ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สั่งรื้อแล้ว "โดมชฎาทอง" หอชมวิวบังพระธาตุดอยสุเทพฯ  (อ่าน 914 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29371
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0


สั่งรื้อแล้ว"โดมชฎาทอง"หอชมวิวบังพระธาตุดอยสุเทพฯ

คณะกรรมการวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ชี้แจงกรณี "โดมชฎาสีทอง" บนยอดหอชมวิว ที่ไปคล้ายกับขององค์พระธาตุฯ โดนคนด่าทั้งเมืองว่าไม่เหมาะสม ล่าสุดสั่งให้รื้อแล้ว พร้อมเปิดหลังคาโล่งเหมือนดาดฟ้า ยืนยันเจตนาสร้างเพื่อให้มีที่บังแดดบังฝนเท่านั้น

ภายหลังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ถึงความไม่เหมาะสมของการก่อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์ หอชมวิว และห้องสมุด ที่มียอดโดมชฎาสีทองเป็นชั้น ดูคล้ายองค์พระบรมธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ และไปบดบังความงามสง่าขององค์พระบรมธาตุฯ จนสร้างกระแสความไม่พอใจแก่ผู้พบเห็น และมีการคัดค้านขยายวงออกไปทั่ว จ.เชียงใหม่ รวมถึงคนไทยทั่วไปที่เห็นว่าไม่สมควรนั้น


 :96: :96: :96:

เกี่ยวเรื่องนี้เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. นายวัลลพ นามวงศ์พรหม คณะกรรมการพัฒนาวัดพระธาตุดอยสุเทพฯ ได้ชี้แจงว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทางพระเทพวรสิทธาจารย์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร ได้หารือกับคณะกรรรมการฯ ได้ข้อสรุปว่า เพื่อให้เกิดความสบายใจของทุกฝ่ายที่ห่วงใยปัญหาดังกล่าว ทางวัดจึงให้มีการรื้อถอนโดมชฎาสีทองบนส่วนยอดทั้งหมดลงมาแล้ว และจะให้ฝ่ายวิศวกรปรับปรุงตัวอาคารใหม่ โดยจะเปิดหลังคาชั้นสี่ของอาคารหอสมุดเดิมเป็นลานโล่งเหมือนดาดฟ้า และให้มีหลังคาเป็นแผ่นใสเฉพาะบริเวณกึ่งกลางห้องที่กันฝนได้เท่านั้น

"ตั้งแต่ชั้นสามลงไปยังเป็นห้องรับรองบุคคลสำคัญ และห้องสมุดเหมือนเดิม ซึ่งความตั้งใจของคณะกรรมการพัฒนาวัดก็มุ่งที่จะสร้างหอชมวิวให้นักท่องเที่ยวและประชาชนที่ขึ้นไปนมัสการพระบรมธาตุได้มีที่บังแดดบังฝน ไม่ได้หวังสร้างให้พระภิกษุและสามเณรในวัดใช้ประโยชน์แต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ทางคณะกรรมวัดพร้อมจะน้อมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร เพื่อให้ยุติปัญหาลงด้วยดี" นายวัลลพ กล่าว.


ขอบคุณภาพข่าวจาก
http://www.thairath.co.th/content/427285
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ