ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: รู้หลักมากมาย แต่ไร้การปฏิบัติ ความเข้าใจที่แท้ไม่ปรากฏ  (อ่าน 2316 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
0

รู้หลักมากมายแต่ไร้การปฏิบัติ ความเข้าใจที่แท้ไม่ปรากฏ
เราเป็นในสิ่งที่เลือก : บาตรเดียวท่องโลก โดยพระพิทยา ฐานิสฺสโร

      เมื่อเดินทางถึงสถานปฏิบัติธรรมบลูคลิฟ (Blue cliff) เกือบตีหนึ่ง ออกจากรถฝนตกพรำๆ อากาศกำลังสดชื่น เย็นสบาย เพราะรายล้อมไปด้วยต้นไม้ ทำให้รู้สึกแตกต่างมากมายจากการผ่านช่วงเวลารถติดและความวุ่นวายบนท้องถนน แม้ไม่เห็นอะไรมากแต่สัมผัสถึงพลังแห่งความสงบ

     ตื่นเช้าหลังจากนั่งสมาธิ พระภิกษุเจ้าอาวาสนำชมสถานที่ปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ทางเดินสมาธิเต็มไปด้วยมอสสีเขียวที่ขึ้นเองตามธรรมชาติทำให้นุ่มเหมือนเดินบนพรม ต้นไม้โดยรอบกำลังแตกใบอ่อนทั้งป่าจึงดูสวยงาม สดชื่น สงบเย็น ประกอบกับเสียงธารน้ำตกเล็กๆ ที่ไหลผ่านตลอดทาง เมื่อได้อาศัยอยู่ ณ ธรรมชาติเช่นนี้ เพียงแค่ดำรงอยู่อย่างกลมกลืนกับธรรมชาติ ปล่อยวางความคิดทั้งปวง ความสุขสงบก็ปรากฏในทันที รู้สึกผ่อนคลายกายและใจ

     คนส่วนใหญ่เลือกจะใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสะดวกสบายทางวัตถุและหลายคนต้องแลกด้วยแรงกาย เวลา ความกดดัน ความเครียด ความกลุ้มใจกังวล ความเร่งรีบ ฯลฯ เราถูกผลักดันให้กระทำตามกระแสของสังคมซึ่งเหมือนกระแสน้ำที่เชี่ยวกราด เราไม่กล้า มั่นใจพอที่จะเป็นปลาที่ว่ายทวนกระแสนั้น เพราะจะทำให้เราเหนื่อย ลำบาก และกลายเป็นชนกลุ่มน้อยที่มีความเห็นต่างอย่างสิ้นเชิงกับคนส่วนใหญ่ในสังคม ถ้าเราไร้ซึ่งความเชื่อมั่น ชัดเจน เราก็จะกลับไปเลือกใช้ชีวิตเฉกเช่นคนในสังคมส่วนใหญ่เหล่านั้น


      :49: :49: :49:

     สองสามีภรรยาชาวเวียดนาม-อเมริกันเลือกที่จะเกษียณอายุการทำงานก่อนกำหนดของทางรัฐบาล นั่นหมายถึงเขาทั้งสองยังไม่ได้เงินสะสมเลี้ยงชีพจากรัฐบาลรายเดือนหลังเกษียณ และสูญเสียรายได้เกือบสิบล้านบาทต่อปีต่อคนจากการทำงานเป็นผู้วิจัยในห้องทดลอง เพื่อเลือกใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ทั้งที่ตื่นแต่เช้าเช่นเดิมเพื่อสวดมนต์ นั่งสมาธิ ใช้ชีวิตช้าลง ทำทุกอย่างๆ ผ่อนคลายมีสติ เพื่อนชาวอมริกันที่ทำงานด้วยกันไม่เข้าใจ

      ถามเขาว่า เธอมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำเช่นนี้ หลายคนเสียดายโอกาสของเขาทั้งคู่ เพราะมีน้อยคนนักที่จะได้ยืนตรงจุดนี้ และคิดว่าต้องเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงกับชีวิตเขาทั้งสอง หรือไม่ก็เป็นโรคร้ายที่ต้องเยียวยารักษา เขาทั้งสองไม่สามารถที่จะตอบคำถามให้คนเหล่านั้นเข้าใจอย่างถูกต้อง ถึงแม้อธิบายอย่างไรก็เป็นการยากที่จะเข้าใจ ที่เลือกการทิ้งโอกาสที่ดีทางสังคม เพียงเพื่อเป็นคนไม่มีอะไรหรือมีน้อยลง เพราะอยากปฏิบัติธรรมมากยิ่งขึ้นและคิดว่ามีสิ่งจำเป็นเพียงพอแล้วต่อการดำรงชีพโดยไม่ลำบาก


       :s_hi: :s_hi: :s_hi:

      สามีออกกำลังกายด้วยการสร้างสวนผักในบริเวณบ้าน ภรรยาทำอาหารมังสวิรัติรับประทานร่วมกันทุกมื้อ เวลาที่เหลือส่วนใหญ่ คือการได้เดิน นั่งสมาธิอย่างสงบร่วมกันและไปศูนย์ปฏิบัติธรรมบ้างเป็นครั้งคราวเพื่อพบปะนักบวชและผู้ต้องการปฏิบัติเหมือนกันที่จะเป็นพลังในการเดินต่อบนหนทางฝึกตนเพื่ออิสรภาพและสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ รับพลังแห่งความสงบจากสถานที่ปฏิบัติธรรมนั้น เขาทั้งสองมีเพื่อนน้อยลงและไม่ได้ไปนั่งพบปะ พูดคุยหรือรับประทาน ดื่มสังสรรค์ร่วมกับกลุ่มเพื่อนๆ มาเป็นเวลานาน แต่เขากลับรู้สึกมีความสุขสงบ ไม่เหนื่อย กายใจเบาสบายมากขึ้น และยินดีกับการเป็นเช่นนี้ ไม่รู้สึกโหยหา โดดเดี่ยว เป็นคนแปลกแยกหรือต้องเข้าสังคม เลิกเสพสื่อบันเทิงโดยสิ้นเชิง

      การเลือกที่จะเรียนรู้อยู่กับตัวเองอย่างมีความสุขโดยเสพแต่น้อย เสพด้วยความเคารพโดยไม่หลงไหลเพลิดเพลิน ยินดี ยินร้ายในสิ่งที่เสพและฝึกที่ให้จิตใจดำรงอยู่กับทุกสิ่งที่กำลังกระทำอย่างผ่อนคลายมีสติ เป็นเสมือนการสร้างพลังแห่งความมั่นคง เข้มแข็ง อ่อนโยนและความสุขสงบจากข้างใน เราจะค่อยๆ เข้าใจความเป็นของธรรมชาติ และปล่อยวางความยึดมั่นในตัวเรา ของเราทีละน้อยอย่างมั่นใจเปี่ยมไปด้วยศรัทธาแห่งวิถีของการปฏิบัติ

     รู้หลักมากมายแต่ไร้การปฏิบัติ ความเข้าใจที่แท้ไม่ปรากฏ


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140605/185935.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ