ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: สมาธิชาวบ้าน : หนทางไปสู่พระนิพพาน  (อ่าน 2227 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29340
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
สมาธิชาวบ้าน : หนทางไปสู่พระนิพพาน
« เมื่อ: สิงหาคม 15, 2014, 10:36:03 am »
0


สมาธิชาวบ้าน : หนทางไปสู่พระนิพพาน

พระนิพพานไม่ได้ไกลเกินความเป็นจริง พระนิพพานนั้นสามารถเข้าได้หลายทางด้วยกัน อย่างเช่น หนทางหนึ่งในการเข้าสู่พระนิพพานก็คือการทำลายอัตตา ซึ่งถ้าเข้าถึงและรู้แจ้งตรงนี้ก็สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้เหมือนกัน การรู้แจ้งในการถอดถอนปล่อยวางความเป็นเจ้าของออกหมดสิ้น ก็ถึงพระนิพพานได้เหมือนกัน ดังนั้นครูบาอาจารย์จึงมีหลายสายหลายทาง หากใครเก่งทางไหนก็จะสอนทางนั้นให้กระจ่าง ให้แจ้ง

ถ้าครูบาอาจารย์เก่งในเรื่องของการพิจารณากรรม ก็จะสามารถอธิบายเรื่องกรรมได้โดยกระจ่าง โดยแจ้ง ทำกรรมนั้นสูญสิ้นไป เมื่อหมดเชื้อกรรมก็ถึงพระนิพพาน

ครูบาอาจารย์ท่านไหนเก่งทางด้านอธิบายการปล่อยวางหลุดพ้น ก็อธิบายกระจ่างถึงการปล่อยวางหลุดพ้นความเป็นเจ้าของ ทำลายอัตตา ทำลายกรรม อันเป็นสิ่งครอบงำไว้ภายในอัตตาที่คิดว่าเป็นของตน  เมื่อปล่อยวางไปได้หมดสิ้น ดวงจิตนั้นไม่มีเจ้าของแล้ว ธาตุรู้เป็นธรรมชาติ ธาตุนั้นไม่มีเจ้าของอีกต่อไป เมื่อไม่หลงเหลืออวิชชาความยึดมั่นถือมั่น ก็เป็นพระนิพพาน


 :25: :25: :25:

ดังนั้นครูบาอาจารย์ที่แตกฉานในธรรมข้อใด แล้วอธิบายธรรมข้อนั้นได้กระจ่าง ก็เข้าถึงพระนิพพาน พระนิพพานจึงเข้าได้หลายทาง ไม่มีของใครถูก ไม่มีของใครผิด ขอเพียงมีความกระจ่างในธรรมนั้น และสามารถอธิบายธรรมนั้นได้โดยกระจ่าง ก็สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้หมดเช่นกัน

อย่างในความเห็นผู้เขียนเอง ถ้าถามว่าธรรมข้อไหนที่เป็นเลิศในการเข้าถึงพระนิพพาน ก็ขอเลือกการพิจารณา “มรณานุสติ” ธรรมข้ออื่นนั้น ถึงแม้จะรู้ แต่โดยส่วนตัวของผู้เขียนก็ว่าทำให้กระจ่างได้ไม่เท่ากับมรณานุสติ
ธรรมมีหลายประเภท หลายอย่าง หลายทิศทาง แต่ถ้าเราได้ใช้การพิจารณามรณานุสติ พิจารณาความตาย ดำรงจิตไว้ให้ระลึกถึงความตายทุกลมหายใจเข้า-ออกอยู่ตลอด การพิจารณาธรรมข้อเดียวคือมรณานุสติอย่างกระจ่างชัด ก็สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้เหมือนกัน




ธรรมทุกอย่างพอพิจารณาไปมากเข้าๆ ก็พบว่าถ้าอธิบายไปแล้วมันก็เหมือนกับวงกลม คือมันจะเชื่อมโยงกันไปหมด จากอันนี้อธิบายไปก็ไปถึงอย่างนี้ จากอย่างนี้ก็อธิบายไปก็ไปถึงอย่างนี้ ในที่สุดก็เป็นธรรมอันเดียวกัน
ธรรมจึงไม่มีคำว่าขัดแย้งกัน อย่างการปล่อยวางหลุดพ้นจากการเป็นเจ้าของ อธิบายให้ไปพันกับมรณานุสติก็จะเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ เพียงแต่ผ่านการพิจารณาในเรื่องใด

ในเมื่อธรรมเป็นจิตแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอธิบายไปทางไหน มันย่อมไม่มีความขัดแย้ง พออธิบายถึงเรื่องการพิจารณาความตายก็ไปถึงพระนิพพาน อธิบายถึงการปล่อยวางหลุดพ้น ความเป็นอัตตาตัวตน ก็ไปถึงพระนิพพาน ในที่สุดแล้วมันก็เป็นเรื่องเดียวกัน มันจะรู้เหมือนๆ กัน ไม่ต่างกันเลย.



ที่มา http://www.thaipost.net/tabloid/100814/94414
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ