ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: แนะนำ ‘ขันติธรรม’ ตัวช่วยปราบโกง  (อ่าน 1359 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

raponsan

  • มารยิ่งมี บารมียิ่งแก่กล้า
  • ผู้ดูแลบอร์ด
  • โยคาวจรผล
  • ********
  • ผลบุญ: +61/-0
  • ออฟไลน์ ออฟไลน์
  • กระทู้: 29288
  • Respect: +11
    • ดูรายละเอียด
แนะนำ ‘ขันติธรรม’ ตัวช่วยปราบโกง
« เมื่อ: กันยายน 06, 2014, 08:53:55 am »
0

แนะนำ ‘ขันติธรรม’ ตัวช่วยปราบโกง
แนะนำ‘ขันติธรรม’ตัวช่วยปราบโกง : สำราญ สมพงษ์รายงาน

สังคมไทยมีปัญหาเรื่องการทุจริตคอร์รัปชั่นเรื้อรังมาเป็นเวลานานและที่โด่งดังในปัจจุบันนี้ก็คือการทุจริตจำนำข้าว ซึ่งนายกล้านรงค์ จันทิก อดีตกรรมการป้องกันและปราบปรามกรทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวในปาฐกถาพิเศษ เรื่อง บทบาทสื่อกับการตรวจสอบคอร์รัปชั่นในสังคมไทย เนื่องในโอกาสครบรอบ 17 ปี สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติวันที่ 4 ก.ค.2557 ว่า "การทุจริตคอร์รัปชั่นมีมาตั้งแต่ต้นกรุงรัตนโกสินทร์ 4 ก.ค.2557 จากการบอกเล่าพบว่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่มีการฉ่อราษฎร์บังหลวง แต่การทุจริตนั้นไม่ความรุนแรง เพราะสังคมสมัยนั้นไม่ยอมรับ และมีการต่อต้านกดดันทำให้คนฉ้อราษฎร์บังหลวงไม่กล้า แต่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง สังคมไทยมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดคำว่าเศรษฐีสงครามขึ้น และเป็นผลสะท้อนสังคมไทยปัจจุบัน คือ ไม่รู้สึก หรือไม่รังเกียจการคอรัปชั่น  ดังนั้นในช่วงที่เป็นวิกฤตแห่งการทุจริต คอร์รัปชั่นนั้น อยากให้สื่อมวลชนใช้เป็นโอกาสที่ต้องระดมให้ประชาชนเลิกและรังเกียจการคอร์รัปชั่น"

อย่างไรก็ตามแม้ว่าการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นเป็นหน้าที่ของป.ป.ช.โดยตรง แต่ภาพลักษณ์ของประเทศไทยก็ยังไม่ดีขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุจริตเชิงนโยบาย เมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้ยึดอำนาจ และได้มีคำสั่งที่ 69/2557 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบในส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐ ด้าน ป.ป.ช.ก็ได้แสวงหาส่วนร่วมมือจากทุกภาคส่วน อย่างเช่นได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย(มจร) วางแนวป้องกันอย่างเช่นทำคู่มือและกัณฑ์ปราบโกงเป็นต้น


 :49: :49: :49: :49:

พร้อมกันนี้ยังได้เปิดหลักสูตรนักศึกษาหลักสูตรป้องกันและปราบการทุจริตระดับสูง(นยปส.) รุ่นที่ 5 โดยนำบุคคลทุกภาคส่วนเข้ามาอบรมในจำนวนนี้มีพระมหาหรรษา ธมฺมหาโส  ผู้ช่วยอธิการบดี มจร หัวหน้าหลักสูตรปริญญาโท สันติศึกษาร่วมอยู่ด้วย โดยกำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาหมู่บ้านช่อสะอาด ทั้งกายสะอาด พฤติกรรมสะอาด จิตใจสะอาด และปัญญาสะอาด โดยใช้หมู่บ้านท่าคอยนาง หมู่ที่ 5 ตำบลสวาย อำเภอปรางค์กู่ จังหวัดศรีสะเกษ ประเทศไทย พัฒนาเป็นต้นแบบหมู่บ้านช่อสะอาด  โดยพระมหาหรรษากล่าวว่า จะพัฒนาโดยตั้งอยู่บนพื้นฐานแนวคิดที่ว่า "ความสะอาดของประเทศเริ่มต้นจากหมู่บ้านสะอาด" โดยการดึงพลังจาก "บวร" คือบ้าน วัด และโรงเรียน มาผนึกกำลังมาร่วมพัฒนาหมู่บ้านช่อสะอาด

ขณะเดียวกันยังได้มีการตั้งองค์กรปราบทุจริตคอร์รัปชั่นอย่างเช่นองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นประเทศไทย และสถานการศึกษาเองอย่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เข้ามามีส่วนร่วมจัดด้จัดงานเสวนาวิชาการ เรื่อง ปฏิรูปสังคมไทย พ้นภัยคอร์รัปชั่น เนื่องในโอกาสครบรอบ 80 ปีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2557 ซึ่งนายสมเกียรติ ตั้งกิจวาณิชย์ ประธานสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวว่า ทีดีอาร์ไอเคยได้ทำการศึกษาปัญหาคอร์รัปชั่นในประเทศไทยเกิดจากกลุ่มธุรกิจผูกขาด

 :sign0144: :sign0144: :sign0144: :sign0144:

พร้อมกันนี้สถาบันพระปกเกล้าจัดงานสัมมนา "ปฏิรูปประเทศไทย : การต่อต้านการทุจริต" ภายใต้โครงการสัมมนาสู่ทศวรรษที่เก้า : ก้าวใหม่ของระบอบประชาธิปไตยไทย ของสถาบันพระปกเกล้า โดยนายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า กล่าวตอนหนึ่งในการปาฐกถาพิเศษว่า สถานการณ์การทุจริตในประเทศไทยมีแนวโน้มที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น เพราะจากผลสำรวจขององค์กรเพื่อความโปร่งใสที่ไทยถูกลดอันดับจากลำดับที่ 88 ไปอยู่ที่ 102 รวมถึงผลสำรวจความเห็นของประชาชนที่ให้การยอมรับการทุจริตเกิดขึ้นหากได้ประโยชน์ จึงมีความจำเป็นที่ต้องยกระดับการปราบปรามและป้องกันทุจริตเป็นวาระแห่งชาติ และสร้างกลไกและความเข้มแข็งทางสังคม ในประเด็นค่านิยมด้านการซื่อสัตย์สุจริต ไม่ยอมรับการทุจริต ที่ถือเป็นคำตอบที่สำคัญ

ดร.ถวิลวดี บุรีกุล ผู้อำนวยการสำนักวิจัยและพัฒนา สถาบันพระปกเกล้า ถอดรหัสแนวทางที่นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อต่อต้านการทุจริตให้เป็นรูปธรรมไว้ว่า ต้องคำนึง 3 ปัจจัยหลักไปพร้อมกัน คือ
    1.การป้องกันการทุจริต
    2.การปรามปรามกลโกงทุกรูปแบบ และ
    3.การส่งเสริมให้คนปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริต

โดยการกำหนดมาตรการให้มีผลในแง่ปฏิบัติ จำเป็นต้องยึดหลัก 8 ประการแบบไม่ละเว้น คือ
    1.การบังคับใช้กฎหมายอย่างมีนิติธรรม,   
    2.ปลูกฝังค่านิยมคนให้ไม่อดทนต่อการทุจริตทุกรูปแบบ,
    3.การปฏิบัติที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน อาทิ การรับบริการสาธารณะ หรือจากหน่วยงานภาครัฐ,
    4.สร้างสำนึกรับผิดชอบ ให้ทุกคนรู้สึกว่าเป็นเจ้าของในทรัพยากร เป็นเจ้าของประเทศ เพื่อให้มีความรู้สึกหวงแหน ไม่ยอมให้ถูกเอาเปรียบ, 
    5.สร้างประสิทธิภาพต่อการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร,
    6.เน้นความโปร่งใสของการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด,
    7.ประชาชนต้องมีส่วนร่วม และ
    8.ยกระดับคุณธรรม จริยธรรมขของประชาชนและผู้มีอำนาจ


 :41: :41: :41: :41:

"ทั้งหมดนี้เป็นเพียงแนวทางที่จะนำไปสู่การลดระดับการทุจริตในประเทศได้ สิ่งที่สำคัญของการวางแผนคือ การให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะในช่วงเวลาการปฏิรูปประเทศ ต้องไม่ขีดกรอบให้การวางแผนปฏิรูปจำกัดแค่สภาปฏิรูปฯ จำนวน 250 คนเท่านั้น เพราะประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคน และระยะเร่งด่วนที่มีสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทำหน้าที่อยู่ คือการยกร่างกฎหมายที่ว่าด้วยผลประโยชน์ที่ขัดกัน เพื่อใช้เป็นกลไกคุมนักการเมือง รวมถึงออกกลไกที่สนับสนุนต่อการคัดกรองบุคคลที่จะเข้าสู่อำนาจ ทั้งด้านจริยธรรม และคุณธรรม" ดร.ถวิลวดี สรุปทิ้งท้าย

 ans1 ans1 ans1 ans1

รวมถึง ศ.เกียรติคุณ นพ.เกษม วัฒนชัย  องคมนตรี กล่าวเปิดงานตอนหนึ่งในงานครบรอบ 9  ปี สทศ.และเฉลิมฉลอง 130 ปี แห่งการวัดและประเมินผลการศึกษาไทย ที่สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ(สทศ.)(องค์การมหาชน)จัดขึ้นที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่นเมื่อวันที่ 3 ก.ย.2557ว่า การศึกษาซึ่งในอดีตความรู้จะคู่คุณธรรม ทุกวิชาต้องมีคุณธรรมกำกับ  แต่ 10 ปีที่ผ่านมาเป็นทศวรรษแห่งความมืดมน เพราะนโยบายทางการเมืองที่ผ่านมาเป็นเรื่องประชานิยม ประชาชนถูกมอมเมาด้วยวัตถุนิยม บริโภคนิยม สื่อมวลชนก็มอมเมาในทางโลก โกรธ หลง ทำให้ศีลธรรมแฟบ สังคมเฟะ ประชาชนฟอน และส่งผลให้คนไทยมีค่านิยมผิดๆ ไม่ว่าจะเป็นเกรงใจคนโกงที่มีอำนาจ ยอมรับคนผิดที่ร่ำรวย ยึดแต่รูปแบบอ้อนสาระและคุณค่า ฉาบฉวยมักง่ายและค่านิยมที่เกินงาม

ขณะที่ในวงการศึกษาก็มีคอรัปชั่นรุนแรงมาก ซึ่งทุจริตในวงการศึกษาเป็นการทำลายประเทศชาติอย่างมาก  ประเทศไทยควรมาทบทวนในเรื่องการจัดการศึกษาว่าเป็นอย่างไร โดยที่ผ่านมา คนทั่วไปมักพูดว่าเด็กไทยเรียนหนักและทำการบ้านมากเกินไป และสพฐ.ก็เตรียมที่จะปรับลดเวลาเด็ก แต่ก่อนที่จะไปตัดสินใจว่าเป็นอย่างไร โดยส่วนตัวก่อนคิดว่าควรมีการทำวิจัยศึกษาในเรื่องดังกล่าวเพื่อดูว่าจริงๆ แล้วเราจัดการเรียนการสอนมากเกินไปจริงๆหรือไม่

 :25: :25: :25: :25:

จากสถานการณ์ปัจจุบันข้างต้นนั้นแสดงให้เห็นว่านอกจากกลไกปกติที่อยู่ในสังคมไทยนั้นยังไม่เพียงพอในการป้องกันและปราบปราบการทุจริตคอร์รัปชั่น จำเป็นจะต้องนำหลักธรรมในพระพุทธศาสนาเข้ามาเป็นตัวช่วยซึ่งมีอยู่หลายหัวข้อด้วยกันอย่างเช่น ศีล 5 หิริ โอตัปปะ แต่ในชั้นนี้ได้ตั้งสมมติฐานว่า "ขันติธรรม" น่าจะมีส่วนช่วยได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งการอดกลั้นแต่สิ่งยั่วยุซึ่งเสี่ยงต่อการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นเทคนิควิธีของ "ขันติธรรม" จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจในการนำมาประยุกต์ใช้


ขอบคุณภาพและบทความจาก
http://www.komchadluek.net/detail/20140903/191414.html
บันทึกการเข้า
ปัญจะมาเร ชิเนนาโถ ปัตโต สัมโพธิมุตตะมัง จตุสัจจัง ปะกาเสติ มหาวีรัง นะมามิหัง ปัญจะมาเร ปลายิงสุ