พิมพ์

[raponsan]

เทรนด์ไอทีเปลี่ยน.! อีก 3 ปี คนจะใช้แอพจากโมบายล์เพิ่มขึ้น

ซีเอ คาดการณ์แนวโน้มการลงทุนด้านไอทีขององค์กรกำลังเปลี่ยนรูปแบบ ย้ายรูปแบบสู่สมาร์ทโมบายล์มากขึ้น แย้มการขยายตัวของอุปกรณ์ แอพพลิเคชั่น และการลงทุนเติบโตตามไปด้วย…

นายสุทัศน์ วงศ์วิเศษกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีเอ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคหันเข้าสู่โลกดิจิตอลมากขึ้น อุปกรณ์ที่นิยมเลือกใช้ส่วนใหญ่จึงเป็นสมาร์ทโฟน ขณะเดียวกันก็ยังมีอุปกรณ์เสริมอย่างแท็บเล็ตเข้ามาอำนวยความสะดวกในการใช้งานด้วย ทำให้เกิดพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโมบายล์มากขึ้น และเกิดพฤติกรรมการใช้พีซีลดลง อย่างไรก็ตาม คาดว่าในปีนี้จะมีการใช้งานอุปกรณ์ในกลุ่มสมาร์ทโมบายล์ราว 20 ล้านเครื่อง จาก 15 ล้านเครื่องในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้การใช้งานบริการโมบายแอพพลิเคชั่นต่างๆ เติบโตตามไปด้วย และมีมูลค่าการใช้จ่ายกว่า 484 ล้านบาทในปีที่ผ่านมา

จากแนวโน้มดังกล่าวส่งผลให้ ระบบไอทีกำลังเปลี่ยนแปลงไปจากเรื่องธุรกิจและงานจัดทำระบบ สู่การเป็นผู้ให้บริการที่มุ่งเน้นเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้น รวมถึงการพัฒนารูปแบบบริการต่างๆ อยู่บนอุปกรณ์โมบายล์มากขึ้นด้วย ซึ่งบริษัทพยายามตอบสนองเรื่องดังกล่าวให้ลูกค้า ผ่านการวางแผนกลยุทธ์รวมถึงการเพิ่มศักยภาพการผลิตซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่นให้มากขึ้นด้วย

ระบบไอทีเปลี่ยนไปสู่รูปแบบโมบายล์มากขึ้น

ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ซีเอ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) กล่าวอีกว่า ทิศทางการลงทุนด้านไอทีในปัจจุบัน พบว่าลูกค้ายังคงลงทุนด้านแอพพลิเคชั่นค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มจะมากกว่าการลงทุนด้านเครื่องมือไอที อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังถือเป็นตลาดที่มีการเติบโตค่อนข้างสูง และบริษัทก็พบว่ายังคงมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อว่าไม่ว่าไทยจะอยู่ในสถานการณ์ใด แต่ไทยก็ยังเป็นประเทศที่สามารถดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติได้อย่างต่อเนื่อง

ด้าน นายฉั่ว ไอ พิน รองประธาน เอเชียใต้ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยีส์ เปิดเผยว่า ภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ไอทีจะไม่ได้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของภาคธุรกิจ แต่จะกลายเป็นปัจจัยในการผลักดันธุรกิจให้มีความแตกต่างและเพิ่มโอกาสได้มากขึ้น โดยแอพพลิเคชั่นกลายเป็นตัวขับเคลื่อนและสร้างประโยชน์ให้ภาคธุรกิจในปัจจุบัน

อีก 3 ปี ไอทีจะเป็นปัจจัยในการผลักดันธุรกิจให้แตกต่างและยังสร้างโอกาส

สำหรับบริการและโซลูชั่นที่ซีเอจะมุ่งเน้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก คือ คลาวด์ (Cloud) , โมบิลิดี้ (Mobility) , บิสสิเนส อินเทอลิเจน (Business Intelligent) , เดฟออป (Devops) , บิ๊กดาต้า (Big Data) โดยบริษัทจะช่วยดูแลลูกค้าตั้งแต่การวางแผน ระบบการพัฒนา ความปลอดภัย และการบริหารจัดการ เนื่องจากด้านไอทีถูกตั้งความคาดหวังมากขึ้น จากพฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการๆ ตอบสนองตลอดเวลา โดยบทบาทของด้านไอทีในธุรกิจแอพพลิเคชั่นกำลังจะเปลี่ยนไป หลายหน่วยงานเห็นความสำคัญในส่วนนี้มากขึ้น เนื่องจากเป็นเทรนด์ความนิยมที่เกิดขึ้นในปัจจุบันและยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

รองประธาน เอเชียใต้ บริษัท ซีเอ เทคโนโลยีส์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเปิดตัวโซลูชั่นเดฟออปนั้น แม้จะถือเป็นเรื่องใหม่แต่ก็ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่ยังรวมถึงระดับภูมิภาคด้วย เชื่อว่าจากความต้องการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งสนับสนุนให้เกิดการพัฒนาแอพพลิเคชั่นตามไปด้วย จะทำให้ลูกค้าของซีเอสนใจและตอบรับโซลูชั่นดังกล่าว เพื่อใช้ในการตอบสนองกรทำงานของทีมพัฒนาแอพพลิเคชั่น เพื่อทำให้สามารถกระจายการพัฒนาได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

 

นอกจากนี้ ซีเอ ยังได้เปิดเผยผลการศึกษาจากรายงาน TechInsights Report : The Changing Role of IT and What to Do About IT ซึ่งได้สอบถามผู้บริหารไอทีระดับสูงกว่า 1,300 ราย จาก 6 ประเทศในเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่น และอีก 15 ประเทศทั่วโลก ซึ่งพบว่า 89% ของผู้ตอบแบบสอบถามมองไอทีเป็นความสำคัญทางยุทธศาสตร์ และเป็นพื้นฐานสำคัญทางธุรกิจ ขณะเดียวกันหน้าที่ของฝ่ายไอทีก็กำลังมีบทบาทเพิ่มขึ้นในการสนับสนุนสายงานทางธุรกิจ

อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ยอมรับว่า ปัจจุบันยังคงมีการใช้งบประมาณด้านไอทีกว่าครึ่งหนึ่งเพื่อการบำรุงรักษาระบบไอที แต่มีการคาดการณ์ว่าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า ตัวเลขดังกล่าวจะเปลี่ยนแปลงเป็นการใช้งานเพื่อเน้นนวัตกรรมมากขึ้น.

ขอบคุณภาพและบทความ
http://www.thairath.co.th/content/437030