเจ้าอาวาส มีพุทธศาสนิกชนชาวไทยชาวลาวรวมถึงพระอาจารย์กัลยาโณ จากวัดป่าวอร์เบอร์ตัน นครเมลเบิร์น รัฐควีนส์แลนด์ ลูกศิษสายพระอาจารย์ชา เดินทางมาเพื่อตอนรับร่วมเจริญพระพุทธมนต์และฉันเพลด้วย

ในโอกาสนี้พระเทพโพธิวิเทศได้บรรยายธรรมให้ญาติโยมได้ทราบเกี่ยวกับการแสวงบุญของชาวไทยใน 4 แห่งสังเวชนียสถาน โดยระบุว่า ทำไมพระธรรมทูตสายนี้จึงได้ทุ่มแรงกายแรงสมองพัฒนาสร้างโน่นสร้างนี่กันมากมายในประเทศอินเดีย ทั้งๆที่ไม่ใช่ประเทศของเรา ทั้งนี้เพราะประเทศอินเดียเป็นแหล่งกำเหนิดพระพุทธศาสนาเป็นรากเหง้าของเรา พุทธศาสนาไปเจริญเติบโตที่ประเทศไทยอย่างมากมาย

"การทำงานที่ประกอบด้วยศรัทธาจะไม่รู้จักคำว่า หนักเหนื่อย เพราะการทำงานทั้งหมดนั้นคือ ทำเพื่อ “ถวายเป็นพุทธบูชา” ในดินแดนพุทธมาตุภูมิ ถ้าพระพุทธศาสนาเปรียบเหมือนกับต้นไม้ รากแก้วคือแหล่งกำเนิดพระศาสนา ส่วนกิ่งก้าน สาขา ร่มเงา แผ่ขยายกระจายออกไป แม้ประเทศไทยก็ได้รับผลนั้นด้วยหากคิดมองอีกมุมหนึ่ง เรามัวแต่เก็บดอกผล ลืมดูแลรากเหง้า รดน้ำ พรวนดิน ป้องกันแมลง และวัชพืช ไม่นานต้นไม้ก็จะเฉาตาย เพราะไม่มีใครรักษา ดูแลดังนั้น ท่านทั้งหลายที่ได้มาปฏิบัติงานในดินแดนแห่งนี้ ควรตั้งจิตในการงาน หน้าที่ ว่าจะทำงานนั้นตอบคุณแทนบุญพระพุทธศาสนาด้วย ศรัทธาในพระพุทธองค์ รดน้ำ พรวนดิน เพื่อให้ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ เป็นร่มเงาที่สงบเย็น ออกดอกออกผล เมื่อผลงานออกมาพระพุทธศาสนาก็ดำรงอยู่ ถ้าตั้งจิตไว้ถูกต้องอย่างนี้" หัวหน้าพระธรรมทูตไทยสายอินเดีย-เนปาล กล่าว



การเยี่ยมชมวัดพุทธรังษีของคณะพระธรรมทูตไทยครั้งนี้สร้างความปลื้มปีติแก่ชุมชนชาวไทยและชาวลาวเป็นอย่างมาก นายมาริษจึงได้เสนอให้ญาติธรรมรวมตัวกันจัดทัวร์ธรรมะไปสักการะพระพุทธเจ้าดินแดนพุทธภูมิด้วย

ช่วงบ่ายคณะพระธรรมทูตไทยเดินทางไปเยี่ยมวัดป่าโพธิศรัทธา(www.bodhikusuma.com) ซึ่งเป็นวัดที่สร้างโดยแรงศรัทธาของแม่ซึ่งเป็นคหบดีชาวอินโดนีเซียให้กับลูกชายซึ่งบวชเป็นพระที่วัดมาบจันทร์จังหวัดระยอง ศาสนาพุทธและชายผ้าเหลืองได้เปลี่ยนให้พระลูกชายมุ่งมั่นที่จะเผยแผ่พุทธศาสนา และด้วยความศรัทธาแม่จึงสร้างวัดโพธิศรัทธาให้ลูกได้อยู่ใกล้ชิดกับแม่

วันอังคารที่ 29 เม.ย. คณะพระธรรมทูตไทยพบปะและสนทนาธรรมกับชุมชนไทยและฉันเพลที่วัดธัมมธโร ซึ่งเป็นวัดพุทธศาสนาแบบไทย นิกายเถรวาทเพียงวัดเดียว ตั้งอยู่ที่กรุงแคนเบอร์รา นครหลวงของประเทศออสเตรเลีย มีพระสงฆ์เป็นพระไทยก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2536 โดยอาศัยแรงศรัทธาร่วมกันจากชาวไทยและชาวพุทธที่อาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียและชาวไทยในประเทศไทย ปัจจุบันอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของมูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยมีสมเด็จญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก เป็นองค์นายกกรรมการมูลนิธิฯ มีพระราชสีลาภรณ์ (พระมหาศุภชัย ติกฺขวีโร) เป็นเจ้าอาวาสที่ปฏิบัติหน้าที่ได้สำเร็จผลเป็นอย่างดี



วันพุธที่ 30 เม.ย.คณะพระธรรมทูตไทยได้พบปะและสนทนาธรรมกับชุมชนไทยและฉันเพลที่วัดไทยนครเมลเบิร์น

นอกนากนี้คณะพระธรรมทูตไทยยังได้เดินทางไปเยี่ยมสถานเอกอัครราชทูต กรุงแคนเบอร์รา ที่มีเอกลักษณ์ สัญญลักษณ์ไทยในต่างแดน เด่นสง่า สมคุณค่าภูมิใจในความเป็นไทย  โอกาสนี้นายมาริษกล่าวว่า ตลอดเวลาที่คณะพระธรรมทูตไทยพบกับชาวไทยที่มีจิตรศรัทธาต่อพุทธศาสนา จึงไม่เป็นที่หนักใจต่อการเผยแผ่ในพระพุทธศาสนาในภูมิภาคนี้

อย่างไรก็ตามพระพรหมสิทธิได้เล็งเห็นว่าในอนาคตความสำเร็จของการเผยแผ่พระพุทธศาสนาในภูมิภาคนี้ขึ้นอยู่กับความเข้าถึงพระธรรมคำสอนของพุทธศาสนิกชนยุคใหม่ ดั้งนั้นการให้ความรู้ความเข้าใจในพระพุทธศาสนาแก่เยาวชนไทยที่เติบโตอยู่ในภูมิภาคนี้จึงเป็นหน้าที่หลักของพระธรรมทูต และของสถานเอกอัครราชทูตในอนาคต


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140502/183906.html#source_video
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ